first aid book

40
ชโลทร ชูสอน Writing and illustrator

Upload: chalothorn-choosorn

Post on 23-Mar-2016

220 views

Category:

Documents


1 download

DESCRIPTION

FirstAidBOOK

TRANSCRIPT

Page 1: First Aid BOOK

ชโลทร ชูสอน Writing and illustrator

Page 2: First Aid BOOK

นางสาวชโลทร ชูสอน

533220030-4

ศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบนิเทศศิลป์

Page 3: First Aid BOOK

การปฐมพยาบาล หมายถึง การปฏิบัติ

การให้ความช่วยเหลือ หรือการรักษาพยาบาลในขั้นแรก

แก่ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุ หรือผู้ป่วยโดยปัจจุบันทันด่วน

ก่อนที่ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาพยาบาล จากแพทย์

ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยพ้นจากอันตราย

หรือลดอันตรายให้น้อยลงก่อนที่แพทย์

จะรักษาในขั้นต่อไป

Page 4: First Aid BOOK

สารบัญการปฏิบัติสำาหรับ

กรณีฉุกเฉิน

สายด่วนฮอท

ไลน์ศูนย์สื่อสาร

สาธารณสุข อุปกรณ์ปฐมพยาบาล

ยาที่ควรมีไว้ในตู้ยา

ประจำาบ้าน FIRST AID

123

4บาดเจ็บที่ตา...............................................................7

กระดูกหัก.................................................................8

เลือกออก.................................................................8

ช็อค.........................................................................9

สำาลักหรือมีสิ่งของไปอุดที่หลอดลม............................10

ไฟฟ้าช็อต................................................................11

สัตว์กัด....................................................................13

ทากดูดเลือด.............................................................13

อาการแพ้พิษแมลงที่ต้องไปพบแพทย์ทันที..................14

โดนพิษสัตว์ทะเล.......................................................15

ลมพิษ......................................................................16

Page 5: First Aid BOOK

สารบัญ

FIRST AID

เป็นลม.......................................................................16

เลือดกำาเดาออก..........................................................17

เลือดออกไม่หยุดหลังการถอนฟัน................................17

หูอื้อ..........................................................................18

ของเข้ารูจมูก..............................................................18

ของเข้าหู....................................................................19

คันในหู (เพราะเชื้อรา)..................................................19

แมลงเข้าหู..................................................................20

หอบ-หืด....................................................................20

พุ-พอง......................................................................21

ไฟไหม้ น้ำาร้อนลวก......................................................21

ฟอกช้ำา หัวโน ห้อเลือด.................................................22

ข้อเคล็ด.....................................................................22

การทำาแผลทั่วไป.........................................................23

ท้องเดิน ท้องร่วง ท้องเสีย............................................27

ท้องผูก......................................................................28

อาการปวดท้องที่ควรไปพบแพทย์ทันที.........................29

ตะคริว......................................................................30

ก้างติดคอ..................................................................30

กินยาพิษ...................................................................31

ถูกแก๊สพิษ................................................................33

Page 6: First Aid BOOK

1. ตั้งสติให้ได้อย่าตกใจ

2. ขอความช่วยเหลือ หน่วยการแพทย์

ฉุกเฉิน โทร.1669

3. ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่น

ช่วยหายใจ

ห้ามเลือด

การจัดให้พัก

การห่มผ้าให้ความอบอุ่น

การปฏิบัติสำาหรับ

กรณีฉุกเฉิน

1 2

Page 7: First Aid BOOK

ขอความช่วยเหลือจาก

สายด่วนฮอทไลน์ศูนย์สื่อสารสาธารณสุข “นเรนทร” 1669

หรือ 0-2951- 0282

เหตุด่วนเหตุร้าย 191 หรือ 0-2246-1338-42

เพลิงไหม้199 หรือ 0-2246-0199

จส.100 0-2711-9150 หรือ

0-2711-9151-8

สวพ.91 1644

หรือ 0-2562-0033-5

หรือ 0-2941-0848

ร่วมด้วยช่วยกัน 1677 หรือ

0-2644-6996

กู้ภัยร่วมกตัญญู

0-2751-0951-3

หน่วยแพทย์กู้ชีวิตวชิรพยาบาล

1554

หมายเลขโทรศัพท์

กรณีฉุกเฉิน

การปฏิบัติสำาหรับ

กรณีฉุกเฉิน

1 2

Page 8: First Aid BOOK

สำาลี

ผ้ากอซแผ่นชนิดฆ่าเชื้อทำาความสะอาด (แอลกอฮอล์)

คีมสำาหรับบ่งเสี้ยน

ผ้าสามเหลี่ยม

ผ้ากอซพันแผลขนาดต่าง ๆ เช่น1 นิ้ว 2 นิ้ว 3 นิ้ว หรือ 4 นิ้ว

กรรไกรขนาดกลาง

เข็มกลัดซ่อนปลาย

แก้วล้างตา

พลาสเตอร์ม้วน หรือชิ้น

ผ้ายืดพันแก้เคล็ด

ขัดยอก(Elastic bandage)

ผ้ากอซชุบพาราฟินสำาหรับปิดแผลไฟไหม้

อุปกรณ์ปฐมพยาบาล

3 4

Page 9: First Aid BOOK

ยาที่ควรมีไว้ใน

ตู้ยาประจำาบ้าน

3 4

ยาแก้ปวดลดไข้เช่น ยาเม็ดพาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม

ยาแก้แพ้ลดน้ำามูก เช่น ยาเม็ดคลอเฟนนิรามีน4 มิลลิกรัม

และ 2 มิลลิกรัม

ยาแก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ เช่น ยาธาตุน้ำาแดง ยาธาตุน้ำาขาว

โซดามิ้นท์ ขมิ้นชันแคปซูล

ยาโรคกระเพาะ เช่น ยาเม็ดอลูมินาแมกนิเซีย ไตรซิลลิเคท

ยาแก้ท้องเสีย เช่น ยาน้ำาเคาลินเปคติน ผงน้ำาตาลเกลือแร่

ยาใส่แผล เช่น ทิงเจอร์แผลสด ไอโปดีน

ยาล้างตา โบริคโซลูชั่น

ยาทาแก้แพ้แก้คัน คาลาไมน์

ยาล้างแผล เช็ดแผล เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แอลกอฮอล์เช็ดแผล

ยาทานวด เช่น ขี้ผึ้งปวดบวม ครีมระกำา GPO บาล์ม

ยาแก้ไอผู้ใหญ่เช่น ยาแก้ไอน้ำาดำา ยาขับเสมหะ

ยาแก้ไอเด็ก เช่น ยาแก้ไอขับเสมหะ ยาแก้ไอเด็กเล็ก

ยาระบาย เช่น ยาระบายแมกนีเซีย ชามะขามแขก ยาเม็ดมะขามแขก

ยาสูดดม เช่น เหล้าแอมโมเนีย

Page 10: First Aid BOOK

FIRST AID

Page 11: First Aid BOOK

FIRST AID

Page 12: First Aid BOOK

หากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาขาว

ขยี้ตาเบา ๆ กระพริบตา ล้างตา หรือเงยสายตาขึ้น

ด้านบน แล้วใช้มุมผ้าเช็ดหน้าเขี่ยผงออก ถ้าเขี่ยไม่ออกให้รีบ

พาไปพบแพทย์

ถ้าถูกกระแทกที่ดวงตา

ให้ประคบด้วยความเย็นทันทีแล้วรีบพาไปพบแพทย์

บาดเจ็บที่ตาหากกรดหรือด่างเข้าตา

อย่าขยี้ตา ให้ล้างด้วยน้ำา

สะอาดมาก ๆ แล้วรีบพาไปพบ

แพทย์

หากถูกของแหลมทิ่ม ให้นอนหลับตา ปิดตาด้วยผ้า

กอซ หรือผ้าเช็ดหน้า

อย่าขยับสายตาไปมา แล้วรีบพาไปพบ

แพทย์ทันที

7 8

Page 13: First Aid BOOK

กระดูกหัก

ให้วางอวัยวะส่วนนั้น ๆบนแผ่นไม้หรือหนังสือ

หนา ๆ ใช้ผ้าพันยึดไม่ให้เคลื่อนไหว

ถ้าเป็นปลายแขน หรือมือ ให้ใช้ผ้าคล้องคอ

1. ใช้นิ้วกดบาดแผลประมาณ 10 นาทีหรือบีบเนื้อ

ข้าง ๆ มาปิดแผล

2. ใช้ผ้าหรือเนคไทพันปิดบาดแผลไว้

อย่าให้แน่นจนชา

3. แผลที่แขน หรือขา ให้ยกสูง ถ้าเลือดไหลไม่หยุด

ให้กดเส้นเลือดใหญ่ที่ไปเลี้ยงแขน หรือขา

เลือดออก

7 8

Page 14: First Aid BOOK

สาเหตุจากโรคหัวใจกำาเริบ เกิดการบาดเจ็บรุนแรงมาก ไฟไหม้น้ำาร้อนลวก

เลือดออกมาก กระดูกหัก อาเจียน หรือท้องเสียรุนแรง

ช็อค

การปฐมพยาบาล1. ให้นอนราบ ห่มผ้า คลายเสื้อผ้า

2. ถ้าเลือดออกห้ามเลือด

3. อย่าเคลื่อนไหวผู้ป่วย ถ้าบาดเจ็บ

ที่อกท้อง ศีรษะ

ให้หนุนศีรษะและบ่าให้สูงกว่าลำาตัว

เล็กน้อย คอยปลอบใจ

4. ถ้ากระหายน้ำามาก ให้หยดน้ำาที่ริม

ฝีปากนิด ๆ ห้ามรับประทานสิ่งใด ๆ

5. รีบนำาส่งโรงพยาบาล

อาการหนาวเย็น เหงื่อออก เวียนศีรษะ หายใจเร็วขึ้น

ชีพจรเร็วแต่แผ่ว กลัว กระหาย

9 10

Page 15: First Aid BOOK

ทารก

ให้ตบกลางหลังอย่างรวดเร็ว4 ครั้ง ในท่าที่ศีรษะอยู่ต่ำากว่าปอด

เด็กเล็ก

ให้ตบกลางหลังหนัก ๆ4 ครั้ง ในท่าที่ศีรษะอยู่ต่ำากว่าปอด

เด็กโตและผู้ใหญ่ ให้ตบหนัก ๆ และเร็ว ๆ กลางหลัง4 ครั้ง ในท่าที่ศีรษะ อยู่ต่ำากว่าปอด

สำาลัก หรือมีสิ่งของไปอุดหลอดลม

9 10

Page 16: First Aid BOOK

ไฟฟ้าช็อต1. หากพบผู้ถูกกระแสไฟฟ้าดูดให้ตัดการ

จ่ายไฟ เช่น คัทเอ้าท์หรือ เต้าเสียบ

2. ถ้าไม่สามารถปิดสวิตซ์ไฟได้ห้ามใช้มือจับ

ต้องคนที่กำาลังถูกไฟช็อต

แล้วใช้สิ่งที่ไม่นำาไฟฟ้า เช่น ไม้กวาดเก้าอี้ไม้

เขี่ยออกจากสายไฟ หรือเขี่ยสายไฟ

ออกจากตัวผู้บาดเจ็บ

3. เมื่อตัวผู้บาดเจ็บหลุดออกมาแล้ว รีบ

ปฐมพยาบาล ถ้าหยุดหายใจ ให้ทำาการเป่า

ปากช่วยหายใจ ถ้าคลำาชีพจร

ไม่ได้ให้นวดหัวใจแล้วรีบนำาไปโรงพยาบาล

การปฐมพยาบาลต้องทำาทันทีที่ช่วยเหลือผู้ป่วยออกมา

และควรนำาส่งโรงพยาบาลขณะนำาส่งจะต้องทำาการ

ปฐมพยาบาลตามขั้นตอนดังกล่าวตลอด

11 12

Page 17: First Aid BOOK

การปฐมพยาบาลขั้นต้นเมื่อผู้บาดเจ็บจาก

การถูกไฟฟ้าช็อตหยุดหายใจ

1. วางผู้ป่วยให้นอนหงาย แล้วช้อนคอผู้ป่วยให้แหงนขึ้น

2. ตรวจดูว่ามีสิ่งอุดตันในช่องปากหรือไม่หากพบให้นำาออกและช่วยเป่า

ปากโดยใช้นิ้วง้างปากและบีบจมูกของผู้ป่วย

3. ประกบปากของผู้ป่วยให้สนิท เป่าลมเข้าแรงๆ โดยเป่า

ปากประมาณ 12-15 ครั้ง/นาทีสังเกต การขยายของ

หน้าอก

หากเป่าปากไม่ได้ให้เป่าจมูกแทน

4. หากหัวใจหยุดเต้น ต้องนวดหัวใจโดยวางผู้ป่วยนอนราบแล้วเอามือกด

เหนือลิ้นปี่ให้ถูกตำาแหนง่(ดังรูป)กดลงไปเป็น

จังหวะเท่ากับการเต้นของหัวใจ(ผู้ใหญ่ประมาณนาทีละ 60 ครั้ง เด็กประมาณ

80 ครั้ง)

5. ฟังการเต้นของหัวใจสลับกับการกดทุกๆ 10-15 ครั้ง

6. ถ้าหยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้นให้เป่าปาก2 ครั้ง นวดหัวใจ 15 ครั้งสลับ

กัน และถ้ามีผู้ช่วยเหลือ2 คน ต้อง

สลับกันเป่าปาก 1 ครั้ง นวดหัวใจ 5 ครั้ง

11 12

Page 18: First Aid BOOK

1. ห้ามดึง เพราะเลือดจะหยุดยาก

2. จี้ทากด้วยบุหรี่ติดไฟ หรือไม้ขีดไฟให้ทากหลุด

3. ล้างแผลให้สะอาด ใส่ทิงเจอร์แผลสด หรือเบตาดีน

สัตว์กัดสุนัขกัด1. ล้างแผลด้วยน้ำาสะอาด ปิดด้วยผ้ากอซสะอาด

2. ถ้าเลือดออก ห้ามเลือดทันที

(ด้วยผ้ากอซ หรือบีบแผล)

3. รีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีน

งูกัด

1. ดูรอยแผล ถ้าเป็นงูมีพิษ จะมีรอยเขี้ยว

2. ใช้เชือก หรือยาง หรือเข็มขัดรัดเหนือแผล

ให้แน่นพอควร และคลายทุก15 นาที

3. ให้นอนนิ่ง ๆ คอยปลอบใจ

4. ห้ามดื่มสุรา ยาดองเหล้า ยากล่อมประสาท

5.ถ้าหยุดหายใจให้ช่วยหายใจทันที

6. ควรนำางูไปพบแพทย์ด้วย ถ้าทำาได้

อาการแพ้พิษแมลง

ที่ต้องไปพบแพทย์ทากดูดเลือด

13 14

Page 19: First Aid BOOK

ช็อค เวียนศีรษะ ตัวซีด เหงื่อออก

อาเจียน หายใจลำาบาก ผื่นขึ้นที่ตา ตาบวม

อาการแพ้พิษแมลง

ท่ีต้องไปพบแพทย์

แมลงต่อย1. ถ้าถูกต่อยหลายตัว หรือ

ต่อยบริเวณหน้า ให้รีบไปพบ

แพทย์

2. พยายามถอนเหล็กใน (โดย

ใช้หลอดกาแฟเล็ก ๆ แข็ง ๆ

หรือปากกาครอบแล้วกด

ให้เหล็กในโผล่แล้วดึงเหล็กในออก)

3.ใช้ยาแก้แพ้ทา หรือราดด้วยน้ำาโซดาหรือประคบด้วย

น้ำาแข็ง (ปกติอาการบวมจะลดลงใน 1 วัน ถ้าไม่ลดให้พบแพทย์)

4. ถ้ามีอาการปวด กินยาแก้ปวด (พาราเซตามอล)

13 14

Page 20: First Aid BOOK

โดนพิษสัตว์ทะเล1. โดนเงี่ยงปลาที่มีพิษแช่น้ำาร้อนพอทน (40 องศาเซลเซียส หรือ 104 องศา

ฟาเรนไฮต์) นาน 4-5 นาที

จะช่วยให้หายปวด

2. โดนแมงกระพรุนไฟใช้ทราย หรือผักบุ้งทะเลถูเมือกออก

ล้างด้วยน้ำาสบู่

ทาด้วยน้ำาปูนใส แอมโมเนีย เพรดนิโซโลนครีม

หรือเบตาเมทธาโซนครีม

1. ห้ามคนมุงดูพาเข้าที่ร่มให้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก

2. คลายเสื้อผ้าออกให้หลวม

3. จัดให้นอนตะแคงหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อป้องกันในเรื่อง

ทางเดินหายใจอุดตัน โดยเฉพาะลิ้นของผู้ป่วย มักจะตกไป

ทางด้านหลังของลำาคอ ทำาให้หายใจไม่ออก

4. ใช้ผ้าชุบน้ำาเช็ดหน้าผาก มือและเท้า

5. ถ้าอาการไม่ดีขึ้น รีบนำาส่งโรงพยาบาล

15 16

Page 21: First Aid BOOK

ลมพิษสาเหตุโดนสารที่แพ้พืช สารเคมีแพ้อาหารทะเล เหล้า เบียร์ละอองต่าง ๆ

การปฐมพยาบาลทายาแก้ผดผื่นคัน คาลาไมน์ เพรดนิโซโลนครีม หรือเบตาเมทธา

โซนครีม

กินยาแก้แพ้คลอเฟนนิรามีน ขนาด 4 มิลลิกรัม 1 เม็ด

หาสาเหตุที่แพ้

ถ้าผื่นไม่ยุบลง และเพิ่มมากขึ้นให้รีบไปพบแพทย์

1. ห้ามคนมุงดูพาเข้าที่ร่มให้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก

2. คลายเสื้อผ้าออกให้หลวม

3. จัดให้นอนตะแคงหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อป้องกันในเรื่อง

ทางเดินหายใจอุดตัน โดยเฉพาะลิ้นของผู้ป่วย มักจะตกไป

ทางด้านหลังของลำาคอ ทำาให้หายใจไม่ออก

4. ใช้ผ้าชุบน้ำาเช็ดหน้าผาก มือและเท้า

5. ถ้าอาการไม่ดีขึ้น รีบนำาส่งโรงพยาบาล

เป็นลม

15 16

Page 22: First Aid BOOK

เลือดกำาเดาออกสาเหตุจากการกระแทก สั่งน้ำามูก การแคะจมูก

การปฐมพยาบาล1. นั่งลง ก้มศีรษะเล็กน้อย บีบจมูกนาน

10 นาที (หายใจทางปาก)

2. วางน้ำาแข็ง หรือผ้าเย็น ๆ บนสันจมูกหน้า

ผาก ใต้ขากรรไกร

3. ถ้าไม่หยุด รีบไปพบแพทย์

1. กัดผ้ากอซชิ้นใหม่ซ้ำา อมน้ำาแข็ง

(ห้ามบ้วนน้ำาหรือน้ำายาบ้วนปาก)

2. ประคบน้ำาแข็งนอกปาก

3. ถ้ายังไม่หยุดให้รีบไปพบแพทย์

เลือดออกไม่หยุด

หลังการถอนฟัน

17 18

Page 23: First Aid BOOK

1. บีบจมูกข้างที่ไม่มีของแล้ว

สั่งออกมาแรง ๆ

2. อย่าพยายามแคะออก

3. ถ้าเป็นเด็กให้หันเหความสนใจจากจมูก

ให้หายใจทางปาก

4. รีบไปพบแพทย์ทันที

ของเข้ารูจมูก

หูอื้อกรณีเป็นหูน้ำาหนวกอยู่ให้รีบ

รักษาให้หาย

กรณีหูอื้อไม่ทราบสาเหตุอาจ

จะมาจากการมีขี้หูมาก ขี้หู

เหนียว ให้ไปพบแพทย์

เพื่อดึงขี้หูหรือดูดขี้หูออก

17 18

Page 24: First Aid BOOK

ของเข้าหู1. ตะแคงศีรษะ หันหูข้างที่มีของ

เข้าไปลง เพื่อให้ของหล่น

ออกมาเอง

2. ถ้าไม่ออก ห้ามแคะหูให้รีบไป

พบแพทย์

คันในหู (เพราะเป็นเชื้อรา)ใช้ไม้พันสำาลีชุบทิงเจอร์แผลสด ทาในรูหูวันละ 2-3 ครั้ง

19 20

Page 25: First Aid BOOK

แมลงเข้าหูพาไปหาที่มืด ใช้ไฟฉายส่อง (ให้

แมลงออกมาตามแสง)

หรือ หยอดด้วยน้ำามัน หรือกลีเซอรี

นบอแรกซ์ให้แมลงลอยออกมา

แล้วจึงเขึ่ย หรือคีบออก

ถ้าไม่ออกให้รีบไปพบแพทย์ทันที

หอบ - หืด1. ให้ผู้ป่วยนั่ง หรือยืนในท่าเอนตัวไปข้างหน้า

ให้หลังและหน้าอกตรง

2. คลายเสื้อผ้าให้อากาศบริสุทธิ์ผ่านเข้าห้อง

3. ปลอบมิให้ตกใจ วิตก กังวล

4. ถ้าเป็นครั้งแรกรีบไปพบแพทย์ทันที

5. กรณีผู้ป่วยพ่นยา หรือกินยาประจำาให้รีบ

ใช้ยาทันที

19 20

Page 26: First Aid BOOK

กรณีแผลพ ุ พองจากการเสียดสี ไฟไหม้

น้ำาร้อนลวก ผิวหนังชั้น นอกแยกจาก

ชั้นใน มีน้ำามาขังอยู่

การปฐมพยาบาลถ้าแผลเล็ก ไม่ต้องทำาอะไร ปกติร่างกายจะดูดซึมน้ำา

กลับไปเอง และผิวหนังชั้นนอกจะลอกตัวไป

ถ้าบริเวณที่พุพองขยายตัวกว้างขึ้นให้รีบไปพบแพทย์

1. ฉีก หรือตัดเสื้อผ้าบริเวณที่ถูกน้ำาร้อนลวกออก

2. เสื้อผ้าที่ไหม้ไฟและดับแล้ว ถ้าติดที่แผล ไม่ต้อง

ดึงออก

3. ถอดเครื่องประดับที่รัดอยู่ เช่น แหวน เข็มขัด

นาฬิกา รองเท้า

(เพราะอาจจะบวมทำาให้ถอดยาก)

4. ทำาให้บริเวณที่ถูกไฟไหม้น้ำาร้อนลวกเย็นลงโดย

เร็วที่สุด (ทำาอย่างน้อย 10 นาที)

5. ใช้ผ้ากอซปราศจากเชื้อปิดแผล กรณีแผลใหญ่

ใช้ผ้าปิดพันด้วยผ้ายืดหลวม ๆ

ไฟไหมน้้ำ ร้อน

21 22

Page 27: First Aid BOOK

ให้ประคบความเย็นเร็วที่สุด

เพื่อลดอาการบวม หรือใช้

มะนาวผสมดินสอพองพอกไว้

(ปกติรอยฟกช้ำาจะหายไปเอง)

ถ้าเกิดอาการนานเกิน 24

ชั่วโมง ใช้ประคบ และคลึงด้วย

ผ้าชุบน้ำาร้อน วันละ2-3 ครั้ง

ข้อเคล็ดให้บริเวณข้อนั้น ๆ อยู่นิ่ง ๆ และยกสูงไว้

ประคบน้ำาแข็งทันทีเพื่อลดอาการบวม ปวด

ถ้าภายหลังมีอาการบวม ให้ประคบด้วยน้ำาร้อน หรือนวดด้วย

ยาหม่อง

หรือน้ำามันระกำา หรือGPO บาล์ม

ถ้าปวดมาก บวมมาก ให้รีบปรึกษาแพทย์

จากการเสียดสี ไฟไหม้

น้ำาร้อนลวก ผิวหนังชั้น นอกแยกจาก

ชั้นใน มีน้ำามาขังอยู่

การปฐมพยาบาลถ้าแผลเล็ก ไม่ต้องทำาอะไร ปกติร่างกายจะดูดซึมน้ำา

กลับไปเอง และผิวหนังชั้นนอกจะลอกตัวไป

ถ้าบริเวณที่พุพองขยายตัวกว้างขึ้นให้รีบไปพบแพทย์

ฟกช้ำาหัวโน ห้อเลือด

21 22

Page 28: First Aid BOOK

1. ล้างมือให้สะอาด

2. ทำาแผลที่สะอาดก่อนแผลที่สกปรก

3. เช็ดรอบแผลด้วยสำาลีชุบแอลกอฮอล์ (เช็ดจากข้างใน

วนมาข้างนอกทางเดียว)

4. ปิดด้วยผ้ากอซ หรือผ้าสะอาด

5. อย่าให้ถูกน้ำาอีก เพราะจะทำาให้เป็นหนองหรือหายช้า

การทำาแผลทั่วไป

23 24

Page 29: First Aid BOOK

ล้างด้วยน้ำา และสบู่ให้สิ่งสกปรกออกให้หมด

เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ทาทิงเจอร์แผลสด

หรือ เบตาดีน

ไม่ต้องปิดแผล

บีบเลือดออกบ้าง

ล้างด้วยน้ำาสะอาด และสบู่

ใส่ยาทิงเจอร์แผลสด หรือเบตาดีน

ปิดแผล เพื่อให้ขอบแผลสมานติดกัน

กรณีแผลถลอกทั่วไป

กรณีแผลตื้น หรอืมีดบาด (เลือดออกไม่มาก)

23 24

Page 30: First Aid BOOK

ห้ามเลือดทันที

จัดให้อวัยงะส่วนที่มีกระดูกหักอยู่กับที่

หรือใช้การดาม

ใช้ผ้าสะอาดคลุม

ห้ามจับกระดูกยัดกลับเข้าไป

รีบพาไปพบแพทย์ทันที

กรณีแผลมีหนองล้างด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือเดกิ้นโซลูชั่น ทุกวัน

เช็ดด้วยสำาลี

รับประทานยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งให้ครบ

กรณีแผลลึกถึง

กระดูก หรือกระดูก

25 26

Page 31: First Aid BOOK

ล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำา และสบู่มากๆ

ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำาความสะอาดอีกครั้ง

ปิดแผล ห้ามถูกน้ำา

ฉีดยาป้องกันบาดทะยัก

รับประทานยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งให้ครบ

ตัดมีด หรือไม้ทถีู่กแทงให้สั้นลง และยึดวัสดุนั้นให้อยู่

นิ่ง เพื่อให้เดินทางไปพบแพทย์

ได้สะดวก (ห้ามดึงออก)

ให้อยู่นิ่ง ๆ

รีบนำาส่งโรงพยาบาล

กรณีแผลตะปูตำา

กรณีแผลถูกแทงด้วยของ

แหลม มีด ไม้

25 26

Page 32: First Aid BOOK

ในเด็กโต หรือผู้ใหญ่1. งดอาหารรสจัด และย่อยยาก เลือกกินอาหารเหลว กินจนกว่าอาการ

จะดีขึ้น

2. ดื่มน้ำาเกลือแร่หรือผสมเอง (เกลือ 1/2 ช้อนชา + น้ำา 1 ขวดแม่โขง)

3. ดื่มน้ำาชาแก่ๆ

4. ถ้าถ่ายรุนแรง มีอาเจียน อ่อนเพลียมาก หน้ามืด เป็นลม

และอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง

ให้รีบไปพบแพทย์

1. งดนม และอาหาร ประมาณ 2 - 4

ชั่วโมง ดื่มน้ำาเกลือแร่

(ทารกใช้เกลือ 1/2 ช้อน + น้ำา 1 ขวดแม่โขง)

2. ถ้าเด็กหิวมากให้นมที่ชงจาง ๆทีละน้อย

3. ถ้าถ่ายท้องรุนแรง อาเจียน

ดื่มนมหรือน้ำา

ไม่ได้ (ซึม ตาโบ๋ กระหม่อมบมุ๋ หายใจหอบแรง) และไม่

ดีขึ้นใน 24 ชั่วโมง ให้ไปพบแพทย์โดยด่วน

ท้องเดิน ท้องร่วง ท้องเสีย

ในเด็กเล็ก เด็กทารก

27 28

Page 33: First Aid BOOK

27 28

ในเด็กโต หรือผู้ใหญ่ดื่มน้ำามาก ๆ กินอาหารพวกผัก

ผลไม้ งดชากาแฟ และออกกำาลังกาย

กินยาระบาย

(ชามะขามแขก ยาระบายแมกนีเซีย)

ถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรง หรืออาเจียน

รุนแรง ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว

ในเด็กเล็กดื่มน้ำามาก ๆ น้ำาส้มคั้นน้ำาลูกพรุนต้ม หรือเปลี่ยนนม

ใช้กลีเซอรีนเหน็บก้น (ของเด็ก)

ท้องผูก

Page 34: First Aid BOOK

29 30

ปวดท้องพร้อมอาเจียนเป็นเลือด

เด็กอายุต่ำากว่า 5 ขวบ หรือคนชรา

ปวดท้อง เพราะถูกกระแทก ทุบ ตีหรือ

ตกจากที่สูง

ปวดนานหลายชั่วโมง

ปวดมากจนนอนไม่หลับ

อาารปวดท้องที่ควร

ไปพบแพทย์ทันที

Page 35: First Aid BOOK

สาเหตุใช้กล้ามเนื้อมัดนั้นหนักเกินไป ความหนาวเย็น

การสูญเสียน้ำาและเกลือแร่ (อาเจียน ท้องเสีย เหงื่อออก)

การปฐมพยาบาล1. การยืดกล้ามเนื้อส่วนนั้นออกโดย

ถ้าเป็นที่มือ ให้ยืดนิ้วมือ ดัดปลายนิ้ว

ถ้าเป็นที่เท้า ให้ยืดนิ้วเท้ายืนเขย่ง

ถ้าเป็นที่ต้นขา ให้นั่งลง เหยียดเท้า กดที่หัวเข่า และช่วยนวด

เท้า ถ้าเป็นที่น่อง ให้นั่งลง ยืดขา

2. ถ้าเป็นเพราะเสียเหงื่อ เสียน้ำา ให้ดื่มน้ำาเกลือ (เกลือ 1/2

ช้อนชา ผสมน้ำา 1 ขวดแม่โขง)

1. กลืนก้อนข้าวสุก หรือขนมปังนิ่ม ๆ

2. ถ้ายังไม่หลุด กลืนน้ำาส้มสายชูเจือจาง

เพื่อให้ก้างอ่อนลง

3. ถ้าไม่หลุด ควรไปพบแพทย์

ก้างติดคอ

ตะคริว

29 30

Page 36: First Aid BOOK

ยาพิษที่มีฤทธิ์กัดตัวอย่างเช่น กรด ยาฆ่าเชื้อ ยาขัดพื้น น้ำายาล้างสีผงขัดถูแชมพู

แอลกอฮอล์ทาแผล ยางสน น้ำายาขัดเงา

ผงและน้ำายาซักผ้า โซดาซักล้าง สีย้อมเนื้อไม้ผงซักฟอก ยาล้างห้องน้ำา

กินยาพิษ

การปฐมพยาบาล1. สังเกตรอยไหม้บริเวณริมฝีปากและปาก

2. มองหาภาชนะบรรจุยาพิษที่ตกอยู่ใกล้ผู้ป่วย

และนำาภาชนะบรรจุยาพิษไปโรงพยาบาลด้วย

3.เรียกรถพยาบาลทันที

4. ดื่มนมมาก ๆ (โดยให้จิบทีละน้อย เพราะนมจะช่วย

ทำาให้พิษเจือจางลง) ถ้าหานมไม่ได้

ให้ดื่มน้ำาสะอาด

5. ห้ามทำาให้อาเจียน ถ้าผู้ป่วยหมดสติห้ามกรอกน้ำา

หรือของเหลวเข้าปากผู้ป่วย ถ้าหยุดหายใจ ให้รีบช่วย

หายใจและเรียกรถพยาบาลทันที

31 32

Page 37: First Aid BOOK

ยาพิษที่ไม่มีฤทธิ์กัด

ตัวอย่างเช่น แอลกอฮอล์ (เอทธิล

แอลกอฮอล์) แอสไพริน ผลไม้ป่ามีพิษ เห็ดพิษ ยา

แผนปัจจุบัน

การปฐมพยาบาล1. มองหาภาชนะบรรจุยาพิษที่ตกอยู่ใกล้ผู้ป่วย

นำาไปโรงพยาบาล

2. ถ้าทราบว่าเพิ่งรับประทานยาเข้าไปพยายาม

ทำาให้อาเจียน ถ้าไม่ออก ให้ดื่มน้ำามาก ๆ พยายาม

ล้วงคอให้อาเจียน นำาเศษอาเจียนไปให้แพทย์ดูด้วย

(ถ้าทำาได้)

3. ถ้ากินยาพิษเข้าไประยะหนึ่งแล้วอย่าทำาให้อาเจียน

เพราะพิษถูกดูดซึมภายหลัง

31 32

Page 38: First Aid BOOK

ตัวอย่างเช่น คาร์บอนมอน

นอกไซด์จะมีอาการปวดศีรษะ

สับสน หายใจลำาบาก อาจจะหมดสติ

ผิวหน้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ถ้าใน

ขณะที่ได้รับแก๊สเพิ่มขึ้น

ถูกแก๊สพิษ

วิธีปฐมพยาบาล1. ให้ได้อากาศบริสุทธิ์เร็วและมากที่สุด

(อาจจะเปิด หรือทุบกระจกประตูหน้าต่าง)

2. คลายเสื้อผ้าให้หลวม ปฐมพยาบาลเหมือนคนช็อค

(ห่มผ้าให้อบอุ่น)

3. ถ้าหยุดหายใจ ให้รีบช่วยหายใจ

4. ดูการหายใจและจับชีพจรอย่างใกล้ชิด

5. เรียกรถพยาบาลทันที

33 34

Page 39: First Aid BOOK

33 34

Page 40: First Aid BOOK