รายงาน

เรื่อง การติดตั้ง Web Server วิชา Linux Command Line and Shell Scripting 1201377

จัดท าโดย

นาย ศิรเศรษฐ์ พ่วงปาน 58011211190 ระบบปกติ นาย นันทวัฒน์ ชุมค า 58011211080 ระบบปกติ

นาย พล รัตนะ 58011211094 ระบบปกติ นางสาว ดวงพร รัตนสังข์ 58011211062 ระบบปกติ

นาย อนันต์ ค าแสน 58011211148 ระบบปกติ นาย ปฏิภาณ ทองเพ็ชร 58011211183 ระบบปกติ

เสนอ ผศ.โอฬาริก สุรินต๊ะ

รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา Linux Command Line and Shell Scripting มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ภาคเรียนท่ี1 ปีการศึกษา 2561

Apache Web Server ติดตั้งโปรแกรม Web Server 1. อัพเดทระบบ Linux - Update $ sudo apt-get update 2. ติดตั้ง Apache $ sudo apt-get install apache2 ตรวจสอบสถานะการท างาน Apache Web Server 1. ตรวจสอบสถานะการท างานของ Apache $ sudo service apache2 status 2. หากต้องการให้ Apache ท าการรีสตาร์ท ขณะที่ก าลังท างานอยู่ สามารถใช้ค าสั่ง $ sudo service apache2 restart 3. หากต้องการใช้ Apache หยุดการท างาน สามารถใช้ค าสั่ง $ sudo service apache2 stop 4. หากต้องการใช้ Apache เริ่มท างาน สามารถใช้ค าสั่ง $ sudo service apache2 start 5. นอกจากค าสั่ง service ยังสามารถใช้ค าสั่ง systemctl ดังนี้ $ sudo systemctl start apache2 6. ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงไฟล์ หรือแก้ไข Configuration ไฟล์ระบบของ Apache จะต้องท าการ reload ระบบใหม่ สามารถใช้ค าสั่งดังนี้ เพื่อให้ Apache ท าการ reloand ระบบใหม่ $ sudo systemctl reload apache2 7. หากไม่ต้องการให้ Apache ท างานโดยอัตโนมัติสามารถใช้ค าสั่ง $ sudo systemctl disable apache2 8. แต่หากต้องการใช้ Apache Web Server กลับมาท างานโดยอัตโนมัติอีกครั้ง สามารถใช้ค าสั่ง $ sudo systemctl enable apache2 ที่อยู่ที่ใช้จัดเก็บข้อมูลที่ต้องการแสดงบนเว็บ - Web Content เมื่อติดตั้ง Apache Web Server และก าหนดค่าต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว โดยทั่วไป Web Content จะ ถูกเก็บไว้ที่ /var/www/html ดังนั้นการเข้าถึง Web Content สามารถท าได้โดยใช้ค าสั่ง $ cd /var/www/html แต่หากต้องการที่จะเปลี่ยนที่จัดเก็บ Web Content จะต้องปรับเปลี่ยนที่ Configuration File

การใช้งาน Web Server 1. ตรวจสอบการท างาน Apache Web Server สามารถเปิดโปรแกรม Web Browser และพิมพ์ url ดังนี้ http://your_server_ip หากโปรแกรมท างานจะปรากฏหน้าจอดังต่อไปนี้

ทดสอบการท างานของภาษา PHP บน Web Server 1. สร้างไฟล์นามสกุล php โดยพิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้บน Terminal $ sudo nana /var/www/php_info.php 2. จากนั้นพิมพ์ค าสั่ง <?php phpinfo(); ?> 3. กดปุ่ม ctrl+x เพ่ือบันทึกไฟล์และออกจากโปรแกรม nana 4. จากนั้นเพ่ือให้แน่ใจว่า Apache Web Server ท างานอยู่ สามารถพิมพ์ค าสั่งดังนี้ $ sudo service apache2 restart 5. จากนั้นเปิดเว็บบราวเซอร์และพิมพ์ url ดังนี้ http://your_server_ip/php_info.php จากนั้นเว็บบราวเซอร์จะเปิดไฟล์และท างาน ผลลัพธ์ที่ได้

Install phpmyadmin on Ubuntu การติดตั้ง phpmyadmin บน Linux Ubuntu 1. ติดตั้ง php โดยพิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo apt-get install php7.0 $ sudo apt-get install php7.0-mbstring 2. เมื่อติดตั้ง apache2 และ php เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นสามารถติดตั้งฐานข้อมูล mysql โดย พิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo apt-get install mysql-server $ sudo apt-get install php7.0-mysql ระบบจะให้ใส่รหัสผ่าน (password) ส าหรับ user root 3. ติดตั้งโปรแกรม phpmyadmin โดยใช้ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo apt-get install phpmyadmin ให้เลือก web server ให้เลือก apache2 และยืนยัน ตามล าดับ 4. ติดตั้ง phpmyadmin จากนั้นให้พิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo ln -s /usr/share/phpmyadmin/ /var/www/html/phpmyadmin $ sudo phpenmod mbstring 5. ให้ท าการ Restart เซอร์วิสของ apache โดยพิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo service apache2 restart หรือ $ sudo systemctl restart apache2 ทดสอบการท างานของ phpmyadmin การทดสอบการท างานของ phpmyadmin ให้เปิด Web Browser และพิมพ์หมายเลข ip address แล้วตามด้วย phpmyadmin เช่น http://192.168.1.55/phpmyadmin

ข้อดีของการพิมพ์หมายเลข ip address ลงไปในช่อง url ก็คือสามารถท่ีจะเรียกจากเครือ่งใดในเน็ตเวิร์กก็ได้ แต่หากใช้ localhost/phpmyadmin จะสามารถเรียกไดจ้ากเครื่องที่ติดตั้งเท่านั้น

FileZilla FTP Server in Ubuntu Linux

การโอนย้ายไฟล์บน Linux นั้น เครื่องเซิร์ฟเวอร์ จะต้องติดตั้งโปรแกรมเพ่ือให้สามารถรับส่งไฟล์ผ่านโปรโตคอล FTP (File Transfer Protocol) Install a FTP server on Linux 1. เปิดโปรแกรม Terminal (ctrl+alt+T) เพ่ือพิมพ์ค าสั่งในการติดตั้ง ให้ update ระบบด้วยการพิมพ์ค าสั่ง $ sudo apt-get update $ sudo apt-get upgrade 2. จากนั้นให้ติดตั้งโปรแกรม vsftpd โดยใช้ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo apt-get install vsftpd 3. ติดตั้งโปรแกรม FileZilla $ sudo apt-get install filezilla Configuring the FTP Server 1. เปิด Terminal และพิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo nano /etc/vsftpd.conf 2. จากนั้นโปรแกรม nano จะเปิดไฟล์ vsftpd.conf ขึ้นมาเพ่ือให้แก้ไข สิ่งที่ต้องแก้ไขคือ อนุญาตให้ User สามารถล็อกอิน (Login) เข้าสู่ FTP Server และสามารถ upload ไฟล์ไปเก็บไว้ที่ Server โดยค้นหาข้อความ ดังต่อไปนี้ #local_enable=YES และ #write_enable=YES 3. ลบเครื่องหมาย (uncomment) # ออกไป ผลลัพธ์ที่ได้คือ local_enable=YES และ write_enable=YES 4. กดปุ่ม ctrl+x และกด y เพ่ือยืนยันการบันทึกไฟล์ ต้องลบเครื่องหมาย # (Uncomment) 5. ให้ restart เซอร์วิส ของ vsftpd โดยพิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo service vsftpd restart ตัวอย่างโปรแกรม FileZilla

Install Webmin on Linux

การติดตั้ง Webmin เพื่อบริหารจัดการเครื่อง Server การติดตั้งโปรแกรม Webmin สามารถติดตั้งผ่าน ssh ได้ เพียงแค่เปิดโปรแกรม Terminal และ Login เข้าระบบผ่าน ssh ก็สามารถติดตั้ง webmin ได้ 1. ก่อนเริ่มติดตั้ง Webmin จะต้องเตรียม source file ให้พร้อมโดยการเปิด Terminal และพิมพ์ ค าสั่ง ดังต่อไปนี้ $ sudo nano /etc/apt/sources.list 2. จากนั้นโปรแกรมจะเปิดไฟล์ sources.list ขึ้นมา ให้พิมพ์ค าสั่งต่อไปนี้ ลงไปต่อท้ายไฟล์ sources.list deb http://download.webmin.com/download/repository sarge contrib 3. ให้บันทึกและออกจากโปรแกรม nano ด้วยการกดปุ่ม ctrl+x และบันทึกการเปลี่ยนแปลงโดยกด y และกด Enter 4. ท าการเพิ่มคีย์ของ Webmin - Webmin PGP Key ซึ่งจะท าให้ระบบเชื่อถือ (Trust) ไฟล์ sources.list หรือ repository ที่เพ่ิมเข้าไป โดยพิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ wget http://www.webmin.com/jcameron-key.asc $ sudo apt-key add jcameron-key.asc 5. อัพเดทระบบเพ่ือให้ไฟล์ repository เพ่ิม package ของ Webmin เข้าไปโดยใช้ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo apt-get update 6. ติดตั้ง Webmin โดยพิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้ $ sudo apt-get install webmin การเรียกเว็บบราวเซอร์เพื่อเปิดโปรแกรม Webmin การเรียกใช้งาน webmin โดยเปิดเว็บบราวเซอร์ที่เครื่อง Client ใดก็ได้ จากนั้นให้พิมพ์ url ดังนี้ https://your_domain:10000 เมื่อเข้าไปยังหน้า webmin ครั้งแรกจะยังเข้าใช้งานไม่ได้ เนื่องจากสิทธิ์การใช้งานเป็นแบบมีการ รักษาความปลอดภัย secure ดังนั้น ให้กดท่ีปุ่ม Advanced เพ่ือเพ่ิมสิทธิ์ (Valid Certificate) และ การเข้ารหัส (Encrypt) ในการใช้งาน

เมื่อคลิกท่ีปุ่ม Advanced จะปรากฏหน้าจอดังต่อไปนี้ จากนั้นให้กดที่ปุ่ม Add Exception... เพ่ือ เพ่ิมการรักษาความปลอดภัย Security Exception ในการเข้าใช้งาน

เมื่อคลิกท่ี Add Exception... จะมีหน้าต่างปรากฏขึ้น ให้กดที่ปุ่ม Confirm Security Exception เพ่ือยืนยันการใช้งานที่มีการรักษาความปลอดภัย

เมื่อเข้าใช้งาน webmin ได้แล้ว จะปรากฎหน้าจอให้กรอก username และ password โดยเป็น username และ password ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ติดตั้ง webmin จากนั้นให้กดที่ปุ่ม Sign in เพ่ือ เข้าสู่โปรแกรม Webmin

ตัวอย่างโปรแกรม Webmin

ติดตั้งโปรแกรมเพื่อใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษา Python บน Windows

Download and Installing Python3 โปรแกรมภาษา Python สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บ https://www.python.org ซ่ึง Python สามารถติดตั้งได้บน MacOs และ Windows

Install – ติดตั้ง เมื่อโหลดไฟล์ .exe เสร็จเรียบร้อย ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์จากนั้นจะปรากฏหน้าจอดังต่อไปนี้

ให้คลิกเลือก option Add Python 3.7 to PATH

จากนั้นให้คลิกที่ Install Now เพ่ือติดตั้งโปรแกรม

โปรแกรมจะติดตั้ง Python3 รอจนกระทั่งติดตั้งเสร็จสมบูรณ์

การเรียกใช้ Python 1. เรียกใช้โปรแกรม Python IDLE เพ่ือทดสอบการเขียน script ภาษา Python สามารถเปิดโปรแกรมโดยกดที่ปุ่มไอคอน Windows และเลื่อนไปหาโปรแกรม Python

Python IDLE นี้สามารถท่ีจะเปิดไฟล์ใหม่เพ่ือใช้เขียนโปรแกรม ท าการ Debug โปรแกรม หรือ ทดสอบการเขียน script แบบ Interactive mode การเปิด command prompt (cmd) เพื่อรัน Python 1. ให้คลิกปุ่ม Windows และพิมพ์ cmd เพ่ือเปิดหน้าจอ command prompt

หากต้องการที่จะรันโปรแกรม Python จะต้องเข้าไปยังโฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์ Python (.py) เสียก่อน โดยค าสั่งดังต่อไปนี้

> cd Desktop\Nanthawat > dir > python test.py

กรณีไม่สามารถพิมพ์ค าสั่ง python ลงไปใน command prompt (cmd) ในบางกรณี เมื่อติดตั้งโปรแกรม python ลงไปจนเสร็จสิ้น เมื่อเปิด cmd และพิมพ์ค าสั่ง > ptyhon ก็อาจไม่สามารถใช้งานโปรแกรม python ได้ โดย path ที่จะท าการเพ่ิมลงไปใน Environment Variables ก็คือที่อยู่ของค าสั่ง ซึ่งในกรณีนี้คือ C:\Users\Advice\AppData\Local\Programs\Python\Python37-32

การสร้าง User ใน Linux

ค าสั่งสร้าง User

ใช้ค าสั่งดังต่อไปนี้ในการสร้าง User

$ sudo adduser ‘username’

การให้สิทธิ์แก่ User

ใช้ค าสั่งดังต่อไปนี้ในการให้สิทธิ์แก่ User

$ cd ..

เพ่ือถอยไปยัง Directory home จากนั้นใช้ค าสั่ง

$ sudo chmod 705 ‘username’

จากตัวอย่าง ได้ท าการสร้าง User โดยใช้ username ว่า ‘newuser’ เมื่อท าการสร้าง User เสร็จสิ้นก็ให้ท าการก าหนดสิทธิ์แก่ User นั้น

ตรวจสอบสิทธ ์

เมื่อก าหนดสิทธิ์เสร็จสิ้น เราสามารถใช้ค าสั่งดังต่อไปนี้เพื่อดูว่า User นี้มีสิทธิ์อะไรบ้าง

$ ls –la

จากรูปข้างบน User ที่ชื่อว่า newuser จะมีสัญลักษณ์อยู่ข้างหน้าคือ drwx---r-x ซึ่งจะแปลได้ว่า

d - Directory

r – Read (อ่านไฟล์)

w – Write (แก้ไขไฟล์)

x – Execute (รันไฟล์)

โดยจะแบ่งเป็น 3 ส่วนดังนี้ rwx ตัวที่หนึ่งเป็นของ Owner (เจ้าของ), rwx ตัวที่สอง Group (กลุ่ม), rwx ตัวที่สาม Other(ผู้ใช้อ่ืน) ดังนั้น drwx---r-x ของ newuser จะอ่านได้ว่า rwx เจ้าของมีสิทธิ์ทุกอย่าง, --- กลุ่มไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึง, r-x สามารถอ่าน, รันไฟล์ได้ แต่แก้ไขไฟล์ไม่ได้

การสร้างลิ้งค์ Directory ของ user

การสร้างลิ้งค์

ใช้ค าสั่งดังต่อไปนี้เพื่อสร้างลิ้งค์ Directory ของ user ไปยัง phpmyadmin

$ sudo ln –s /home/’Directory ของ user’/ /var/www/html/

จากรูปข้างบน จะเห็นได้ว่ามีชื่อ Directory ที่เป็นสีฟ้าอยู่ ซึ่งหมายถึง ลิ้งค์ของ Directory ที่ถูกน ามาไว้ที่นี ่

การสร้าง User ใน phpmyadmin

สร้าง User ใน phpmyadmin

ขั้นตอนแรกเราจะต้อง Login เข้า phpmyadmin ในฐานะ root ก่อน โดยใส่ username (Default : root) กับ password ได้ท าการตั้งแต่ไว้ในขั้นตอนการติดตั้ง phpmyadmin

เมื่อ Login เข้ามาให้คลิกไปที่แท็บ User accounts

คลิกท่ี Add user account

จากนั้น ท าการกรอกข้อมูลลงไป

เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จสิ้น ให้คลิกท่ี GO เพ่ือท าการสร้าง User ถ้า User ถูกสร้างส าเร็จจะได้ผลลัพธ์ดังภาพต่อไปนี้

การสร้าง Web ส่วนตัวของ User

Client Login เข้าเครื่อง Server

ใช้ค าสั่งดังต่อไปนี้ในการ Login เข้าเครื่อง Server โดยที่ username คือ user ของเราที่ได้สร้างไว้ตามด้วย ip address ของเครื่อง Server

$ ssh ‘username’@’ip_address’

เมื่อ Login ส าเร็จ ให้ท าการเข้า phpmyadmin โดยพิมพ์ ip_address/phpmyadmin/

จากนั้น ให้ Login เข้า phpmyadmin ด้วย User ของเราที่ root สร้างไว้ให้ แล้วให้ท าการสร้าง Database, Table กับ Field

เมื่อท าการสร้าง Database, Table กับ Field เสร็จสิ้น ให้ย้อนกลับไปที่ Terminal พิมพ์ค าสั่งดังต่อไปนี้ เพ่ือเข้าไปใน Directory ของ user

$ cd /var/www/html/’username’/

จากนั้น ใช้ค าสั่งดังต่อไปนี้ในการสร้างไฟล์ และพิมพ์โค้ดดังภาพต่อไปนี้

$ nano ‘filename’.php

เมื่อพิมพ์โค้ดเสร็จสิ้น ให้กด CTRL+O เพ่ือเซฟไฟล์ และ CTRL+X เพ่ือออก

จากนั้น ให้พิมพ์ ip_address/directory ของ user/ไฟล์ php ที่ได้สร้างไว้ ตัวอย่าง 192.168.1.18/user2/user2.php จะได้ผลลัพธ์ดังภาพต่อไปนี้

เป็นอันเสร็จสิ้นการสร้าง Web ส่วนตัว

FileZilla

Connect Ubuntu

เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมา ให้เรากรอกข้อมูลต่อไปนี้ลงในช่องที่วงกลมสีแดงเพ่ือท าการเชื่อมต่อกับ Ubuntu

Host – ip address, Username – user ที่ได้สร้างไว้ใน Ubuntu, Password – password ของ user

คลิกท่ีปุ่ม Quickconnect ก็จะได้ผลลัพธ์ดังรูปต่อไปนี้

Permission

จากรูปดังต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นว่าเราสามารถเข้า directory ของตัวเองได้

ต่างจากรูปดังต่อไปนี้ที่จะเห็นได้ว่าเราไม่สามารถเข้า directory ของ user อ่ืนได้ เนื่องจากเราไม่มีสิทธิ์ในการเข้า

Upload

หากเราต้องการอัพโหลดไฟล์จากคอมพิวเตอร์ของเราไปยัง Ubuntu ให้กดคลิกขวาที่ไฟล์ที่เราต้องการจะอัพโหลดตามรูปต่อไปนี้

จากนั้นรอซักพักไฟล์ที่เราอัพโหลดจะเข้าไปอยู่ใน Ubuntu ตามรูปต่อไปนี้

Webmin

MySQL Database Server

คลิกท่ี Start MySQL Server เพ่ือเป็นการเปิด MySQL Server

เมื่อคลิกเข้ามา จะเข้ามายังหน้าตามภาพดังต่อไปนี้

การสร้าง Database, Table กับ Field

คลิกท่ี Create a new database เพ่ือเริ่มสร้าง Database

เราสามารถกรอกข้อมูล Database, Table และ Field ได้ในหน้านี้ เมื่อกรอกเสร็จให้คลิกที่ปุ่ม Create

เราก็จะได้ Database ที่เราได้ท าการสร้างไว้ตามวงกลมสีแดง

ซึ่งตัว Database ที่เราสร้างไว้ใน Webmin จะถูกสร้างไว้ที่ phpmyadmin ด้วยเช่นกัน

การสร้าง User ของ phpmyadmin ใน Webmin

หากเราต้องการสร้าง user ของ phpmyadmin ใน Webmin ให้คลิกท่ี User Permissions

เมื่อเข้ามาจะผลลัพธ์ดังภาพต่อไปนี้ จากนั้นให้คลิกที่ Create new user เพ่ือท าการสร้าง User

ให้ท าการกรอกข้อมูล Username, Password และเราสามารถก าหนดสิทธิ์แก่ User ได้ในส่วนของ Premissions

เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จสิ้น ให้คลิกที่ปุ่ม Create เพ่ือสร้าง User จะเห็นว่าม ีuser ที่เราได้สร้างไว้ ตามภาพดังต่อไปนี้

ซ่ึง User ของ phpmyadmin ที่เราสร้างไว้ใน Webmin จะถูกสร้างไว้ที่ phpmyadmin ด้วยเช่นกัน

การเปลี่ยนรหัสผ่านของ root ผ่าน Webmin

หากต้องการเปลี่ยน Password ของ root ใน phpmyadmin ให้คลิกที่ Change Administration Password

ในช่อง Current Password เราจะเห็น Password ในปัจจุบันของเรา หากเราต้องการเปลี่ยน ให้กรอกรหัสผ่านช่อง New password และกรอกซ้ าอีกทีช่อง Repeat Password จากนั้นกดที่ Change Now

เมื่อท าการเปลี่ยนรหัสผ่านเสร็จสิ้น เราจะเห็นได้ว่ารหัสผ่านได้ถูกเปลี่ยนเป็นที่เรียบร้อย

การสร้าง User ใน Webmin

นอกจากการสร้าง User ใน Linux ผ่าน Terminal แล้ว เรายังสามารถสร้าง User ใน Webmin ได้ด้วย โดยคลิกไปที่ System -> Users and Groups

ให้คลิกท่ี Create a new user เพ่ือเริ่มการสร้าง User

ให้กรอกข้อมูลตามวงกลมสีแดง เมื่อกรอกเสร็จให้คลิกที่ Create เพ่ือสร้าง User

เมื่อสร้าง User ส าเร็จ เราจะเห็น User ที่เราสร้างไว้ตามวงกลมสีแดง

การแก้ไข Password ของ User ใน Webmin

หากต้องการเปลี่ยน Password ให้คลิกไปที่ User ที่ต้องการเปลี่ยน กรอก Password ใหมต่ามวงกลมสีแดง จากนั้นคลิกท่ี Save เพ่ือบันทึกการเปลี่ยนแปลง