167 · web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร...
TRANSCRIPT
![Page 1: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/1.jpg)
163. สิง่ใดที่เป็นสาเหตทุี่ทำาใหป้ระสทิธภิาพของหมอ้แปลงไมถึ่ง 100% 1.การเกิดกระแสไหลวน2.ขดลวดทติุยภมูมิคีวามต้านทาน3.อุปกรณ์ไฟฟา้ที่ใชก้ับหมอ้แปลงมปีระสทิธภิาพน้อยคำาตอบที่ถกูต้องคือ
ก. ขอ้1 และ 2ข. ขอ้1 และ 3ค. ขอ้ 1ง. ขอ้ 2 และ 3
เฉลย ขอ้ ก. แนวคิด การเกิดกระแสไหลวนในแกนเหล็ก (eddy current) และการมคีวามต้านทานในขดลวด ทำาให้
เกิดความรอ้น (เป็นพลังงานที่สญูเสยีไป) ประสทิธภิาพจงึไมถึ่ง100%
164. เมื่อนำาปลัก๊ของหมอ้แปลงโวลต์ตำ่า ซึ่งต่อกับวงจรไฟฟา้ต่อกับแหล่งกำาเนิดไฟฟา้กระแสตรงซึ่งมแีรงเคล่ืน
ไฟฟา้220 โวลต์ เกิดอะไรขึ้นกับขดลวดทตุิยภมูิ
ก.ไมม่กีระแสไฟฟา้ข. ได้ไฟฟา้กระแสตรงความต่างศักย์0-12 โวลต์ค. ได้ไฟฟา้กระแสสลับความต่างศักย์0-12 โวลต์ง. ได้ไฟฟา้กระแสสลับความต่างศักย์220 โวลต์
เฉลยขอ้ ก.แนวคิด ไฟฟา้กระแสตรงD.C ทำาให้ ฟลักซแ์มเ่หล็กคงที่ จงึไมเ่กิดการเปล่ียนแปลงฟลักซแ์มเ่หล็ก (และไมม่ีกระแสไฟฟา้เหน่ียวนำาในขดทตุิยภมู)ิ
165. พลังงานไฟฟา้ที่เสยีไปในหมอ้แปลง เนื่องจาก
ก.กระแสไหลวนในแกนแมเ่หล็กข.ความรอ้นที่เกิดในขดลวดปฐมภมูิค.ความรอ้นที่เกิดในขดลวดทตุิยภมูิง. ทัง้ ก. ข. และ ค.
เฉลยขอ้ ง.แนวคิด เกิด Eddy Current จงึเกิดความรอ้นในขดลวดทัง้สอง
166. นักเรยีนต้องการซื้อหมอ้แปลง ควรพจิารณาขอ้ใด
1.ความต่างศักยท์ี่ใชใ้นขดลวดปฐมภมูิ2.ความต่างศักยท์ี่ได้ในขดลวดทติุยภมูิ3.กำาลังไฟฟา้
![Page 2: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/2.jpg)
ก. ขอ้2 และ3ข. ขอ้1, 2 และ 3ค. ขอ้1 และ 2ง. ขอ้ 3
เฉลยขอ้ ข.แนวคิด ต้องทราบวา่ จะใชไ้ฟฟา้กี่โวลต์, ต้องการใหอ้อกมา กี่โวลต์ กำาลังสงูสดุ ที่หมอ้แปลงไฟฟา้ทนได้
167. การเปล่ียนแปลงสนามแมเ่หล็กในขอ้ใดจะทำาใหเ้กิดแรงเคล่ือนไฟฟา้ เหน่ียวนำาในขดลวดมากที่สดุ ถ้าลวดทกุขดเมื่อเริม่ต้นมฟีลักซ์
แมเ่หล็กผ่านอยา่งตัง้ฉาก
ก. สนามแมเ่หล็กเพิม่ขึ้นในทิศเดิมในอัตรา5 เทสลาต่อ 1 มลิลิวนิาที
ข. สนามแมเ่หล็กเพิม่ขึ้นตัง้ฉากกับสนามเดิมในอัตรา 4.5 เทสลาต่อ
ค.. สนามแมเ่หล็กลดลงจากเติมในอัตรา 4 เทสลาต่อ1 มลิลิวนิาที ง. สนามแมเ่หล็กเดิมขนาด 3 เทสลาเปล่ียนทิศเป็นตรงขา้มขนาดเท่าเดิมในเวลา 1 มลิลิวนิาที
เฉลยขอ้ ง.แนวคิด
ขอ้ ( ง ) มี d มากที่สดุ ( เปล่ียนแปลงมากที่สดุ และค่า หา
จาก B.A )
168. ขอ้ใดมผีลต่อแรงเคล่ือนไฟฟา้เหนี่ยวนำาที่เกิดในขดลวด 1. จำานวนรอบของขดลวด
2. สนามแมเ่หล็กที่เปล่ียนไปในขดลวด
3. ขัว้ของแมเ่หล็กที่พุง่เขา้ขดลวด ขอ้ที่ถกู คือ
ก. ขอ้ 1, 2 และ 3 ข. ขอ้1 และ2 ค. ขอ้1 และ 3 ง. ขอ้ 3
เฉลยขอ้ ก. แนวคิด E=N
จะมากน้อย ขึ้นกับ N, ขึ้นกับ ขึ้นกับขัว้แมเ่หล็กท่ีพุง่เขา้มา เพราะมผีลต่อทิศทางของการไหลของไฟฟา้เหน่ียวนำา
169. ขอ้ใดไมถ่กูต้อง ก. หมอ้แปลงไฟฟา้มแีกนทำาด้วยโลหะแผ่นบาง ๆ ซอ้นกัน เพื่อประสทิธภิาพในการถ่ายทอดพลังงาน
.ב ในการใชง้านหมอ้แปลงไฟฟา้ ขดลวดปฐมภมูขิองหมอ้แปลงต้องต่ออยูก่ับไฟฟา้กระแสสลับ
![Page 3: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/3.jpg)
ค. สำาหรบัหมอ้แปลง ชนิดแปลงขึ้น กระแสที่ออกจากขดทตุิยภมูจิะมากกวา่กระแสที่ไหลเขา้ ขดปฐมภมูิ ง. อัตราเรว็ของการหมุนของมอเตอรก์ระแสตรงขึ้นอยูก่ับกระแสในขดลวด
เฉลยขอ้ ค.แนวคิด หมอ้แปลงขึ้น จะเพิม่ ทำาให้ ลดลง
= ดัง้นัน้ จะน้อยกวา่
170. ขอ้ใดเป็นสญัลักษณ์ของหมอ้แปลงไฟฟา้
เฉลยขอ้ ง.
171. ในการทดลองเรื่องหมอ้แปลงไฟฟา้เพื่อตรวจสอบแรงเคล่ือนไฟฟา้เหนี่ยวนำา อาจสรุปผลได้ตามขอ้ใด
1)สนามแมเ่หล็กที่เปล่ียนแปลงทำาใหเ้กิดแรงเคล่ือนไฟฟา้เหนี่ยวนำาได้2)กระแสไฟตรงไมก่่อใหเ้กิดแรงเคล่ือนไฟฟา้เหน่ียวนำาจากหมอ้แปลง, ถ้ากระแสสมำ่าเสมอ3)หมอ้แปลงไฟฟา้ใชไ้ด้เฉพาะไฟฟา้กระแสสลับหรอืกระแสที่ไมส่มำ่าเสมอ4)แรงเคล่ือนไฟฟา้เหนี่ยวนำาเป็นสดัสว่นโดยตรงกับจำานวนรอบของขดลวด
ขอ้สรุป คือ
ก. ขอ้ 1 , 2 และ 3 ข. ขอ้ 1 และ 3 ค. ขอ้ 2 และ 4 ง. ขอ้ 4 จ. ขอ้ 1, 2, 3, 4
เฉลยขอ้ จ
จากรูป เป็นหมอ้แปลงไฟฟา้ชนิดแปลงลงโดยแปลงจาก 400 โวลต์ ลงมาเป็น
200 โวลต์ A , B , C , D เป็นเครื่องใชไ้ฟฟา้ชนิด 1000 วตัต์
200 โวลต์ ทกุเครื่อง
จากขอ้มูลใชต้อบคำาตามขอ้ 172 - 175
![Page 4: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/4.jpg)
172. จงหาวา่ถ้ากระแสไหลในขดลวดขดที่ 1 = 20 แอมแปร์ ในขดลวดที่ 2 จะมกีระแสไฟฟา้ไหลกี่ แอมแปร์ ก. 10 แอมแปร์ ข. 20 แอมแปร์ ค. 30 แอมแปร์ ง. 40 แอมแปร์
เฉลยขอ้ ข.แนวคิด A, B, C, D ตัวละ 1000 วตัต์ ใชก้ำาลังไฟฟา้รวม 4000 วตัต์ P = I V 4000 = I ( 200 ) = 20 แอมแปร์
173. ถ้าเปิดสวติซข์องเครื่องพรอ้มกัน จงหากระแสไฟฟา้ที่ไหลในขดลวดขดที่ 1 ก. 5 แอมแปร์ ข. 8 แอมแปร์ ค. 10 แอมแปร์ ง. 15 แอมแปร์ เฉลยขอ้ ค. แนวคิด กำาลังไฟฟา้ = ยอ่มเท่ากัน = ( 400 ) = 20 x 200 = 10 แอมแปร์
174. ถ้าขดลวดขดที่ 1 มจีำานวน 400 รอบ จงหาจำานวนรอบของขดลวดขอที่ 2 ก. 8000 รอบ ข. 4000 รอบ ค. 2000 รอบ
ง. 1000 รอบ
เฉลยขอ้ ค.
แนวคิด =
=
= 2000 รอบ
175. ถ้าขณะเวลาหน่ึงวดัแรงเคล่ือนไฟฟา้ในขดลวดที่ 2 ได้ 150 โวลต์ จงหาวา่แรงเคล่ือนไฟฟา้
ในขดที่ 1 เป็นเท่าใด ก. 300 โวลต์ ข. 400 โวลต์ ค. 500 โวลต์ ง. 550 โวลต์
![Page 5: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/5.jpg)
เฉลยขอ้ ก.
แนวคิด =
=
= 300 โวลต์
176. จงหากระแสไฟฟา้ผ่านเครื่องใชไ้ฟฟา้หนึ่งซึ่งมคีวามต้านทาน 25 โอหม์ และขณะใชง้าน ต้องใชก้ับ หมอ้แปลงไฟฟา้ ซึ่งมจีำานวนของของขดลวดปฐมภมูิ และทติุยภมูเิป็น 440 รอบ และ 24 รอบ ตาม
ลำาดับ โดยความต้านทานของขดลวดทตุิยภมูเิป็น 5 โอหม์ ( ควรใชก้ับไฟฟา้บา้น ) เฉลย แนวคิด ถาม
=
=
= 12 โวลต์ แอมแปร์
177. จงหาอัตราสว่นของพลังงานความถ่ีที่สญูเสยีไปในรูปของความรอ้นภายในสายไฟกับพลังงานไฟฟา้ ที่โรงไฟฟา้จา่ยทัง้หมด เมื่อโรงไฟฟา้สง่กำาลังไฟฟา้ได ้ 1 เมกะวตัต ์ ด้วยความต่างศักย ์ 10,000 โวลต์ผ่านสายไฟยาว 1 กิโลเมตร มคีวามต้านทาน 5 โอหม์
เฉลย
แนวคิด P = I V คิดที่ลวด = I ( 10,000 ) ท่ีลวด = I = 100 แอมแปร์ = (
) (5) = 5 x วตัต์
![Page 6: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/6.jpg)
=
= 1 : 20
178.
จากรูปเป็นหมอ้แปลงแบบสมบูรณ์ เมื่อขดลวดปฐมภมูจิา่ยกำาลังไฟฟา้สงูสดุ ขดลวดทตุิยภมูจิะสามารถ
ต่อเขา้ กับเครื่องใชไ้ฟฟา้ได้ 3 ชนิดดังรูป ถ้าเครื่องใชแ้ต่ละชนิดกำาลังใชก้ลังไฟฟา้สงูสดุที่เครื่องใชแ้ต่ละจะใชไ้ด้อยู่ ขณะน ี้ กระแสไฟฟา้ในขดลวดปฐมภมูแิละทติุยภมู ิ ตามลำาดับในหน่วยแอมแปร ์ คือขอ้ใด
ก. 16 , 24 ข. 2 , 4 ค. 4 , 8 ง. 8 , 16
เฉลยขอ้ ง. แนวคิด P = 1600 = 1600 = X 100 = 8 แอมแปร ์ = 16 แอมแปร์
179. ถ้าต่อแบตเตอรี่ E = 2 โวลต์เขา้ด้านปฐมภมูขิอง หมอ้แปลงไฟฟา้ โดยมคีวามต้านทาน R = 2 โอหม์ ต่ออยูท่างด้านทติุยภมูิ ดังแสดงตามรูป ถ้าอัตราการพนัขดลวด : = 1 : 2
จงหาค่ากำาลังไฟฟา้ท่ีสญูเสยีไปในตัวความต้านทาน R วา่มค่ีาเท่าไร ก. 32 วตัต์ ข. 8 วตัต์ ค. 4 วตัต์ ง. ไมม่ี
ขอ้ใดถกู
![Page 7: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/7.jpg)
เฉลยขอ้ ง. แนวคิด ไฟกระแสตรง I คงที่. B คงที่ จงึไมเ่กิดไฟฟา้ในขดลวดที่ 2
180. หมอ้แปลงไฟฟา้มปีระสทิธภิาพ 100 % ขดปฐมภมูมิจีำานวน 100 รอบต่อไวก้ับไฟกระแสสลับที่มี แรงเคล่ือนไฟฟา้ 200 โวลต์ ขดทติุยภมูมิจีำานวน 200 รอบ และต่อไวก้ับเคล่ือนใชไ้ฟฟา้ซึ่งขณะน้ีใหก้ำาลัง
สงูสดุ 400 วตัต์ ถ้าขดลวดทติุยภมูไิมม่คีวามต้านทาน เครื่องใชไ้ฟฟา้น้ีจะมคีวามต้านทานกี่โอหม์
ก . 400 ข. 300 ค. 200 ง. 100
เฉลยขอ้ ก.
แนวคิด
400
=
โวลต์ R =
จากรูป เป็นกราฟระหวา่งกระแสในขดลวดปฐมภมูิ กับกระแสในขดลวดทตุิยภมูิ ของหมอ้แปลงแบบสมบูรณ์
จงตอบคำาถามขอ้ 181 - 182181. ถ้าขดลวดปฐมภมูิ 500 รอบ ขดลวดทตุิยภมูมิกีี่รอบ
ก. 50 รอบ ข. 100 รอบ ค. 500 รอบ
ง. 150 รอบ
เฉลย ขอ้ ก.
![Page 8: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/8.jpg)
แนวคิด slope =
= N2 = 50 รอบ
182. ขณะที่ I1 = 1 แอมแปร์ ขดลวดทติุยภมูติ่อกับความต้านทาน 1 โอหม์ จงหาแรงเคล่ือนไฟฟา้ของขดลวดปฐมภมูิ
ก. 10 โวลต์ ข. 50 โวลต์ ค. 100 โวลต์ ง. 120 โวลต์
เฉลยขอ้ ค. แนวคิด
( จากกราฟเมื่อ
จะได้ ) โวลต์
183. จากรูปที่ กำาหนดให้ ถ้าความต่างศักยข์องขดลวดเป็น สดัสว่น
โดยตรงกับจำานวนรอบ แสดงขดลวดขดลวด ที่สองจะเกิดความต่างศักยเ์ท่าใด
ก. 0 โวลต์ ข. 10 โวลต์ ค. 20 โวลต์ ง. 40 โวลต์ เฉลยขอ้ ค.
แนวคิด
โวลต์
![Page 9: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/9.jpg)
184. จากขอ้ 183 ถ้าประสทิธภิาพของหมอ้แปลงในรูปหาได้จากอัตราสว่นระหวา่งกำาลังไฟฟา้ออกมากับกำาลัง ไฟฟา้ที่ป้อนเขา้ไปในหมอ้แปลง และขดลวดขดแรกมกีระแสไฟฟา้ผ่าน 0.5 แอมแปร์ แสดงวา่หมอ้แปลงมี
ประสทิธภิาพเท่าใด * ในการใชง้านจรงิๆก. 20 % ข. 50% ค. 25 % ง. 75 %
เฉลยขอ้ ข.แนวคิด P ด้านซา้ย = P ด้านขวา ( ถ้าไมม่กีารศูนยเ์สยีพลังงานวตัต์จะเท่ากัน ) = ขดลวด + ความต้านทาน ใชง้านเพยีงครึง่เดียวทำางาน 50 %
185. หมอ้แปลงขึ้นจาก 20 โวลต์ เป็น 200 โวลต์ มปีระสทิธภิาพ 75% จงหาวา่จะมกีระแส ไฟฟา้ในขด ลวดปฐมภมูเิท่าใด เมื่อต่อปลายด้านทติุยภมูกิับปลายหลอดไฟ 200 โวลต์ 60 วตัต์
ก. 0.3 แอมแปร์ ข.0.4 แอมแปร์ ค. 3.0 แอมแปร์ ง. 4.0 แอมแปร์
เฉลยขอ้ ง.
แนวคิด %
แอมแปร์
186. จากรูป เป็นหมอ้แปลงแบบสมบูรณ์ ฟวิสท์นกระแสได้
สงูสดุ 5 แอมแปร์ จะนำาอุปกรณ์ไฟฟา้อะไรบา้งมาต่อระหวา่งปลาย
AB ได้ โดยฟวิสไ์มข่าด
1. หลอดไฟ 100 V 100 W 10 หลอดรต่อขนานกัน
2. เตารดีไฟฟา้ 100 V 1,500 W3. เตรารดีไฟฟา้ 200 V 1,500 W
ก. ขอ้1 เท่านัน้ ข. ขอ้1,3 ค. ขอ้ 2,3 ง. ขอ้ 1,2,3
เฉลยขอ้ ข. แนวคิด ฟวิสท์นได้ I = 5 แอมแปร์
เต็มที่ = IV = 5 x 200 = 1000 วตัต์
![Page 10: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/10.jpg)
ขอ้ 1. ถกู P รวม = 100 x 10 = 1000 วตัต์
ขอ้ 2. ผิด P = 1500 วตัต์ ขอ้ 3. ถกู P ใชก้ับ 100 V, วตัต์ลดลงเป็น ของเดิม
P = = 375 วตัต์
187. จำานวนขดลวดปฐมภมูขิองหมอ้แปลงมี 550 รอบ ทติุยภมูิ 30 รอบ กระแสที่ผ่านความต้านทาน 3 โอหม์
(ดังรูป) มกีี่แอมแปร์ ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4
เฉลยขอ้ ง. แนวคิด ต่อขนานกัน, โวลต์เท่ากัน ไมบ่อก r, V = E = 12 โวลต์
โวลต์ V = IR12 = I (3) I = 4 แอมแปร์
13.26 การสง่กำาลังไฟฟา้ การสง่พลังงานไฟฟา้นัน้ต้องคำานึงความประหยดั และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำาคัญ การสง่
พลังงานไฟฟา้เพื่อไปใชใ้นที่ไกล ๆ นิยมสง่ในลักษณะไฟฟา้กระแสสลับ A.C เพราะวา่กำาลังไฟฟา้ไมต่กมากทัง้ยงั สามารถปรบัใหแ้รงเคล่ือนไฟฟา้สงูหรอืตำ่าตามที่ต้องการได้ ถ้าใชไ้ฟฟา้กระแสตรงแล้ว เราจะปรบัใหส้งูหรอืตำ่าตาม
ต้องการได้ยาก อยา่งเชน่เขื่อนใหญ่ ๆ ที่จา่ยกระแสไฟออกมา จะต้องพยายามสง่ใหก้ระแสน้อย ๆ โดยใหค้วามต่าง
ศักยส์งู ๆ แต่เมื่อกระแสคณูกับความต่างศักยแ์ล้วยอ่มเท่ากับกำาลังไฟฟา้เป็นวตัต์ที่โรงไฟฟา้ในเขื่อนผลิตได้ ถ้าหาก เราสง่ด้วยกระแสมาก ๆ แล้วลวดตัวนำาที่ใชอ้าจจะทนรอ้นไมไ่ด้ต้องใชล้วดท่ีใหญ่ขึ้น ซึ่งทำาใหส้ิน้เปลืองมากขึ้น
![Page 11: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/11.jpg)
ดังนัน้ จงึสง่ด้วยกระแสน้อย ๆ และความต่างศักยส์งู ๆ ดีกวา่, ความต่างศักยท์ี่สงู ๆ เราสามารถ ปรบัใหค้ำ่าลงมาได้อยา่งสะดวกสบายเมื่อต้องการใช้ โดยใชห้มอ้แปลงไฟ
การสง่กำาลังไฟฟา้ในระบบ 3 เฟส
หลักการ ใหข้ัว้แมเ่หล็กหมุนผ่านขดลวดอารเ์มเจอร์ ซึ่งลวดอารเ์มเจอรม์ี 3 ขด วธินัีน้ทำาใหเ้กิด ความสะดวกสบายใหก้ารสรา้งและซอ่ม ที่สำาคัญคือวธิน้ีีสามารถป้องกันการเกิดประกายไฟฟา้ระหวา่งปลายกับแหวนเมื่อ
ใหข้ดลวดหมุน เพราะกำาลังไฟฟา้ที่สง่มกีำาลังสงู และต้องสง่ออกด้วยแรงเคล่ือนไฟฟา้ที่สงู
ขดลวดอารเ์มเจอรม์ี 3 ขดแต่ละขดทำามุม 1200 ต่อกัน ต่อวงจรรว่มเป็นรูปเดลต้า
( สามเหล่ียม ) หรอือาจจะต่อกันเป็นรูปตัว Y ก็ได้ เมื่อสนามแมเ่หล็กหมุน 1 รอบ จะเกิดความต่างศักย์ 3 ครัง้ในชว่งหา่งกัน 1200 กระแสไฟฟา้จะออก 3 สาย ความต่างศักยร์ะหวา่งสายแต่ละคู่มค่ีาเท่ากัน
การพนัลวดทัง้ 2 แบบ ค่า
188. จากรูปน้ีแสดง.א ความต่างศักยข์องกระแสตรง
.ב ความต่างศักยข์องกระแสสลับ
.ג แสดงการไหลของกระแส
.ד แสดงความต่างศักยน์ของเฟส
.ה แสดงเรื่องกระแสสลับ
เฉลยขอ้ ง.
189. จากรูปขอ้ 188 ก. แสดงเรื่องเฟสของกระแสตรงทัง้หมด ข. แสดงไฟฟา้กระแสสลับ 1 เฟส ค. แสดงไฟฟา้กระแสสลับ 2 เฟส ง. แสดงไฟฟา้กระแสสลับ 3 เฟส
จ. แสดงการไหลของกระแสสลับและกระแสตรง เฉลยขอ้ ง.
190. จากรูปขอ้ 188 ตามหลักวชิาการทางไฟฟา้ หมายความวา่ในจำานวนสายไฟฟา้ตามกราฟ
.א มกีระแสไหลไปเสน้หน่ึง ไหลกลับเสน้หน่ึงและมสีายดินเสน้หน่ึง
.ב มกีระแสไหลไป 2 เสน้ ไหลกลับเสน้หน่ึง
.ג มกีระแสไหลเพยีงเสน้เดียว เสน้อ่ืนๆ มศัีกยเ์ป็นศูนย์
.ד สามารถจบัเป็นคู่ ๆ เพื่อจา่ยกระแสไฟฟา้ได้ทัง้ 3 คู่.ה สามารถจบัเป็นคู่ ๆ เพื่อจา่ยกระแสไฟฟา้ได้ทัง้ 2 คู่
![Page 12: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/12.jpg)
เฉลยขอ้ ง. แนวคิด ถ้าจบัสาย Iine สองเสน้จะได้380 โวลต์191.สายไฟฟา้สายคู่ที่การไฟฟา้จา่ยเขา้บา้นเรอืนจดัอยูใ่นจำาพวก
ก. ไฟฟา้ 1 เฟส ข. ไฟฟา้ 2 เฟส ค. ไฟฟา้ 3 เฟส ง. ไฟฟา้ 4 เฟส จ. ไมม่คีำาตอบที่ถกู เฉลยขอ้ ก.
192. จงบอกขอ้ดีของการผลิตและการสง่ไฟฟา้3 เฟสเฉลย
แนวคิด 1. การผลิตไฟฟา้ 3 เฟส จะได้กระแสออกมา 3 ชุด จงึใชห้มอ้แปลงไฟฟา้ได้ 3 ชุด การแปลง ไฟฟา้จงึสะดวกขึ้น เพราะไมต้่องใชห้มอ้แปลงขนานใหญ่มากเกินไป
2. การผลิตไฟฟา้ 3 เฟส สามารถสง่ไฟฟา้ได้3 ชุด จงึไมจ่ำาเป็นต้องดับไฟฟา้ พรอ้มกัน ทัง้หมดจงึสะดวกในการใชก้ระแสไฟฟา้
3. สามารถใชก้ับมอเตอรเ์หนี่ยวนำา โดยใชไ้ฟฟา้ที่เดียวทัง้ 3 เฟส ซึ่งเป็นมอเตอรท์ี่ดี, ประสทิธภิาพสงูมาก
193. - ปกติจะกำาหนดเฟส 0 ซึ่งจุดตัดแกน
- ดังนัน้ คล่ืนต้องวิง่ไปทางซา้ย(ทางแกน-X)
เครื่องกำาเนิดไฟฟา้ 3 เฟส มแีมเ่หล็กหมุนตามเขม็ดังรูป ถ้ากราฟขา้งบนเป็นศักยไ์ฟฟา้กับเวลา ที่ขด
ลวดชุดที่ 1 ถามวา่ขดลวดชุดที่ 2 จะมกีราฟของกระแสไฟฟา้ I2 กับเวลา เป็นอยา่งไร
เฉลยขอ้ ง. แนวคิด จากภาพขา้งบนสดุ ( ขวามอื ) จะเหน็วา่ ถ้าคล่ืนไปทางซา้ย ต้องวิง่จากเฟส
240 ไปอีก 120 จะ ได้ภาพเฟส 0 อีกครัง้หน่ึง
![Page 13: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/13.jpg)
( จงึตอบรูป ง. มใีนแบบเรยีน ) จากภาพบนสดุ ( ซา้ยมอื ) จะเหน็วา่
ขดลวดที่ ( 2 ) จะเกิดไฟฟา้หลังขด ( 1 ) , 120
194. ถ้าหมุนแท่งแมเ่หล็กของเครื่องกำาเนิดไฟฟา้ 3 เฟส ครบ1 รอบ จะมกีระแสไฟฟา้ออกจากขดลวด ทัง้ สามชุด ซึ่งวสามารถเขยีนกราฟระหวา่งความต่างศักยก์ับเวลาของขดลวดแต่ละชุดได้ดังรูปใด
คำาตอบขอ้ที่ถกู คือ
ก. ขอ้1 , 2 ข. ขอ้3 เท่านัน้ ค. ขอ้ 3 เท่านัน้ ง. ขอ้4 เท่านัน้
เฉลยขอ้ ก.
13.27 การต่อไดโอดในวงจร
ไฟฟา้AC DC ครึง่คล่ืน
ไฟฟา้AC DC เต็มคล่ืน
ไฟฟา้ AC DC เต็มคล่ืน , และใช้ condenser ปรบัใหค้ล่ืนเรยีบลง เรยีกกวา่ วงจรกรองกระแส
![Page 14: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/14.jpg)
หลักการจำา บรดิจไ์ดโอด ( 4 ตัว) 1. Diode ทกุตัว มลีกูศร เซไปทางเดียวกันเชน่รูป 2. รูป 3. ลกูศร เซไป
ทางขวาทกุตัว
2. ปลายลกุศรกระแสออกไปเขา้เครื่องใชไ้ฟฟา้ เชน่ เทป ( ก้นลกูศร ไฟฟา้ จากเทป วิง่มา
เขา้จุดนี้)3. ตอนกลางต่อกับกระแสไฟฟา้สลับ
195. จากรูป กราฟแสดงความสมัพนัธร์ะหวา่ง VCD กับเวลาเป็นดังขอ้ใด
เฉลยขอ้ ก. แนวคิด ไฟฟา้กระแสสลับ AC และมี diode 1 ตัว จะตัดไฟฟา้ครึง่หน่ึง ( เพราะกระแสไปได้ กลับไม่
ได้)
196. กระแสสลับต่อเขา้กับจุด A และ B ถ้าต้องการใหไ้ด้ไฟกระแสตรงไหลเครื่องใช้ R วงจรใดถกู
ก. 1 และ 2 ข. 3 และ 4 ค. 2 และ 4 ง. 1 และ 4
เฉลยขอ้ ค . แนวคิด หลักของ Bridge Diode
(1) ลกูศรทัง้สีข่อง Diode เบนไปทางเดียวกัน (2) ปลายลกูศร กระแสออก ไปสูค่วามต้านทานที่จะใช้
(3)กระแสจากความต้านทานอีกด้านหน่ึงไปสูก่้นลกูศร (4) ตอนกลางต่อกับกระแสไฟฟา้ A.C.
197. วงจรเปล่ียนกระแสไฟฟา้สลับเป็นกระแสไฟฟา้ตรงแบบเต็มคล่ืนคือวงจร
![Page 15: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/15.jpg)
เฉลยขอ้ ค.
198.วงจรใดเป็นวงจรกรองกระแส
เฉลยขอ้ ง. แนวคิด วงจรกรองกระแสจะมี condenser ด้วย
199. กระแสสลับผ่านเขา้ทาง P และ Q เป็นกระแสตรงเต็มคล่ืนออกทาง X และ Y รูปใดถกูต้อง
เฉลยขอ้ ค.
200. เมื่อป้อนสญัญาณความต่างศักย์ V1 ที่ขึ้นกับเวลา t ในลักษณะดังรูป(t) ครอ่มระหวา่งจุด A กับจุด B ของวงจรในรูป (2) อยากทราบวา่ลักษณะของสญัญาณความต่างศักย์ V2 ที่ครอ่มไดโอดในอุดมคติระหวา่งจุด A เทียบกับจุด C ที่เวลาใดๆ ควรมรีูปรา่งอยา่งไร
![Page 16: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/16.jpg)
201. ถ้าสญัญาณเขา้ของวงจรแปลงกระแสไฟฟา้ เป็นดังรูป สญัญาณออกเป็นขอ้ใด
เฉลยขอ้ ก. เหตผุล ไดโอด 4 ตัว จะทำาใหเ้กิดไฟฟา้ กระแสตรงเต็มคล่ืน จงึปรบักราฟใต้แกนขึ้นเหนือแกนทัง้หมด
โจทยฝึ์กประสบการณ์ บทที่ 131. ขอ้ใดแสดงเสน้แรงแมเ่หล็กที่ถกู
2. จงพจิารณาเลือกดวูา่สนามแมเ่หล็กรูปใดที่ถกูต้อง, x คือบรเิวณที่เป็นจุดสะเทิน เมื่อเปรยีบเทียบกับสนามแมเ่หล็กโลก
![Page 17: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/17.jpg)
3.ไมม่ี
4. ลวดยาวมากมปีระจุลบกระจายสมำ่าเสมอตลอดเสน้ถกูดึงไปทาง ซา้ยด้วยความเรง่ ขอ้ใดถกูต้อง
ก. เกิดกระแสไฟฟา้เหน่ียวนำาขึ้นไปในวงแหวน มทีิศทวนเขม็ นาฬิกา ข. เกิดกระแสไฟฟา้เหน่ียวนำาขึ้นในวงแหวน มทีิศตามเขม็ นาฬิกา ค. เกิดกระแสเหน่ียวนำาขึ้นเพยีงชัว่คราว มทีิศตามเขม็นาฬิกา
ง. ไมเ่กิดกระแสไฟฟา้เหน่ียวนำาบนวงแหวนเลย จ. ไมม่ขีอ้ถกู
5. ฟลักซแ์มเ่หล็ก คือ
ก.จำานวนเสน้แรงแมเ่หล็กต่อหน่วยพื้นที่ท่ีเสน้แมเ่หล็กตัง้ได้ฉาก.ב แนวของแรงลัพธท์ี่แท่งแมเ่หล็กกระทำาต่อเขม็ทิศ
.ג บรเิวณใกล้กับขัว้แมเ่หล็ก
.ד บรเิวณเสน้แรงแมเ่หล็ก
6. เสน้แรงแมเ่หล็กแต่ละเสน้แสดงอะไร ก. ความยาวของแท่งแมเ่หล็ก ข.ขนาดของแรงที่กระทำาต่อเขม็ทิศเล็กๆ ค. ทิศของแรงที่กระทำาต่อขัว้เหนือของเขม็ทิศ ง.ขนาดของสนามแมเ่หล็ก จ.ทิศของแรงบนตัวนำาที่มกีระแสไฟฟา้
7. เมื่อเคล่ือนแมเ่หล็กNS เขา้หาขดลวดอยา่งลวดเรว็ จะเกิดผลดังน้ี
1.สนามแมเ่หล็กในขด ลวดAB จะมทีิศพุง่จากA มาB
2.ความเขม้สนามแม่ เหล็กเปล่ียนแปลงทกุ ๆ ขณะ
![Page 18: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/18.jpg)
3. กระแสจะไหลจาก
D มาA ( เมื่อดทูี่ G ) 4. งานในการผลักให้
แท่งแมเ่หล็กเขา้มากลายเป็นงานของ งานของกระแส ในวงจร คำาตอบคือ
ก. 1, 2, 3 และ4 ข. 1 และ3 ค. 2 และ4 ง. 1, 2 และ4 จ. 1, 3 และ4
8. กัลวานอมเิตอร์ ซึ่งต่อไวก้ับขดลวด ( ดังรูป ) เขม็จะเบนไปเมื่อใดบา้ง
1. เมื่อพุง่ขัว้เหนือของแท่งแมเ่หล็กเขา้หาขดลวด2. เมื่อพุง่ขัว้ใต้เขา้หาขดลวด3. เมื่อแท่งแมเ่หล็กอยูก่ลางขดลวด4. เมื่อแกวง่แมเ่หล็กเหนือขดลวด
คำาตอบที่ถกูคือ
ก. 1 เท่านัน้ ข. 1, 2 และ4 ค. 1 และ2 ง. 2 และ3 จ. 1, 2, 3 และ4
9. ลวดตัวนำา 2 เสน้วางหา่งกันเล็กน้อยแล้วปล่อยกระแสไฟฟา้เขา้ไปในขดลวดทัง้สองเสน้ ครัง้แรกให้ กระแสไหลตามกัน ครัง้หลังใหก้ระแสไหลสวนทางกัน ขอ้ความต่อไปน้ีขอ้ใดถกูต้อง
.א เกิดแรงดดูและแรงผลักขึ้นกับลวดทัง้สองตามลำาดับ
.ב เกิดแรงผลักและแรงดดูขึ้นกับลวดทัง้สองตามลำาดับ
.ג ไมเ่กิดแรงดดูหรอืแรงผลักใดๆ ทัง้สิน้
.ד ไมแ่น่นอนอาจเกิดแรงดดูหรอืผลักก็ได้ทัง้น้ีขึ้นอยูก่ัทิศของสนามแมเ่หล็กเป็นสำาคัญ
.ה ลวดทัง้สองเสน้จะแกวง่ไปแกวง่มาพรอ้ม ๆ กัน
10. เมื่อผ่านกระแสไฟฟา้เขา้ไปในขดลวดโซลินอยด์ จงพจิารณาขอ้ความต่อไปน้ี
( 1 ) ขดลวดโซลินอยด์จะประพฤติเสมอืนเป็นแมเ่หล็กแท่งหนึ่ง โดยมคีวามเขม้สนามแมเ่หล็กภายใน ขดลวดถือวา่สมำ่าเสมอ( 2 ) สนามแมเ่หล็กภายในโซลินอยด์มลัีกษณะเหมอืนสนามแมเ่หล็กแท่งตรง สว่นภายในโซลินอยด์ มเีสน้แรงแมข่นานกับแกนโซลินอยด์( 3 ) เมื่อเราเอาแท่งแมเ่หล็กใสเ่ขา้ไปสกัครูแ่ล้วดึงออก แท่งแมเ่หล็กนัน้จะกลายเป็นแท่งแมเ่หล็กชัว่ คราว( 4 ) ถ้าเราใชม้อืซา้ยกำารอบขดลวดโซลินอยด์ ใหนิ้้วทัง้สีท่ี่ไมใ่ชนิ่้วหวัแมม่อืวนไปทางทิศที่กระแสไหล แล้วน้ิวหวัแมม่อืจะชีไ้ปทางปลายที่แสดงอำานาจแมเ่หล็กเป็นขัว้ใต้( 5 ) ขดลวดโซลินอยด์จะมแีรงผลักเล็กน้อยระหวา่งลวดแต่ละเสน้คำาตอบที่ถกูต้องคือ
ก. ขอ้1, 2, 3 ข. ขอ้ 1, 2, 3, 4ค. ขอ้1, 2, 4 ง. ขอ้ 1, 2, 4, 5
![Page 19: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/19.jpg)
จ.คำาตอบเป็นแบบอ่ืน
11. เมื่อผ่านกระแสไฟฟา้เขา้ไปในขดลวดโซลินอยด์ จงพจิารณาขอ้ความต่อไปน้ี
1) ขดลวดโซลินอยด์จะประพฤติเสมอืนเป็นแมเ่หล็กแท่งหนึ่ง โดยมคีวามเขม้สนามแมเ่หล็กภายในขดลวดถือวา่สมำ่าเสมอ
2) สนามแมเ่หล็กภายในโซลินอยด์มลัีกษณะเหมอืนสนามของแมเ่หล็กแท่งตรง สว่นภายในโซลินอยด์มเีสน้แรงแมเ่หล็กขนานกับแกนโซลินอยด์
3) เมื่อเราเอาแท่งเหล็กใสเ่ขา้ไปสกัครูแ่ล้วดึงออก แท่งเหล็กนัน้จะกลายเป็นแมเ่หล็กชัว่คราว
4) ถ้าเราใชม้อืซา้ยกำารอบขดลวดโซลินอยด์ ใหนิ้้วทัง้สีท่ี่ไมใ่ชนิ้้วหวัแมม่อืวนไปทางทิศที่กระแสไหลแล้วน้ิวหวัแมม่อืจะชีไ้ปทางปลายที่แสดงอำานาจแมเ่หล็กเป็นขัว้ได้
5)ขดลวดโซลินอยด์จะมแีรงผลักกันเล็กน้อยระหวา่งลวดแต่ละเสน้ คำาตอบที่ถกูต้อง คือ
ก. ขอ้1, 2, 3 ข. ขอ้1, 2, 3, 4ค. ขอ้1,2, 3, 5 ง. ขอ้1, 2, 4, 5
12. จากการทดลองให้ อนุภาค 6 ชนิด เคล่ือนที่ผ่าน
เครื่องวดัความเรว็ก่อนเขา้สูส่นามแมเ่หล็กได้ผล-
การทดลองดังรูป จงพจิารณาต่อไปน้ี
1. ขนานของประจุต่อมวลจากน้อยไปมาก 3 ; 4 ; 1 ; 2 ;6 ; 5 2. อนุภาคที่มปีระจุไฟฟา้บวก คือ4;5;6 3. เมื่อเพิม่ขนาดแมเ่หล็ก ระยะที่วิง่ในสนามแมเ่หล็กจะสัน้ลงโดยอัตราเรว็คงเดิม
ก.1, 2, 3 ถกู ข. 1, 2 เท่านัน้ถกู ค. 1, 3 เท่านัน้ถกู ง. 2, 3 เท่านัน้ถกู
13. สมมติวา่มอิีเลคตรอนเคล่ือนที่ไปในหลอดสญูญากาศในทิศตัง้ฉากกับสนามแมเ่หล็ก ขอ้ความต่อไปน้ี ขอ้ใดผิด1) อิเล็กตรอนจะมกีารเคล่ือนท่ีเป็นวงกลม2)ความเรว็เชงิเสน้ของการเคล่ือนที่ก่อนและหลังการเคล่ือนที่เป็นวงกลมจะไมม่กีารเปล่ียนแปลง3)แรงกระทำาต่ออิเล็กตรอนจะมทีิศเขา้สูศู่นยก์ลาง4) เราสามารถใชก้ฎมอืขวาของเฟลมมงิหาทิศทางการเคล่ือนที่ได้5)V = Ber/mขอ้ความที่ผิดความจรงิคือ
ก. ขอ้1, 2, 3 ข. ขอ้2, 3, 4
![Page 20: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/20.jpg)
ค. ขอ้3, 4, 5 ง. ขอ้4 และ5 เท่านัน้จ. ขอ้2 และ4 เท่านัน้
15.
จากรูป เมื่อผ่านกระแสจำานวนน้อยเขา้ไปในขดลวดโซลินอยด์ X แล้วเพิม่กระแสขึ้นอยา่งสมำ่าเสมอโดย เปล่ียนขา้ความต้านทาน R ได้ กระแสสงูสดุค่าหน่ึง แล้วยกสวทิซอ์อก กัลวานอมเิตอร์ G จะอ่านค่าได้สงูสดุเมื่อใด
ก. เมื่อเริม่ต้นผ่านกระแสจำานวนน้อย ๆ เขา้ไป ข. ลดความเขม้ของสนามไฟฟา้ ค. เมื่อกระแสมคี่าสงูสดุ ง. เมื่อยกสวทิซ์S ออก
16. เมื่อเคล่ือนลวดตัวนำาด้วยความเรว็ V ตัดเสน้แรงแมเ่หล็กในสนามแมเ่หล็ก B ใน ทิศตัง้ฉากกับสนามแม่ เหล็กทิศของกระแสเหน่ียวนำาในลวดรูปใดถกูต้อง
17. แท่งแมเ่หล็กไฟฟา้มกัใชก้ระแสตรง ถ้าใชก้ระแสสลับแล้วจะ
ก. ไมแ่สดงอำานาจแมเ่หล็ก ข. จะดดูเหล็กได้อยา่งเดียว ค. จะผลักเหล็กได้อยา่งเดียว ง. จะดดูขัว้เหนือของเขม็ทิศตลอดเวลา
18. เหล็กอ่อนรูปเกือกมา้ มสีายไฟฟา้พนัไวดั้งในรูป เมื่อสบัสวทิซ์ S ลงใหก้ระแสไฟฟา้ผ่าน จะเกิดขัว้แมเ่หล็กอยา่งไร
.א A เป็นขัว้ใต้B เป็นขัว้เหนือ.ב ทัง้A และB เป็นขัว้เหนือ
![Page 21: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/21.jpg)
.ג ทัง้A และB เป็นขัว้ใต้.ד A เป็นขัว้เหนือB เป็นขัว้ใต้.ה ทัง้A และB ไมเ่ป็นแมเ่หล็ก เพราะพนัลวดกลับ
กัน
19. อนุภาคm และประจุ+q ถกูเรง่ใหเ้คล่ือนที่จากหยุดนิ่งในแนวราบด้วยสนามไฟฟา้สมำ่า
เสมอE เป็นระยะทาง แล้วผ่านเขา้บรเิวณที่
มสีนามแมเ่หล็กสมำ่าเสมอB ในทิศตัง้ฉากกับทิศของสนามอนุภาคจะไปตกที่ระยะหา่ง
จากจุดที่เขา้ไปในสนามแมเ่หล็กเป็นระยะ d ดังรูป จงหามวลของอนุภาคน้ี
( ไมต้่องคิดแรงโน้มถ่วงของโลก ) ก. ข. ค.
ง.
20. จากรูป ประจุบวกเคล่ือนท่ีเขาไปในสนามแมเ่หล็กโดยทำามุม กับสนามแมเ่หล็กลักษณะการของประจุบวกน้ีจะเป็นอยา่งไร
.א เคล่ือนท่ีเป็นวงกลมที่มรีศัมคีงที่
.ב เคล่ือนท่ีเป็นวงกลมในขณะเดียวกันก็เคล่ือนท่ีไปทางขวาด้วยความเรว็คงที่
.ג เคล่ือนท่ีเป็นวงกลมในขณะเดียวกันก็เคล่ือนท่ีไปทางขวาด้วยความเรว็คงที่
ง. เคล่ือนท่ีเป็นวงกลมที่รศัมโีตขึ้นเรื่อย ๆ
21. ตะปูเหล็ก2 ตัว ตอกติดกับปลายของแมเ่หล็กอันเดียวกันซึ่งแท่งแมเ่หล็กน้ีมคีวามแรงมาก จงพจิารณาวา่เมื่อปลายอีกด้านของตะปูเคล่ือนที่ได้โดยอิสระมนัจะอยูดั่งรูปใด
22.การหาทิศของแรงที่กระทำาบนลวดตัวนำาที่มกีระแสไฟฟา้ผ่านในทิศทางที่ตัง้ฉากกับสนามแมเ่หล็กรูปใดผิด
![Page 22: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/22.jpg)
23. ตามรูป มขีดลวดโซลินอยด์พนัรอบแท่งแมเ่หล็กอ่อน
ตำาแหน่ง A เป็นจุดกึ่งกลางระหวา่งปลายโซลินอยด์ ทัง้สอง ถ้าเอาเขม็ทิศ
ไปวางที่ตำาแหน่ง A เขม็ทิศจะเบน อยา่งไร.א ไมเ่บนจากแนวเดิม
.ב เบนไปทางขวามอื
.ג เบนไปทางซา้ยมอื
.ד เบนไปทางทิศตรงกันขา้ม
24. สญัลักษ์X แทนตำาแหน่งท่ีเป็นจุดสะเทิน จงพจิารณาวา่รูปในขอ้ใดที่แสดงตำาแหน่งของจุดสะเทินได้ถกูต้อง
(ไมต้่องคำานึงถึงสนามแมเ่หล็กโลก).א II เท่านัน้ ข. II และ IIIค. I และ II ง. ทัง้ I , II , IIIจ. I และ III
25. เมื่อมขีดลวดของไดนาโม (ขดลวดอเมเจอร)์ หมุนอยูร่ะหวา่งสนามแมเ่หล็ก ตำาแหน่งของขดลวดในขอ้ใดที่จะทำาใหเ้กิดแรงเคล่ือนที่ไฟฟา้มากที่สดุ
26. แท่งตัวนำา AB แตะกับรางโลหะCA และ DB ดังรูป
เครื่องมอือยูใ่นสนามแมเ่หล็กขนาด 0.5 เทสลา ถ้า
ตัวนำาAB เคล่ือนไปทางซา้ยด้วยความเรว็ 2 เมตร/ วนิาที แรงเคล่ือนไฟฟา้ที่เกิดในตัวนำาAB มคี่า
![Page 23: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/23.jpg)
ก. 1 โวลต์ ข. 2 โวลต์ ค. 3 โวลต์ ง. 4 โวลต์
จ. 5 โวลต์
27. อิเล็กตรอนตัวหนึ่ง วิง่เขา้สูส่นามแมเ่หล็กด้วยความเรว็ 106 เมตร/ วนิาที ซึ่งวดัรศัมคีวามโค้งได้0.1 เมตร
จงคำานวณหาความเขม้สนามแมเ่หล็ก จงหาอัตราเรว็ที่อิเล็กตรอนใชใ้นการโคจร
ก. 5.58 x 10-5 เทสลา , 105 เรเดียน/ วนิาที ข. 5.68 x10-5 เทสลา, 106 เรเดียน/วนิาที ค. 5.68x10-5 เทสลา , 107 เรเดียน/ วนิาที ง. 5.58x10-5 เทสลา , 102 เรเดียน/วนิาที
28. ขดลวดรูปสีเ่หล่ียมผืนผ้ามี 8 รอบ พื้นที่หน้าตัด 60 ตารางเซนติเมตร หมุนในสนามแมเ่หล็กซึ่งมค่ีา 2 x 10-4 เทสลาในลักษณะดังรูป ด้วยความเรว็เชงิมุม เรเดียน / วนิาที จงหาวา่ เมื่อระนาบขดลวดอยูใ่นแนวขนาน
กับสนามแมเ่หล็กต่อมาหมุนไปจากเดิม 1/ 4 วนิาที โมเมนต์คู่ควบที่เกิดในขณะน้ีเป็นเท่าใด ถ้ากระแสท่ีผ่านเป็น 6 แอมแปร์
.א 4.1 10-4 นิวตัน - เมตร.ב 4.1 x 10-5 นิวตัน - เมตร.ג 6.2 x 10-4 นิวตัน - เมตร.ד 6.2 x 10-5 นิวตัน -เมตร
29. ประจุไฟฟา้ลบ 2.0 x 10-16 คลูอมบ์ มมีวล8.0 x 10-25 กิโลกรมั เคล่ือนที่ตัง้ฉากกับแมเ่หล็ก
ด้วยความเรว็105 เมตร/ วนิาที จากจุด P มาถึงQ เป็นโค้งครึง่วงกลมประจุใชเ้วลาเคล่ือนที่จาก P มาQ ใช้เวลากี่วนิาที ก. 1.57 x10-6 ข. 1.57 x10-4
ค. 2.14 x10-4 ง. 2.14 x10-5
จ. 3.14 x10-3
![Page 24: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/24.jpg)
30. ท่อโลหะมวล 1 ก. ก. ยาว1.0 เมตร วางอยูบ่นพื้นเอียงทำามุม 300 กับแนวระดับมสีนามแมเ่หล็กพุง่ ขึ้นในแนวดิ่ง 2 เทสลา ส. ป. ส. ความเสยีดทานระหวา่งโลหะกับพื้นเอียง = 0.3 จงหาวา่กระแสไฟฟา้และ
ทิศทางที่ทำาใหแ้ท่งโลหะเริม่เคล่ือนที่ขึ้น
.א 5.3 แอมแปร์ จาก A ไปB.ב 5.3 แอมแปร์ จาก B ไปA.ג 3.5 แอมแปร์ จาก A ไปB.ד 3.5 แอมแปร์ จาก B ไปA
31. อิเล็กตรอนมอัีตราเรว็ V0 = 6.0 x 106 เมตร/ วนิาที ถกูยงิเป็นมุม = 450 ในสนามไฟฟา้
E = 2.0 x103 นิวตัน/คลูอมบต์ามรูปผลที่เกิดขึ้นคือ.א อิเล็กตรอนชนแผ่นบน
.ב อิเล็กตรอนชนแผ่นล่าง
.ג อิเล็กตรอนไมซ่นทัง้สองแผ่น ง. อิเล็กตรอนวิง่เป็นเสน้ตรง
จ. ถกูทัง้ ก. และ ง.
32. กำาหนดใหฟ้วิสจ์ะขาดทันทีถ้ากระแสไฟฟา้ไหลผ่านมคี่าสงูกวา่ 3 แอมแปร์ อยากทราบวา่จำานวนรอบสงูสดุของ
ขดลวดทติุยภมูมจิะเป็นเท่าใด ถ้านำาเอาเตาไฟฟา้ซึ่งมคีวามต้านทาน 41.25 โอหม์ มาต่อเขา้ระหวา่งปลาย A และB โดยที่ฟวิสย์งัไมข่าดและทำาใหเ้ตาไฟฟา้รอ้นที่สดุ ก. 625 รอบ ข. 731 รอบ ค. 825 รอบ ง. 936 รอบ
33. ในการทดลองเกี่ยวกับเครื่องชัง่กระแส ( Current Balance ) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำาใหส้ามารถ
วดัแรงระหวา่งเสน้ลวดที่มกีระแสไฟฟา้ เมื่อใชก้ระแส I ผ่านทัง้ลวดที่หอ้ยแขวนและลวดที่ขดเป็นสีเ่หล่ียมหลายรอบ
โดยการต่อแบบบอนุกรมจดัใหค้วามยวาของลวดที่ขนานกันควงที่และหา่งกันเป็นระยะ d แรงระหวา่งเสน้ลวดขนานจากผลการทดลองควรจะเป็นปฏิภาคกับสิง่ใด
ก. I / d2 ข. I /d ค. I2 /d ง. I2
/ d
![Page 25: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/25.jpg)
34.แผ่นโลหะโค้งขนานกันดังรูปมศูีนยก์ลางรวมกันที่จุด o มสีนามไฟฟา้E ระหวา่งแผ่นท่ีจุดหา่งจากจุดศูนยก์ลาง เท่ากับR และมชีีเ้ขา้หากันกับ o อยากทราบวา่อุภาคที่มปีระจุบวก q ต้องวิง่ด้วยพลังจลน์เท่าไร จงึจะผ่าน S1 และ
S2 ได้พอดีตามแนวประ
ก. 2qER ข. ค. qER ง. Q2E2R
35. ตามรูป ลวด 2 ยาว60 ซม. แขวนด้วยลวดสปรงิยดืหยุน่ในสนามแมเ่หล็กไฟฟา้ จาก ถ้ากระแสไฟฟา้
I1= 10 แอมแปร์ กระแสไฟฟา้สวนทางกัน, ลวดหา่งกัน 0.02 เมตร จงหาววา่ลวด 2 ต้องหนักเท่าใด จงึจะหาพอดีทำาใหค้วามตึงในสปรงิยดืหยุน่หมดไปพอดี
.א 1.2 x 10-4 นิวตัน
.ב 1.3 x 10-4 นิวตัน
.ג 1.4 x 10-4 นิวตัน
.ד 1.5 x 10-4 นิวตัน
36. ตัวนำารูปทรงกระบอกอันหน่ึงมคีวามสงูเท่ากับ h วางอยูใ่นสนามแมเ่หล็กซึ่งมคีวามเขม้ท่ากับ และสนาม น้ีชีส้นาม กับแกนของทรงกระบอก ที่ผิวของทรงกระบอกนี้มกีระแสไฟฟา้สมำ่าเสมอ ไหลวนรอบแกนของทรงกระบอกดัง
รูป จงหาค่าของความดันที่ผิวทรงกระบอกอันเน่ืองมาจากกระแสนี้ในสนามแมเ่หล็ก
ก. ข. ค. ง. 37. ขดปฐมภมูแิละขดทตุิยภมูขิองหมอ้แปลงมลีวดพนัไว้ 500 รอบ และ 2500 รอบ ถ้าขดปฐมภมูต่ิอกับไฟ
110 โวลต์ ความต่างศักยท์ี่ปลายสองขา้งของขดทติุยภมูจิะเป็นเท่าใด และถ้าขดทตุิยภมูต่ิอกับไฟ 110 โวลต์ ปลายสองขา้ง ของขดปฐมภมูิ จะมคีวามต่างศักดากี่โวลต์
ก. 20 โวลต์ ข. 21 โวลต์ ค. 22 โวลต์ ง. 23 โวลต์
38. พจิารณาวงจรหมอ้แปลงไฟฟา้ที่จุดไสห้ลอดรงัสเีอกซ์
![Page 26: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/26.jpg)
กระแสไฟฟา้ที่ไหลผ่านไสห้ลอดรงัสเีอกซม์ค่ีาเท่าใด ก. 0.44 แอมแปร์ ข. 1.44 แอมแปร์ ค. 0.46 แอมแปร์ ง. 0.49 แอมแปร์
39. ขดลวดรูปสีเ่หล่ียมผืนผ้าซึ่งมจีำานวนรอบ 10 รอบ และมพีื้นที่ 100 ตารางเซนติเมตร ถกูหมุนในสนาม
แมเ่หล็กซึ่งมค่ีา 10-3 เทสลา โดยแกนหมุนอยูใ่นแนวตัง้ฉากกับสนามและอัตราเรว็เชงิมุม 2 เรเดียน/ วนิาที จง
หาวา่ที่เวลา วนิาที หลังจากที่ระนาบขดลวดอยูใ่นแนวขนานกับสนามจะมโีมเมนต์ที่เกิดจากแรงของสนามแมเ่หล็ก
กระทำา ต่อขดลวดมคี่าเท่าใด ถ้ากระแสที่ไหลผ่านมค่ีา 1 แอมแปร์ ก. 4 x 10-5 นิวตัน - เมตร ข. 5 x 10-5 นิวตัน - เมตร ค. 6 x 10-6 นิวตัน - เมตร ง. 2 x 10-6 นิวตัน - เมตร
40. ลวดอลมูเินียม A3 วางอยูบ่นปลายตัวนำาซึ่งต่อเป็นวงจรแบตเตอรี่ 2 โวลต์ และความต้านทาน 3 โอหม์ ดังรูป ถ้า AB อยูใ่นสนามแมเ่หล็กมทีิศตัง้ฉากกับมมีวลค่า0.24 เทสลา สนามแมเ่หล็กจะทำาใหเ้กิดแรง
กระทำาต่อลวดกี่นิวตัน ก. 5 x 10-3 ข. 8 x 10-3 ค. 8 x 10-2 ง. 3.6 x10-2
จ. 3.6
41. หมอ้แปลงลงจากความต่างศักย์ 220 โวลต์ เป็น 12 โวลต์ ถ้าหมอ้แปลงน้ีมปีระสทิธภิาพ 90% กระแสในขดลวดปฐมภมูมิค่ีาเท่าใดเมื่อขดลวดทตุิยภมูติ่อกับหลอด 12V 33W สองหลอดซึ่งต่อขนานกัน
ก. 0 A . ข. . ค. A. ง. A .
42. ลวดAB ยาว50 ซม. มวล10 กรมั แขวนหอ้ยไวด้้วยลวดสปรงิที่ปลายแท่งโลหะ C และD ใน สนามแมท่ี่มค่ีา0.04 เทสลา แท่งโลหะC และ D ต่อเป็นวงจรกับรโีอสตัทR และแบตเตอรี่6 โวลต์ ดังรูป
เมื่อจดัค่าR เป็น 10 โอหม์ ปรากฏวา่แรงดึงในลวดสปรงิที่ยดืลวด AB เป็นศูนย์ จงหาความต้านทานภายในของแบตเตอรี่
![Page 27: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/27.jpg)
ก. 0.15 โอหม์ ข. 0.25 โอหม์ ค. 2.0 โอหม์ ง. 2.1 โอหม์
43. อิเล็กตรอน1 อนุภาควิง่เป็นวงกลมรศัมี1.2 ซม. ตัง้ฉากกับสนามแมเ่หล็กด้วยอัตราเรว็ 106 เมตร / วนิาที ภายในวงโคจรของอิเล็กตรอนจะมฟีลักซแ์มเ่หล็กเท่าใดในหน่วยวเีบอร์
ก. 1.26 ข. 2.07 ค. 1.84 ง. 2.14
44. ขดลวดตัวนำารูป จตัรุสั ยาวด้านละ2.0 ซม. มจีำานวนรอบทัง้หมด 300 รอบ มกีระแสไฟฟา้ไหล
ผ่าน 10 มลิิแอมแปร์ ขดลวดนี้อยูใ่นสนามแมภ่ายนอกมค่าคงที่ 5 x 10-2 เทสลา ระนาบของขดลวดทำามุมกับ ทิศของสนามแมเ่หล็กภายนอก ในขณะที่ขดลวดน้ีหมุนอยูใ่นสนามแมเ่หล็ก จงหาขนาดของโมเมนต์ของแรงคู่ควบ
สงูสดุที่เกิดขึ้น
ก. 4 x 10-5 นิวตัน - เมตร ข.10-5 นิวตัน - เมตร ค. 6 x10-5 นิวตัน - เมตร ง. 7 x 10-5 นิวตัน - เมตร
45. ลวดมวลm ลอยน่ิงได้ จงหาค่าความต้านทานรวมในวงจร ก. ข. ค. ง.
46. อิเล็กตรอนที่มคีวามเรว็ 107 เมตร / วนิาที ในทิศตัง้ฉากกับสนามแมเ่หล็กขนาด 10-4 เทสลา จะมแีรง กระทำาเท่าใดใน หน่วยนิวตัน ถ้าสนามแมเ่หล็กนัน้สมำ่าเสมออิเลคตรอนจะวิง่โค้งด้วยรศัมคีวามโค้งเท่าใด
ก. 0.56 เมตร ข. 0.57 เมตร ค. 1.00 เมตร ง. 1.56 เมตร
47. จากรูปขดลวดสีเ่หล่ียมจตัรุสัมขีนาด 20 x 20 ตารางเซนติเมตร สนามแมเ่หล็กขนาด 0.025 เว เบอร ์ / ตารางเมตร อยูใ่นแนวเดียวกับแกน x และมทีิศ OX ระนาบของขดลวดวางตัง้อยูใ่นสนามแมเ่หล็กดัง
รูป ฟลักซแ์มเ่หล็กที่ผ่านขดลวดมคี่าเท่าใดในหน่วยเวเบอรก์ำาหนดให ้ sin 55o = 0.819 , cos 55o = 0.574
ก. 5.7 x 10-4 เวเบอร์ ข. 5.7 x10-5 เวเบอร์
![Page 28: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/28.jpg)
ค. 5.9 x 10-4 เวเบอร์ ง. 5.9 x 10-5 เวเบอร์
48. ลวดเสน้หนึ่งถกูขดไวด้ังรูปและมกีระแส I ไหลผ่าน เมื่อวางลวดเสน้นี้ในสนามแมเ่หล็กเหน่ียวนำาB ที่สมำ่าเสมอ( ที่เหน็เป็นจุดคือ มทีิศพุง่ออกและตัง้ฉากกับระนาบของกระดาษ ) แรงแมเ่หล็กที่กระทำาต่อโครงลวดนี้มีค่าเท่าใด
ก. 1.2 ข. 2.2 ค. 3.2 ง. 4.2
49. อิเล็กตรอนถกูเรง่ด้วยความต่างศักย์ V โวลต์ ใหเ้คล่ือนที่เขา้ไปในสนามแมเ่หล็ก B เทสลา แล้วเคล่ือนที่
เป็นวงกลม รศัมี R เมตร จงหาค่า ของอิเล็กตรอน
ก. ข. ค. ง.
50. แอโนคของหลอดวทิยุมศัีกดาเป็นบวก 320 โวลต์ เทียบกับแคโทด อิเลคตรอนที่หลดุออกจากแคโทดจะวิง่
ถึงแอโนดคายพลังงานจลน์เท่าใดในหน่วยจูล ความเรว็ของอิเล็กตรอนที่ถึงแอโนดนัน้เป็นเท่าใดในหน่วย เมตร / วนิาที.א 5.1 x 10-17 จูล, 1.0 x 106 เมตร / วนิาที , ข. 5.1 x 10-17 จูล,
1.1 x 107 เมตร / วนิาที ค. 5.1 x 10-16 จูล , 1.0 x 106 เมตร / วนิาที, ง. 5.1 x 10-16
จูล, 1.1 x 107 เมตร / วนิาที
เฉลยโจทยฝึ์กประสบการณ์ บทที่ 13 1. ค 2. ก 3. ข 4. ข 5. ง 6. ค 7. ก 8. ข 9. ก
10. ข. 11. ข 12. ค 13. จ 14. ง 15. ง. 16. ก 17. ข 18. ง 19. ค 20. ข
21. ค 22. จ 23. ก 24. ข 25. ก 26. ก 27. ค 28. ข 29. ก 30. ข 31. ก 32. ค 33.
ง 34. ข 35. ก 36. ค
![Page 29: 167 · Web view6.2 x 10-4 น วต น - เมตร 6.2 x 10-5 น วต น -เมตร 29.ประจ ไฟฟ าลบ 2.0 x 10-16 ค ลอมบ ม มวล 8.0](https://reader035.vdocuments.us/reader035/viewer/2022081622/613748300ad5d2067648850b/html5/thumbnails/29.jpg)
37. ค 38. ก 39. ข 40. ข 41. ข 42. ค 43. ง 44. ค 45.ค 46. ข 47. ก 48. ค 49. ง 50. ข.