council of engineer (thailand) 2215 mechanics of flight

145
สาขา: เครื่องกล วิชา: ME14 Mechanics of Flight ขอที: 1 ขอใดตอไปนี้ไมใชแรงที่กระทํากับอากาศยานขณะบินตรงระดับ (Steady level fight) คําตอบ 1 : Rolling friction คําตอบ 2 : Thrust คําตอบ 3 : Drag คําตอบ 4 : Weight ขอที: 2 ขณะที่อากาศยานบินเดิน(cruise) ทางในสภาพการบินตรงระดับ(steady flight) แรงในขอใดที่ใชในการฉุดอากาศยานใหเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันขามกับแรงตาน คําตอบ 1 : Lift คําตอบ 2 : Thrust คําตอบ 3 : Weight คําตอบ 4 : Drag ขอที: 3 ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง สําหรับการบินที่แนวแรงขับทํามุมกับเสนทางการบิน (Flight path) คําตอบ 1 : Lift จะตั้งฉากกับ คําตอบ 2 : Drag จะขนานกับ คําตอบ 3 : Thrust จะขนานกับ คําตอบ 4 : Weight จะมีทิศทางพุงสูศูนยกลางโลก ขอที: 4 แรงในขอใดที่ใชสมดุล (Balance) น้ําหนักของอากาศยานขณะบินตรงระดับ (Steady flight) คําตอบ 1 : Lift คําตอบ 2 : Thrust คําตอบ 3 : Drag คําตอบ 4 : Side Force สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิห้ามจำหน่าย 1 of 145

Upload: nut-khaopatumthip

Post on 18-Jan-2016

40 views

Category:

Documents


0 download

DESCRIPTION

Council of Engineer (Thailand) 2014Solution Manual for Engineer LicenseMechanics of Flight Subject

TRANSCRIPT

Page 1: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

สาขา: เครื่องกล วิชา: ME14 Mechanics of Flight

ขอที่ : 1 ขอใดตอไปนี้ไมใชแรงที่กระทํากับอากาศยานขณะบินตรงระดับ (Steady level fight)

คําตอบ 1 : Rolling friction คําตอบ 2 : Thrust คําตอบ 3 : Drag คําตอบ 4 : Weight

ขอที่ : 2 ขณะที่อากาศยานบินเดิน(cruise) ทางในสภาพการบินตรงระดับ(steady flight) แรงในขอใดที่ใชในการฉุดอากาศยานใหเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันขามกับแรงตาน

คําตอบ 1 : Lift คําตอบ 2 : Thrust คําตอบ 3 : Weight คําตอบ 4 : Drag

ขอที่ : 3 ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง สําหรับการบินที่แนวแรงขับทํามุมกับเสนทางการบิน (Flight path)

คําตอบ 1 : Lift จะตั้งฉากกับ

คําตอบ 2 : Drag จะขนานกับ

คําตอบ 3 : Thrust จะขนานกับ

คําตอบ 4 : Weight จะมีทิศทางพุงสูศูนยกลางโลก

ขอที่ : 4 แรงในขอใดที่ใชสมดุล (Balance) น้ําหนักของอากาศยานขณะบินตรงระดับ (Steady flight)

คําตอบ 1 : Lift คําตอบ 2 : Thrust คําตอบ 3 : Drag คําตอบ 4 : Side Force

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

1 of 145

Page 2: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 5 ขอใดอธิบายไดถูกตองเกี่ยวกับสภาพสมดุลของอากาศยานขณะบินตรงระดับ (Steady flight)

คําตอบ 1 : L=W, T=D

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 6 คาตาง ๆ ตอไปนี้มีผลกระทบตอคาของแรงขับที่ตองการ ในการเอาชนะแรงตานในการบินตรงระดับ (Steady flight) ขอใดตอไปนี้ไมใช

คําตอบ 1 : ความสูง คําตอบ 2 : ความเร็ว คําตอบ 3 : น้ําหนัก คําตอบ 4 : จุดศูนยถวง

ขอที่ : 7

จากรูปที่กําหนดให หมายเลข 1 คือแรงในขอใดที่กระทํากับอากาศยานขณะกําลังบินอยูในอากาศ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

2 of 145

Page 3: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : แรงยก คําตอบ 2 : แรงตาน คําตอบ 3 : น้ําหนัก คําตอบ 4 : แรงขับ

ขอที่ : 8

จากรูปที่กําหนดให หมายเลข 2 คือ แรงในขอใดที่กระทํากับอากาศยานขณะกําลังบินอยูในอากาศ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

3 of 145

Page 4: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : แรงยก คําตอบ 2 : แรงตาน คําตอบ 3 : น้ําหนัก คําตอบ 4 : แรงขับ

ขอที่ : 9

จากรูปที่กําหนดให หมายเลข 3 คือแรงในขอใดที่กระทํากับอากาศยานขณะกําลังบินอยูในอากาศ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

4 of 145

Page 5: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : แรงยก คําตอบ 2 : แรงตาน คําตอบ 3 : น้ําหนัก คําตอบ 4 : แรงขับ

ขอที่ : 10

จากรูปที่กําหนดให หมายเลข 4 คือแรงในขอใดที่กระทํากับอากาศยานขณะกําลังบินอยูในอากาศ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

5 of 145

Page 6: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : แรงยก คําตอบ 2 : แรงตาน คําตอบ 3 : น้ําหนัก คําตอบ 4 : แรงขับ

ขอที่ : 11

จากรูปที่กําหนดให ผลรวมของแรงลัพทในแนวขนานกับเสนทางการบิน(Flight path) คือขอใด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

6 of 145

Page 7: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 12

จากรูปที่กําหนดให ผลรวมของแรงลัพทในแนวตั้งฉากกับเสนทางการบิน(Flight path) คือขอใด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

7 of 145

Page 8: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : คําตอบ 2 : คําตอบ 3 : คําตอบ 4 :

ขอที่ : 13 ขอใดอธิบายไดถูกตองเกี่ยวกับแรงขับที่ตองการ (Thrust Required)

คําตอบ 1 : แรงขับที่ตองการของอากาศยานชนิดใดๆ มีคาคงที่ คําตอบ 2 : แรงขับที่ตองการขึ้นกับความเร็ว ความสูง และรูปทรงของอากาศยาน คําตอบ 3 : แรงขับที่ตองการแปรผันโดยตรงกับความเร็ว คําตอบ 4 : แรงขับที่ตองการแปรผันโดยตรงกับความสูง

ขอที่ : 14

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

8 of 145

Page 9: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 42 N คําตอบ 2 : 21 N คําตอบ 3 : 42 kN คําตอบ 4 : 21 kN

ขอที่ : 15

คําตอบ 1 : 14.9 คําตอบ 2 : 15.9 คําตอบ 3 : 16.9 คําตอบ 4 : 17.9

ขอที่ : 16 ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับกราฟของแรงขับที่ตองการ(Thrust required)กับ ความเร็ว(Velocity)

คําตอบ 1 : จุดต่ําสุดของกราฟ แรงตานติดตัวเทากับแรงตานเหนี่ยวนํา คําตอบ 2 : กราฟของแรงขับที่ตองการมีคาเทากับกราฟแรงตานของอากาศยาน คําตอบ 3 : กราฟแรงขับที่ตองการของอากาศยานไมเปลี่ยนแปลงตามความสูง คําตอบ 4 : กราฟแรงขับที่ตองการของอากาศยานเปลี่ยนแปลงตามความสูง

ขอที่ : 17 สําหรับเครื่องบินไอพน(Jet aircraft) หากตองการบินไตแบบไมมีความเรง (Steady Climb) ดวยมุมไตสูงสุด(Maximum angle of climb) จะตองบินอยางไร

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

9 of 145

Page 10: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 :

บินดวยมุมปะทะที่ใหคา

คําตอบ 2 : บินดวยมุมปะทะที่ใหคา

คําตอบ 3 :

บินดวยมุมปะทะที่ใหคา

คําตอบ 4 : บินดวยมุมปะทะที่ใหคา

ขอที่ : 18 สําหรับเครื่องบินไอพน หากตองการบินไตดวยความเร็วคงที่ (steady climb) ดวยมุมไตสูงสุด (maximum climb angle) จะตองบินดวยคงามเร็วเทาไร

คําตอบ 1 :

บินดวยความเร็วที่ใหคา

คําตอบ 2 :

บินดวยความเร็วที่ใหคา

คําตอบ 3 : บินดวยความเร็วที่ใหคา

คําตอบ 4 : บินดวยความเร็วที่ใหคา

ขอที่ : 19 ความเร็วสูงสุดในการบินตรงระดับแบบไมมีความเรง (Steady Level Flight) ของอากาศยานจะเปลี่ยนไปเมื่อคาตางๆ เหลานี้เปลี่ยนแปลงไปยกเวนขอใด

คําตอบ 1 : รูปทรงของอากาศยาน คําตอบ 2 : น้ําหนักของอากาศยาน คําตอบ 3 : ตําแหนงของจุดศูนยถวง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

10 of 145

Page 11: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : ความสูงของอากาศยาน

ขอที่ : 20 ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง

คําตอบ 1 : ถาน้ําหนักของอากาศยานเพิ่มขึ้น ความเร็วสูงสุดในการบินตรงระดับแบบความเร็วคงที่ (Steady Level Flight) จะลดลง คําตอบ 2 : ถาน้ําหนักของอากาศยานเพิ่มขึ้น อัตราการไต (Rate of Climb) ในการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Climb) จะลดลง คําตอบ 3 : ถาน้ําหนักของอากาศยานเพิ่มขึ้น ความเร็วต่ําสุดในการบินตรงระดับแบบความเร็วคงที่ (Steady Level Flight) จะลดลง คําตอบ 4 : ถาน้ําหนักของอากาศยานเพิ่มขึ้น มุมไต (Angle of Climb) ในการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Climb) จะลดลง

ขอที่ : 21 ถาน้ําหนักของเครื่องบินไอพน(Jet aircraft)เพิ่มขึ้นขอใดตอไปนี้ถูกตอง

คําตอบ 1 : แรงตานเนื่องจากแรงยกเพิ่มขึ้นมากกวาแรงตานติดตัว คําตอบ 2 : ทั้งแรงตานเนื่องจากแรงยกและแรงตานติดตัวเพิ่มขึ้นในปริมาณเทากัน คําตอบ 3 : แรงตานเนื่องจากแรงยกลดลงนอยกวาแรงตานติดตัว คําตอบ 4 : แรงตานติดตัวเพิ่มขึ้นมากกวาแรงตานเนื่องจากแรงยก

ขอที่ : 22

คําตอบ 1 : L = W

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 23 การบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Climb) โดยใหไดอัตราการไตสูงสุด(Maximum rate of climb) ขอใดไมถูกตอง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

11 of 145

Page 12: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : ลดน้ําหนักบรรทุกใหนอยที่สุด คําตอบ 2 : บินดวยทาทางที่ใหกําลังขับที่ตองการ (Power require) ต่ําสุด คําตอบ 3 : บินดวยกําลังขับที่มีได (Power avaiable) สูงสุด คําตอบ 4 : เปดแฟลบขณะบินไต

ขอที่ : 24

คําตอบ 1 : 15.71 m/s คําตอบ 2 : 3.09 m/s คําตอบ 3 : 30.33 m/s คําตอบ 4 : 45.05 ms

ขอที่ : 25

คําตอบ 1 : 3.54 degree

คําตอบ 2 : 35.45 degree

คําตอบ 3 : 0.3 degree

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

12 of 145

Page 13: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : 1 degree

ขอที่ : 26 ขอสรุปใดตอไปนี้ถูกตองเกี่ยวกับการไตดวยความเร็วคงที่ (Steady climb)

คําตอบ 1 : แรงยกเทากับน้ําหนัก และแรงขับเทากับแรงตาน คําตอบ 2 : แรงยกนอยกวาน้ําหนัก และแรงขับมากกวาแรงตาน คําตอบ 3 : แรงยกนอยกวาน้ําหนักและแรงขับนอยกวาแรงตาน คําตอบ 4 : แรงยกมากกวาน้ําหนัก และแรงขับนอยกวาแรงตาน

ขอที่ : 27 เมื่อเครื่องยนตเกิดขัดของขณะทําการบิน จึงเปนเหตุใหตองทําการรอน (Gliding) โดยเมื่อตองการรอนใหไดระยะทางในแนวระดับไกลที่สุด จะตองทําอยางไร

คําตอบ 1 : รอนดวยมุมปะทะต่ําที่สุด คําตอบ 2 : รอนดวยมุมรอนชันที่สุด

คําตอบ 3 : รอนดวยมุมรอนที่ใหคา

คําตอบ 4 :

รอนดวยมุมรอนที่ใหคา

ขอที่ : 28

คําตอบ 1 : 738 กิโลเมตร คําตอบ 2 : 738 เมตร คําตอบ 3 : 8,666 กิโลเมตร คําตอบ 4 : 8,666 เมตร

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

13 of 145

Page 14: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 29 ขอสรุปใดตอไปนี้ถูกตองเกี่ยวกับการรอน (Gliding)

คําตอบ 1 : แรงยกเทากับน้ําหนักของอากาศยาน และแรงขับเทากับแรงตาน คําตอบ 2 : แรงยกนอยกวาน้ําหนักของอากาศยาน และผลรวมของแรงตานยกกําลังสองกับแรงยกยกกําลังสองมีคาเทากับน้ําหนักของอากาศยานยกกําลังสอง คําตอบ 3 : แรงยกนอยกวาน้ําหนักของอากาศยาน และผลรวมของแรงตานยกกําลังสองกับแรงยกยกกําลังสองมีคานอยกวาน้ําหนักของอากาศยานยกกําลังสอง คําตอบ 4 : แรงยกนอยกวาน้ําหนักของอากาศยาน และแรงขับเทากับแรงตาน

ขอที่ : 30 ขอใดตอไปนี้คือคําจํากัดความเพดานบินสมบูรณ(Absolute ceiling)

คําตอบ 1 : ความสูงที่อัตราการไตสูงสุดมีคา 100 ฟุตตอนาที คําตอบ 2 : ความสูงที่อัตราการไตมีคา 100 ฟุตตอนาที คําตอบ 3 : ความสูงที่อัตราการไตสูงสุดมีคา 0 ฟุตตอนาที คําตอบ 4 : ความสูงที่อัตราการไตมีคา 0 ฟุตตอนาที

ขอที่ : 31 ขอใดตอไปนี้ คือคําจํากัดความของเพดานบินเดินทาง (service ceiling)

คําตอบ 1 : ความสูงที่อัตราการไตมีคา 100 ฟุตตอนาที คําตอบ 2 : ความสูงที่อัตราการไตสูงสุดมีคา 100 ฟุตตอนาที คําตอบ 3 : ความสูงที่อัตราการไตสูงสุดมีคา 0 ฟุตตอนาที คําตอบ 4 : ความสูงที่อัตราการไตมีคา 0 ฟุตตอนาที

ขอที่ : 32

กราฟที่แสดงขางลางนี้เปนกราฟแสดง Thrust – Available ของเครื่องยนตชนิดใด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

14 of 145

Page 15: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : เครื่องยนตใบพัด (Propeller Engine) คําตอบ 2 : เครื่องยนตกังหันเจ็ต (Turbojet Engine) คําตอบ 3 : เครื่องยนตที่ใชอากาศ (Airbreating Engine) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 33

กราฟที่แสดงขางลางนี้เปนกราฟแสดงแรงขับที่สามารถมีได (Thrust – Available) ของเครื่องยนตชนิดใด

คําตอบ 1 : เครื่องยนตใบพัด (Propeller Engine) คําตอบ 2 : เครื่องยนตกังหันเจ็ต (Turbojet Engine) คําตอบ 3 : เครื่องยนตที่ใชอากาศ (Airbreating Engine)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

15 of 145

Page 16: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 34

อากาศยานลําหนึ่งมีกําลังขับสวนเกิน (Excess Power) เทากับ 60,000 วัตตโดยมีน้ําหนัก 3,000 กิโลกรัม อากาศยานนี้กําลังทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Climb) จงหาอัตราการไต (Rate of Climb) ของอากาศยานลํานี้คําตอบ 1 : 20 m/s คําตอบ 2 : 10 m/s คําตอบ 3 : 5 m/s คําตอบ 4 : 2 m/s

ขอที่ : 35

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 36

จากตารางขางลางคาความสูง Service Ceiling มีคาประมาณเทาไร

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

16 of 145

Page 17: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 27,000 ft คําตอบ 2 : 26,000 ft คําตอบ 3 : 25,000 ft คําตอบ 4 : 24,000 ft

ขอที่ : 37

จากตารางขางลางคาคงามสูง Absolute Ceiling มีคาประมาณเทาไร

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

17 of 145

Page 18: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 27,000 ft คําตอบ 2 : 26,000 ft คําตอบ 3 : 25,000 ft คําตอบ 4 : 24,000 ft

ขอที่ : 38 ในการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Climb) อัตราการไตสูงสุด (maximum Rate of Climb) ของเครื่องบินที่ขับเคลื่อนดวยเครื่องยนตลูกสูบใบพัดจะเกิดที่สภาพการบินใด

คําตอบ 1 : คาอัตราสวนแรงยกตอแรงตานมากที่สุด (maximum L/D) คําตอบ 2 : ที่คากําลังขับที่ตองการนอยที่สุด (minimum power require) คําตอบ 3 : ที่คาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด (maximum Lift Coefficient) คําตอบ 4 : ที่คากําลังขับสวนเกินมากที่สุด (maximum power excess)

ขอที่ : 39 หากตองการใหอากาศยานรอนไดไกลที่สุดจะตองทําการรอนที่สภาวะ

คําตอบ 1 : ที่คาอัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตานมากที่สุด (maximum L/D) คําตอบ 2 : ที่คากําลังขับที่ตองการนอยที่สุด (minimum power require) คําตอบ 3 : ที่คาสัมประสิทธิ์แรงยกมากที่สุด (maximum lift coefficient) คําตอบ 4 : ที่คากําลังขับสวนเกินมากที่สุด (maximum power excess)

ขอที่ : 40 ขอสรุปใดตอไปนี้ไมถูกตองสําหรับการบินเดินทางใหไดระยะเวลานานที่สุด (maximum endurance) ของเครื่องบินไอพน

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 : ตองบินดวยคาความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจําเพาะ (Thrust Specific Fuel Consumption) ต่ําสุด คําตอบ 4 : ที่อัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตานมากที่สุด (maximum L/D)

ขอที่ : 41

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

18 of 145

Page 19: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 58.8 m/s คําตอบ 2 : 18.8 m/s คําตอบ 3 : 41.6 m/s คําตอบ 4 : 76.3 m/s

ขอที่ : 42 หากวาทําการบินในสภาวะที่คาอัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตานมากที่สุด (maximum L/D) ขอใดไมถูกตอง

คําตอบ 1 : จะสามารถทําการรอนไดระยะทางในแนวระดับที่มากที่สุด คําตอบ 2 : พิสัยบินไกลสุด (maximum range) ของเครื่องบินใบพัด คําตอบ 3 : ระยะเวลาการบินนานสุด (maximum endurance) ของเครื่องบินใบพัด คําตอบ 4 : คาแรงตานติดตัว (parasite drag) มีคาเทากับแรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag) จากแรงยก

ขอที่ : 43

จากกราฟแสดงความสัมพันธระหวางความเร็วในแนวระดับ และความเร็วในแนวดิ่งเมื่ออากาศยานกําลังบินไต (Hodograph) ตําแหนงใดใหคาอัตราการไต (Rate of Climb) สูงสุด

คําตอบ 1 : 1 คําตอบ 2 : 2 คําตอบ 3 : 3 คําตอบ 4 : 4

ขอที่ : 44

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

19 of 145

Page 20: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

จากกราฟแสดงความสัมพันธระหวางความเร็วในแนวระดับ และความเร็วในแนวดิ่งเมื่ออากาศยานกําลังบินไต (Hodograph) ตําแหนงใดใหคามุมไต (Angle of Climb) สูงสุด

คําตอบ 1 : 1 คําตอบ 2 : 2 คําตอบ 3 : 3 คําตอบ 4 : 4

ขอที่ : 45

คําตอบ 1 : 8 คําตอบ 2 : 9 คําตอบ 3 : 10 คําตอบ 4 : 11

ขอที่ : 46

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

20 of 145

Page 21: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 14 คําตอบ 2 : 15 คําตอบ 3 : 16 คําตอบ 4 : 17

ขอที่ : 47

คําตอบ 1 : 7.83 m/s. คําตอบ 2 : 48.32 m/s. คําตอบ 3 : 68.34 m/s. คําตอบ 4 : 16.06 m/s.

ขอที่ : 48

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

21 of 145

Page 22: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 10.30 m/s. คําตอบ 2 : 63.58 m/s. คําตอบ 3 : 98.93 mt/s. คําตอบ 4 : 21.13 m/s.

ขอที่ : 49 ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับโพลารของแรงตาน (polar drag)

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 : เสนตรงที่ลากจากจุดกําเนิดไปสัมผัสกับโพลารของแรงตาน ณ จุดสัมผัสนั้นจะใหคาอัตราสวนแรงยกตอแรงตานที่มากที่สุด (maximum L/D)

ขอที่ : 50

จากกราฟแรงตานของอากาศยานขณะทําการบินตรงระดับ A หมายถึงแรงตานประเภทใด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

22 of 145

Page 23: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : แรงตานเหนี่ยวนํา (Induced Drag) คําตอบ 2 : แรงตานติดตัว (Parasite Drag) คําตอบ 3 : แรงตานเวฟ (Wave Drag) คําตอบ 4 : การลูออกของแรงตาน (Drag Divergence)

ขอที่ : 51

จากกราฟแรงตานของอากาศยานขณะทําการบินตรงระดับ B หมายถึงแรงตานประเภทใด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

23 of 145

Page 24: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : แรงตานเหนี่ยวนํา (Induced Drag) คําตอบ 2 : แรงตานติดตัว (Parasite Drag) คําตอบ 3 : แรงตานเวฟ (Wave Drag) คําตอบ 4 : การลูออกของแรงตาน (Drag Divergence)

ขอที่ : 52 เครื่องบินใบพัดเมื่อเพิ่มน้ําหนักบรรทุกมากขึ้นจะมีผลอยางไรตอระยะทางที่ใชรอนเมื่อปราศจากกําลังจากเครื่องยนต

คําตอบ 1 : ระยะไกลขึ้น คําตอบ 2 : ระยะนอยลง คําตอบ 3 : ระยะเทาเดิม คําตอบ 4 : ระยะทางไกลขึ้นเมื่อใชแฟลบ (flap)

ขอที่ : 53 ปจจัยในขอใดตอไปนี้ไมมีผลกระทบโดยตรงตอกราฟสมรรถนะของอากาศยาน (Performance curve)

คําตอบ 1 : ลม (wind) คําตอบ 2 : น้ําหนักของอากาศยาน (weight) คําตอบ 3 : รูปรางภายนอก (configuration) คําตอบ 4 : ความสูงในการบิน (altitude)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

24 of 145

Page 25: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 54 ขอใดคือ ความหมายของโหลดที่ปก (Wing loading)

คําตอบ 1 : คาอัตราสวนระหวางแรงขับตอน้ําหนักของอากาศยาน (T/W) คําตอบ 2 : คาอัตราสวนระหวางน้ําหนักของอากาศยานตอพื้นที่ปก (W/S) คําตอบ 3 : อัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน (L/D) คําตอบ 4 : อัตราสวนระหวางแรงขับตอแรงตาน (T/D)

ขอที่ : 55 ในการบินไตโดยมีความเร็วคงที่ (Steady Climb) เพื่อใหไดมุมไตที่ตองการนักบินตองคํานึงถึงปจจัยในขอใดเปนหลัก

คําตอบ 1 : กําลังขับที่สามารถมีได (Power available) คําตอบ 2 : กําลังขับที่ตองการ (Power required) คําตอบ 3 : แรงขับสวนเกิน (Excess Thrust) คําตอบ 4 : อัตราการไต (Rate of Climb)

ขอที่ : 56 การที่นักบินทําการบินดวยความเร็วที่ใชกําลังขับที่นอยที่สุด (Minimum Power) ในการบินเดินทางดวยความสูงและความเร็วคงที่ สมรรถนะในขอใดจะมีคามากที่สุด

คําตอบ 1 : พิสัยการบิน (Range) ของเครื่องบินใบพัด คําตอบ 2 : พิสัยการบิน (Range) ของเครื่องบินใบไอพน คําตอบ 3 : ระยะเวลาการบิน (Endurance) ของเครื่องบินใบพัด คําตอบ 4 : ระยะเวลาการบิน (Endurance) ของเครื่องบินไอพน

ขอที่ : 57 การที่นักบินทําการบินเดินทางโดยใหมีความสูง และความเร็วคงที่ ในสภาวะที่มีคาอัตราแรงยกตอแรงตานมากที่สุด (maximum L/D) สมรรถนะในขอใดจะมีคามากที่สุด

คําตอบ 1 : พิสัยการบิน (Range) ของทั้งเครื่องบินใบพัดและเครื่องบินไอพน คําตอบ 2 : พิสัยการบิน (Range) ของเครื่องบินไอพน คําตอบ 3 : ระยะเวลการบิน (Endurance) ของเครื่องบินใบพัด คําตอบ 4 : ระยะเวลการบิน (Endurance) ของเครื่องบินไอพน

ขอที่ : 58 การเปลี่ยนแปลงความเร็วของลมมีผลตอสมรรถนะของอากาศยานหลายดานยกเวนขอใด

คําตอบ 1 : ระยะเวลาในการบินเดินทาง (Endurance) คําตอบ 2 : พิสัยการบินเดินทาง (Range)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

25 of 145

Page 26: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : การบินขึ้น (Take-off) คําตอบ 4 : การบินลง (Landing)

ขอที่ : 59 ปจจัยในขอใดมีผลทําใหพิสัยบิน (Range) ของเครื่องบินเปลี่ยนแปลง

คําตอบ 1 : ลมที่พัดเขาทางหัวเครื่อง (Head wind) คําตอบ 2 : ลมที่พัดเขาทางทายเครื่อง (Tail wind) คําตอบ 3 : น้ําหนักของอากาศยาน (Weight) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 60

ถานักบินทําการบินตรงบินระดับ (Steady Level Flight) โดยใชความเร็วที่ต่ํากวาความเร็วที่ใหคาแรงขับที่ตองการต่ําสุด (minimum thrust required) อยากทราบวา ในขณะนั้นนักบินกําลังบินในยานการบินใด

คําตอบ 1 : ยานของการยอนกลับของแรงขับ (Region of Thrust Reversal) คําตอบ 2 : ยานของการบังคับแบบปรกติ (Region of normal command) คําตอบ 3 : ยานของการบังคับกลับกัน (Region of reverse command) คําตอบ 4 : ยานของการบังคับรวงหลน (Region of stall command)

ขอที่ : 61 เราสามารถคํานวณกําลังขับที่ตองการ (Power required) ไดจาก

คําตอบ 1 : อัตราสวนระหวางแรงสุทธิ (net force) ตอมวลของอากาศยาน (mass) คําตอบ 2 : แรง (force) คูณกับระยะทางที่บินได (distance) คําตอบ 3 : แรง (force) คูณกับผลหารของระยะทางที่บินได (distance) กับระยะเวลาที่ใชบิน (time) คําตอบ 4 : งาน (work) คูณกับผลหารของระยะทางที่บินได (distance) กับระยะเวลาที่ใชบิน (time)

ขอที่ : 62

อากาศยานลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับแบบความเร็วคงที่ (steady level flight) ดวยกําลังขับที่ตองการ (Power required) เทากับ 450,000 วัตต โดยสามารถวัดคาแรงขับที่ตองการ (Thrust required) ไดเทากับ 5,000 นิวตัน จงหาวาอากาศยานลํานี้กําลังบินดวยความเร็วเทาไร

คําตอบ 1 : 90 m/s คําตอบ 2 : 9 m/s คําตอบ 3 : 45 m/s คําตอบ 4 : 180 m/s

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

26 of 145

Page 27: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 63

คําตอบ 1 : 365 m/s คําตอบ 2 : 634 m/s คําตอบ 3 : 845 m/s คําตอบ 4 : 945 m/s

ขอที่ : 64

คําตอบ 1 : 365 m/s คําตอบ 2 : 632 m/s คําตอบ 3 : 845 m/s คําตอบ 4 : 948 m/s

ขอที่ : 65

คําตอบ 1 : 25,791 N คําตอบ 2 : 2,579 N

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

27 of 145

Page 28: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : 12,895 N คําตอบ 4 : 1,289 N

ขอที่ : 66

คําตอบ 1 : 14.2 คําตอบ 2 : 15.2 คําตอบ 3 : 16.7 คําตอบ 4 : 17.2

ขอที่ : 67

คําตอบ 1 : 71.3 คําตอบ 2 : 7.3 คําตอบ 3 : 81.3 คําตอบ 4 : 8.3

ขอที่ : 68

ในการบินตรงระดับแบบไมมีความเรง (Steady Level Flight) ของเครื่องบิน ณ ความสูงและความเร็วหนึ่ง ถาเครื่องบินหนัก 87,000 N และทราบวาขณะนั้นแรงขับที่ตองการเทากับ 15,000 N จงคํานวณอัตราสวนแรงยกตอแรงตานวาเปนเทาใดคําตอบ 1 : 4.8 คําตอบ 2 : 5.8 คําตอบ 3 : 56.8 คําตอบ 4 : 47.1

ขอที่ : 69

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

28 of 145

Page 29: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 7.5 คําตอบ 2 : 0.075 คําตอบ 3 : 0.0075 คําตอบ 4 : 0.75

ขอที่ : 70 จากการคํานวณสมรรถนะอากาศยาน ขณะบินตรงระดับ ณ ความเร็วหนึ่ง พบวาแรงตานเนื่องจากแรงยกเปน 2,530 N และแรงตานติดตัวเปน 2,530 N ขอใดถูกตอง

คําตอบ 1 : เครื่องบินจะมีอัตราสวนแรงยกตอแรงตานเทากับหนึ่ง คําตอบ 2 : เครื่องบินจะมีแรงตานต่ําที่สุด คําตอบ 3 : เครื่องบินมีกําลังขับที่ตองการต่ําที่สุด คําตอบ 4 : เครื่องบินจะบินดวยความเร็วที่ชาที่สุด

ขอที่ : 71

คําตอบ 1 : 0.046 คําตอบ 2 : 0.056 คําตอบ 3 : 0.066 คําตอบ 4 : 0.076

ขอที่ : 72

สภาวิศ

วกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

29 of 145

Page 30: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 0.33 คําตอบ 2 : 0.43 คําตอบ 3 : 0.53 คําตอบ 4 : 0.63

ขอที่ : 73 ขอใดกลาวไดถูกตอง

คําตอบ 1 : ความเร็วของอากาศยานที่บินดวยแรงขับที่ตองการนอยที่สุดมีคามากกวาความเร็วของอากาศยานที่บินดวยกําลังขับนอยที่สุด คําตอบ 2 : ความเร็วของอากาศยานที่บินดวยแรงขับที่ตองการนอยที่สุดมีคานอยกวาความเร็วของอากาศยานที่บินดวยกําลังขับนอยที่สุด คําตอบ 3 : ความเร็วของอากาศยานที่บินดวยแรงขับที่ตองการนอยที่สุดมีคาเทากับความเร็วของอากาศยานที่บินดวยกําลังขับนอยที่สุด คําตอบ 4 : ความเร็วของอากาศยานที่บินดวยแรงขับที่ตองการนอยที่สุดมีคามากกวา หรือนอยกวาความเร็วของอากาศยานที่บินดวยกําลังขับนอยที่สุดก็ได

ขอที่ : 74 ขอใดกลาวไดถูกตอง

คําตอบ 1 : เมื่อความสูงเพิ่มขึ้นความเร็วรวงหลน (Stall Speed) จะลดลง คําตอบ 2 : เมื่อความสูงเพิ่มขึ้นความเร็วรวงหลน (Stall Speed) จะเพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : เมื่อความสูงเพิ่มขึ้นความเร็วรวงหลน (Stall Speed) จะเทาเดิม คําตอบ 4 : เมื่อความสูงเพิ่มขึ้นความเร็วรวงหลน (Stall Speed) จะลดลง หรือเพิ่มขึ้นก็ได

ขอที่ : 75 ขอใดกลาวไดถูกตอง

คําตอบ 1 : เมื่อความสูงเพิ่มขึ้น คาแรงขับที่ตองการที่นอยที่สุด (minimum thrust required) จะลดลง คําตอบ 2 : เมื่อความสูงเพิ่มขึ้น คาแรงขับที่ตองการที่นอยที่สุด (minimum thrust required) จะเพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : เมื่อความสูงเพิ่มขึ้น คาแรงขับที่ตองการที่นอยที่สุด (minimum thrust required) จะเทาเดิม คําตอบ 4 : เมื่อความสูงเพิ่มขึ้น คาแรงขับที่ตองการที่นอยที่สุด (minimum thrust required) จะลดลง หรือเพิ่มขึ้นก็ได

ขอที่ : 76 ขอใดกลาวไดถูกตอง เกี่ยวกับการบินเดินทาง (Cruise) แบบความเร็วคงที่ และคาสัมประสิทธิ์แรงยกคงที่

คําตอบ 1 : ความสูงจะคงที่ คําตอบ 2 : ความสูงจะลดลง คําตอบ 3 : ความสูงจะเพิ่มขึ้น คําตอบ 4 : ความสูงจะเพิ่มขึ้น หรือลดลงก็ได

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

30 of 145

Page 31: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 77

ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับคาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) กับคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient) เมื่ออากาศยานกําลังทําการบินดวยคากําลังขับที่ตองการที่นอยที่สุด

คําตอบ 1 : คาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) เทากับคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient) คําตอบ 2 : คาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) มีคาเปนสามเทาของคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient) คําตอบ 3 : คาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) มีคาเปนหนึ่งในสามของคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient) คําตอบ 4 : คาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) มีคาเปนสองเทาของคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient)

ขอที่ : 78

ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับคาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) กับคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient) เมื่ออากาศยานกําลังทําการบินดวยคาแรงขับที่ตองการที่นอยที่สุด

คําตอบ 1 : คาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) เทากับคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient) คําตอบ 2 : คาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) มีคาเปนสองเทาของคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient) คําตอบ 3 : คาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) มีคาเปนสามเทาของคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient) คําตอบ 4 : คาสัมประสิทธิ์แรงตานติดตัว (parasite drag coefficient) มีคาเปนหนึ่งในสามของคาสัมประสิทธิ์แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag coefficient)

ขอที่ : 79

หากมีการเปลี่ยนแปลงน้ําหนักของอากาศยาน เสนกราฟเสนใดที่จะมีการเปลี่ยนแปลง

คําตอบ 1 : เสน A

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

31 of 145

Page 32: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : เสน B คําตอบ 3 : ทั้งเสน A และ B คําตอบ 4 : ไมมีการเปลี่ยนแปลงทั้งสองเสน

ขอที่ : 80

หากมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงภายนอกของอากาศยาน เชนกางลอ เสนกราฟใดที่จะมีการเปลี่ยนแปลง

คําตอบ 1 : เสน A คําตอบ 2 : เสน B คําตอบ 3 : เสน A และ B คําตอบ 4 : ไมมีการเปลี่ยนแปลงทั้งสองเสน

ขอที่ : 81

หากมีการเปลี่ยนแปลงความสูงที่อากศยานทําการบิน เสนกราฟใดที่มีการเปลี่ยนแปลง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

32 of 145

Page 33: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : เสน A คําตอบ 2 : เสน B คําตอบ 3 : เสน A และ B คําตอบ 4 : ไมมีการเปลี่ยนแปลงทั้งสองเสน

ขอที่ : 82

ในการบินตรงระดับแบบความเร็วคงที่ (Steady Level Flight) หากมีการเพิ่มความเร็วขึ้นจนมีขนาดเปนสองเทาของความเร็วเดิม โดยที่คาอื่นๆ ไมมีการเปลี่ยนแปลง จงหาวาแรงตานติดตัว (Parasite Drag) จะมีการเปลี่ยนแปลงอยางไรคําตอบ 1 : เพิ่มขึ้นเปนสองเทาของคาแรงตานติดตัวเดิม คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้นเปนสามเทาของคาแรงตานติดตัวเดิม คําตอบ 3 : เพิ่มขึ้นเปนสี่เทาของคาแรงตานติดตัวเดิม คําตอบ 4 : เพิ่มขึ้นเปนหาเทาของคาแรงตานติดตัวเดิม

ขอที่ : 83

ในการบินตรงระดับแบบความเร็วคงที่ (Steady Level Flight) หากมีการเพิ่มความเร็วขึ้นจนมีขนาดเปนสองเทาของความเร็วเดิม โดยที่คาอื่นๆ ไมมีการเปลี่ยนแปลง จงหาวาแรงตานเหนี่ยวนํา (Induced Drag) จะมีการเปลี่ยนแปลงอยางไรคําตอบ 1 : จะเพิ่มขึ้นเปนสองเทาของคาแรงตานเหนี่ยวนําเดิม คําตอบ 2 : จะเพิ่มขึ้นเปนสี่เทาของคาแรงตานเหนี่ยวนําเดิม คําตอบ 3 : จะลดลงเปนหนึ่งในสองของคาแรงตานเหนี่ยวนําเดิม คําตอบ 4 : จะลดลงเปนหนึ่งในสี่ของคาแรงตานเหนี่ยวนําเดิม

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

33 of 145

Page 34: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 84 โดยทั่วไปการบินเดินทาง (Cruise) จะสามารถทําโดยกําหนดใหคาใดตอไปนี้คงที่

คําตอบ 1 : ความเร็ว คําตอบ 2 : คาสัมประสิทธิ์แรงยก คําตอบ 3 : น้ําหนักของอากาศยาน คําตอบ 4 : ความเร็วและคาสัมประสิทธิ์แรงยก

ขอที่ : 85 ในการบินเดินทาง (Cruise) ขอใดกลาวไดถูกตอง

คําตอบ 1 : ความเร็ว คาสัมประสิทธิ์แรงยกและความสูงในการบินจะคงที่ คําตอบ 2 : หากกําหนดใหความเร็ว และคาสัมประสิทธิ์แรงยกคงที่ ความสูงในการบินจะลดลง คําตอบ 3 : หากกําหนดใหความเร็ว และความสูงในการบินคงที่ คาสัมประสิทธิ์แรงยกคงที่จะลดลง คําตอบ 4 : หากกําหนดใหความสูงในการบิน และคาสัมประสิทธิ์แรงยกคงที่ ความเร็วจะตองเพิ่มขึ้น

ขอที่ : 86 ในการบินเดินทาง (Cruise) ขอใดไมถูกตอง

คําตอบ 1 : หากกําหนดใหความสูงในการบิน และคาสัมประสิทธิ์แรงยกคงที่ ความเร็วจะลดลง คําตอบ 2 : หากกําหนดใหคาสัมประสิทธิ์แรงยก และความเร็วคงที่ ความสูงในการบินจะเพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : หากกําหนดใหความเร็ว และความสูงในการบินคงที่ คาสัมประสิทธิ์แรงยกจะลดลง คําตอบ 4 : คาสัมประสิทธิ์แรงยก ความเร็ว และความสูงในการบินจะคงที่

ขอที่ : 87

อากาศยานลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับแบบความเร็วคงที่ (Steady Level Flight) ดวยคาอัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน (L/D) เทากับ 10 โดยในขณะนั้นเกิดแรงตาน 15,000 นิวตัน จงหาน้ําหนักของอากาศยานในขณะนั้น

คําตอบ 1 : 15,010 กิโลกรัม คําตอบ 2 : 15,290 กิโลกรัม คําตอบ 3 : 150,000 กิโลกรัม คําตอบ 4 : 1,500 กิโลกรัม

ขอที่ : 88

อากาศยานลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับแบบความเร็วคงที่ (Steady Level Flight) ดวยคาอัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน (L/D) เทากับ 10 โดยในขณะนั้นเกิดแรงตาน 15,000 นิวตัน จงหาแรงขับของอากาศยานในขณะนั้น

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

34 of 145

Page 35: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 15,000 นิวตัน คําตอบ 2 : 150,000 นิวตัน คําตอบ 3 : 1,500 นิวตัน คําตอบ 4 : 15,010 นิวตัน

ขอที่ : 89

อากาศยานลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับแบบความเร็วคงที่ (Steady Level Flight) ดวยคาอัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน (L/D) เทากับ 10 โดยในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนักเทากับ 45,000 กิโลกรัม จงหาแรงขับในขณะนั้น

คําตอบ 1 : 44,145 นิวตัน คําตอบ 2 : 4,500 นิวตัน คําตอบ 3 : 441,450 นิวตัน คําตอบ 4 : 45,010 นิวตัน

ขอที่ : 90

อากาศยานลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับแบบความเร็วคงที่ (Steady Level Flight) ดวยคาอัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน (L/D) เทากับ 10 โดยในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนักเทากับ 45,000 กิโลกรัม จงหาแรงยกในขณะนั้น

คําตอบ 1 : 44,145 นิวตัน คําตอบ 2 : 441,450 นิวตัน คําตอบ 3 : 4,500 นิวตัน คําตอบ 4 : 45,010 นิวตัน

ขอที่ : 91

ในขณะที่ทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Cliumb) อากาศยานมีแรงขับสวนเกิน 15,000 นิวตัน โดยในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนักเทากับ 15,000 กิโลกรัม จงหามุมไตที่อากาศยานใช (Angle of Climb)คําตอบ 1 : 5.85 เรเดียน คําตอบ 2 : 5.85 องศา คําตอบ 3 : 90 เรเดียน คําตอบ 4 : 90 องศา

ขอที่ : 92

อากาศยานลําหนึ่ง น้ําหนัก 15,000 กิโลกรัม กําลังทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Climb) ดวยคามุมไต 10 องศา จงหาแรงขับสวนเกินที่อากาศยานจําเปนตองมีเพื่อทําการบินไตตามโจทย

คําตอบ 1 : 25,552 นิวตัน

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

35 of 145

Page 36: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : 2,604 นิวตัน คําตอบ 3 : 86,381 นิวตัน คําตอบ 4 : 847,403 นิวตัน

ขอที่ : 93

หากวาอากาศยานกําลังทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Climb) ดวยมุมไต (Angle of Climb) 8 องศา โดยมีคาแรงขับสวนเกิน 25,000 นิวตัน จงหาวาในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนักเทาไร

คําตอบ 1 : 179,632 กิโลกรัม คําตอบ 2 : 18,311 กิโลกรัม คําตอบ 3 : 3,479 กิโลกรัม คําตอบ 4 : 34,132 กิโลกรัม

ขอที่ : 94

ในขณะที่ทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Cliumb) อากาศยานมีกําลังขับสวนเกิน 250,000 วัตต โดยในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนักเทากับ 1,500 กิโลกรัม จงหาอัตราการไตของอากาศยานใช (Rate of Climb)คําตอบ 1 : 16.98 เมตร/วินาที คําตอบ 2 : 166.67 เมตร/วินาที คําตอบ 3 : 0.058 เมตร/วินาที คําตอบ 4 : ไมมีคําตอบที่ถูกตอง

ขอที่ : 95

ในขณะที่ทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Cliumb) อากาศยานมีกําลังขับสวนเกิน 250,000 วัตต โดยในขณะนั้นอากาศยานมีอัตราการไต (Rate of Climb) 15 เมตร/วินาที จงหาวาในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนักเทาไร

คําตอบ 1 : 382,262 กิโลกรัม คําตอบ 2 : 38,226 กิโลกรัม คําตอบ 3 : 16,667 กิโลกรัม คําตอบ 4 : 1,699 กิโลกรัม

ขอที่ : 96

ในขณะที่ทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Cliumb) อากาศยานมีกําลังขับสวนเกิน 250,000 วัตต และมุมไต 8 องศา โดยในขณะนั้นอากาศยานมีความเร็วเทากับ 100 เมตร/วินาที จงหาอัตราการไตของอากาศยานใช (Rate of Climb)

คําตอบ 1 : 14 เมตร/วินาที คําตอบ 2 : 35 เมตร/วินาที

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

36 of 145

Page 37: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : 7 เมตร/วินาที คําตอบ 4 : 3.5 เมตร/วินาที

ขอที่ : 97

ในขณะที่ทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Cliumb) อากาศยานมีกําลังขับสวนเกิน 250,000 วัตต และมุมไต 8 องศา โดยมีอัตราการไตของอากาศยานใช (Rate of Climb) เทากับ 15 เมตร/วินาที จงหาความเร็วของอากาศยานคําตอบ 1 : 232 เมตร/วินาที คําตอบ 2 : 10.8 เมตร/วินาที คําตอบ 3 : 107.78 เมตร/วินาที คําตอบ 4 : 23.2 เมตร/วินาที

ขอที่ : 98

ในขณะที่ทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Cliumb) โดยมีมุมไต(Angle of Climb) 8 องศา โดยในขณะนั้นอากาศยานมีความเร็วเทากับ 100 เมตร/วินาที และน้ําหนักเทากับ 1,500 กิโลกรัม จงหากําลังขับสวนเกินที่อากาศยานตองการ (Excess Power)คําตอบ 1 : 20,876 วัตต คําตอบ 2 : 204,793 วัตต คําตอบ 3 : 208 วัตต คําตอบ 4 : 150,000 วัตต

ขอที่ : 99

อากาศยานลําหนึ่ง น้ําหนัก 15,000 กิโลกรัม กําลังทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Climb) ดวยคามุมไต 10 องศา จงหาแรงขับที่อากาศยานจําเปนตองใชเพื่อทําการบินไตตามโจทย หากในขณะที่ทําการบินไตนั้นมีคาอัตราสวนแรงยกตอแรงตาน (L/D) เทากับ 10 คําตอบ 1 : 14,715 นิวตัน คําตอบ 2 : 40,267 นิวตัน คําตอบ 3 : 25,552 นิวตัน คําตอบ 4 : ไมมีคําตอบที่ถูกตอง

ขอที่ : 100

อากาศยานลําหนึ่ง น้ําหนัก 15,000 กิโลกรัม กําลังทําการบินไตแบบความเร็วคงที่ (Steady Climb) ดวยคามุมไต 10 องศา จงหาแรงขับที่ตองการ (Thrust required) ของอากาศยานในขณะที่ทําการบินไตตามโจทย หากในขณะที่ทําการบินไตนั้นมีคาอัตราสวนแรงยกตอแรงตาน (L/D) เทากับ 10

คําตอบ 1 : 14,715 นิวตัน คําตอบ 2 : 25,552 นิวตัน คําตอบ 3 : 40,267 นิวตัน

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

37 of 145

Page 38: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : 150,000 นิวตัน

ขอที่ : 101

อากาศยานลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับ (Steady Level Flight) ในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนัก 15,000 กิโลกรัม กําลังทําการบินที่ความสูง 8 กิโลเมตร (ความหนาแนนของอากาศ 0.5251 กิโลกรัม/ลูกบาศกเมตร) โดยมีพื้นที่ปกเทากับ 58 ตารางเมตร และคาสัมประสิทธิ์แรงยก 0.98 จงหาความเร็วของอากาศยานในขณะนั้นคําตอบ 1 : 99 เมตร/วินาที คําตอบ 2 : 31 เมตร/วินาที คําตอบ 3 : 70 เมตร/วินาที คําตอบ 4 : 22 เมตร/วินาที

ขอที่ : 102

อากาศยานลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับ (Steady Level Flight) ในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนัก 15,000 กิโลกรัม กําลังทําการบินที่ความสูง 8 กิโลเมตร (ความหนาแนนของอากาศ 0.5251 กิโลกรัม/ลูกบาศกเมตร) ดวยความเร็ว 100 เมตร/วินาที โดยมีพื้นที่ปกเทากับ 58 ตารางเมตร จงหาคาสัมประสิทธิ์แรงยกอากาศยานในขณะนั้นคําตอบ 1 : 0.098 คําตอบ 2 : 0.48 คําตอบ 3 : 0.049 คําตอบ 4 : 0.966

ขอที่ : 103

อากาศยานลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับ (Steady Level Flight) ในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนัก 15,000 กิโลกรัม กําลังทําการบินที่ความสูง 8 กิโลเมตร (ความหนาแนนของอากาศ 0.5251 กิโลกรัม/ลูกบาศกเมตร) โดยมีคาคาสัมประสิทธิ์แรงยกเทากับ 0.98 และความเร็วของอากาศยานเทากับ 100 เมตร/วินาที จงหาพื้นที่ปกของอากาศยานคําตอบ 1 : 29 ตารางเมตร คําตอบ 2 : 57 ตารางเมตร คําตอบ 3 : 5.8 ตารางเมตร คําตอบ 4 : 2.9 ตารางเมตร

ขอที่ : 104

อากาศยานลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับ (Steady Level Flight) ที่ความสูง 8 กิโลเมตร (ความหนาแนนของอากาศ 0.5251 กิโลกรัม/ลูกบาศกเมตร) ดวยความเร็ว 100 เมตร/วินาที โดยมีพื้นที่ปกเทากับ 58 ตารางเมตร และคาสัมประสิทธิ์แรงยก 0.98 จงหานําหนักของอากาศยานในขณะนั้นคําตอบ 1 : 298,466 กิโลกรัม คําตอบ 2 : 149,233 กิโลกรัม คําตอบ 3 : 15,212 กิโลกรัม คําตอบ 4 : 30,424 กิโลกรัม

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

38 of 145

Page 39: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 105

คําตอบ 1 : 16 kN คําตอบ 2 : 71 kN คําตอบ 3 : 0.9 kN คําตอบ 4 : 4.2 kN

ขอที่ : 106

คําตอบ 1 : 0.394 คําตอบ 2 : 0.369 คําตอบ 3 : 3.296 คําตอบ 4 : 1.81

ขอที่ : 107

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

39 of 145

Page 40: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 1,631 kg คําตอบ 2 : 16,000 kg คําตอบ 3 : 7,530 kg คําตอบ 4 : 73,869 kg

ขอที่ : 108

คําตอบ 1 : 1.76 คําตอบ 2 : 0.394 คําตอบ 3 : 0.047 คําตอบ 4 : 0.025

ขอที่ : 109

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

40 of 145

Page 41: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 184.65 m/s คําตอบ 2 : 235.95 m/s คําตอบ 3 : 210.30 m/s คําตอบ 4 : 184.65 m/s หรือ 235.95 m/s

ขอที่ : 110

คําตอบ 1 : 66.64 m/s คําตอบ 2 : 147.59 m/s คําตอบ 3 : 208.73 m/s คําตอบ 4 : 865.35 m/s

ขอที่ : 111

คําตอบ 1 : 68,491 N คําตอบ 2 : 6,981 N คําตอบ 3 : 136,982 N คําตอบ 4 : 13,962 N

ขอที่ : 112

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

41 of 145

Page 42: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 158.63 m/s คําตอบ 2 : 208.73 m/s คําตอบ 3 : 66.64 m/s คําตอบ 4 : 50.65 m/s

ขอที่ : 113 สมรรถนะในการเลี้ยวระดับดวยความเร็วคงที่ (steady level turn) ของเครื่องบินขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง

คําตอบ 1 : เพื่อใหไดรัศมีในการเลี้ยวระดับต่ําสุดจะตองบินดวยความเร็วสูงที่สุด หากตัวแปรอื่นๆ ไมเปลี่ยนแปลง คําตอบ 2 : เพื่อใหไดรัศมีในการเลี้ยวระดับต่ําสุดจะตองบินดวยความเร็วต่ําที่สุด หากตัวแปรอื่นๆ ไมเปลี่ยนแปลง คําตอบ 3 : เพื่อใหไดรัศมีในการเลี้ยวระดับต่ําสุดจะตองบินดวยคา load factor สูงสุด เมื่อทําการบินเลี้ยวที่ความเร็วเดียวกัน คําตอบ 4 : เพื่อใหไดอัตราในการเลี้ยวระดับต่ําสุดจะตองบินดวยคา load factor สูงสุด เมื่อทําการบินเลี้ยวที่ความเร็วเดียวกัน

ขอที่ : 114 ขอใดตอนี้ถูกตองเกี่ยวกับสมรรถนะในการเลี้ยวระดับดวยความเร็วคงที่ใหไดคารัศมีการเลี้ยวต่ําสุด

คําตอบ 1 : ตองบินดวยคาโหลดแฟกเตอร (load factor) สูงสุด คําตอบ 2 : ตองบินดวยความเร็วสูงสุด คําตอบ 3 : ตองบินดวยคาอัตราสวนแรงยกตอแรงตานนอยสุด (minimum L/D) คําตอบ 4 : ตองบินดวยมุมเอียงปก (Bank angle) ใหนอยสุด

ขอที่ : 115 ขอใดตอไปนี้ถูกตองเกี่ยวกับสมรรถนะในการเลี้ยวระดับดวยความเร็วคงที่ใหไดคาอัตราการเลี้ยวสูงสุด (maximum angular velocity or turn rate)

คําตอบ 1 : ตองบินดวยคามุมเอียงปก (Bank angle) ที่นอยที่สุด คําตอบ 2 : ตองบินดวยคาโหลดแฟกเตอร (load factor) ต่ําสุด คําตอบ 3 : ตองบินดวยความเร็วต่ําที่สุด คําตอบ 4 : ตองบินดวยความเร็วสูงสุด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

42 of 145

Page 43: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 116 การเลี้ยวระดับดวยมุมเอียงปก 60 องศา จะเกิดคาโหลดแฟกเตอร (load factor) ที่กระทํากับเครื่องบินเทาไร

คําตอบ 1 : 1.5 คําตอบ 2 : 2 คําตอบ 3 : 2.5 คําตอบ 4 : 3

ขอที่ : 117 ถานักบินตองการบินเลี้ยวระดับ โดยมีความเร็วคงที่ (steady level turn) ดวยมุมเอียงปก 60 องศา หากวาอากาศยานมีความเร็ว 120 เมตร/วินาที จงหาวารัศมีในการเลี้ยวระดับ

คําตอบ 1 : 347 เมตร คําตอบ 2 : 547 เมตร คําตอบ 3 : 847 เมตร คําตอบ 4 : 947 เมตร

ขอที่ : 118 ถานักบินตองการบินเลี้ยวระดับ โดยมีความเร็วคงที่ (steady level turn) ดวยมุมเอียงปก 60 องศา หากวาอากาศยานมีความเร็ว 120 เมตร/วินาที จงหาคาอัตราการเลี้ยวในระดับนี้

คําตอบ 1 : 0.141 deg/s คําตอบ 2 : 1.41 deg/s คําตอบ 3 : 14.1 deg/s คําตอบ 4 : 141 deg/s

ขอที่ : 119

คําตอบ 1 : 15.37 m/s คําตอบ 2 : 21.37 m/s

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

43 of 145

Page 44: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : 40.37 m/s คําตอบ 4 : 50.054 m/s

ขอที่ : 120

คําตอบ 1 : 1.1 คําตอบ 2 : 1.2 คําตอบ 3 : 1.3 คําตอบ 4 : 1.4

ขอที่ : 121

คําตอบ 1 : 128.512 m คําตอบ 2 : 27.512 m คําตอบ 3 : 47.512 m คําตอบ 4 : 67.512 m

ขอที่ : 122

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

44 of 145

Page 45: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 0.005 rad/s คําตอบ 2 : 0.125 rad/s คําตอบ 3 : 0.25 rad/s คําตอบ 4 : 0.58 rad/s

ขอที่ : 123

คําตอบ 1 : 1.25 คําตอบ 2 : 2.84 คําตอบ 3 : 3.15 คําตอบ 4 : 3.61

ขอที่ : 124

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

45 of 145

Page 46: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 53.054 m/s คําตอบ 2 : 73.054 m/s คําตอบ 3 : 106.108 m/s คําตอบ 4 : 146.108 m/s

ขอที่ : 125

เครื่องบินลําหนึ่งกําลังทําการบินที่ตรงระดับความสูง 8 กิโลเมตร ดวยความเร็ว 95 เมตร/วินาที ถานักบินตองการบินเชิดหัวขึ้นในแนวดิ่งอยางรวดเร็ว (pull-up maneuver) จงคํานวณหาคารัศมีการบินเชิดหัวขึ้นในแนวดิ่งวาเปนเทาใด ถา ณ ในขณะที่นักบินเริ่มเงยหัวเครื่องบิน อานคาโหลดแฟกเตอร (load factor) ได 3.1คําตอบ 1 : 438 เมตร คําตอบ 2 : 296 เมตร คําตอบ 3 : 2,911 เมตร คําตอบ 4 : 4,297 เมตร

ขอที่ : 126

เครื่องบินลําหนึ่งกําลังทําการบินที่ความสูง 8 กิโลเมตร ดวยความเร็ว 95 เมตร/วินาที ถานักบินตองการบินเชิดหัวขึ้นอยางรวดเร็ว (pull-up maneuver) จงคาอัตราการเชิดหัวขึ้น (turn rate) วาเปนเทาไร โดยในขณะที่นักบินเริ่มเงยหัวขึ้น สามารถอานคาโหลดแฟกเตอร (load factor) ได 3.1คําตอบ 1 : 0.22 rad/s คําตอบ 2 : 0.32 rad/s คําตอบ 3 : 0.03 rad/s คําตอบ 4 : 0.02 rad/s

ขอที่ : 127

เครื่องบินลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับที่ความสูง 10 กิโลเมตร ดวยความเร็ว 90 เมตร/วินาที แลวเริ่มบินหงายทอง (inverted flight) และทําการบินดิ่งลงแบบ pull down maneuver โดยสามารถอานคาโหลดแฟกเตอร (load factor) ได 4.0 จงหาคารัศมีในการบินดิ่งลงวาเปนเทาใดคําตอบ 1 : 2,025 เมตร คําตอบ 2 : 1,620 เมตร คําตอบ 3 : 165 เมตร คําตอบ 4 : 206 เมตร

ขอที่ : 128

เครื่องบินลําหนึ่งกําลังทําการบินตรงระดับที่ความสูง 10 กิโลเมตร ดวยความเร็ว 90 เมตร/วินาที แลวเริ่มบินหงายทอง (inverted flight) และทําการบินดิ่งลงแบบ pull down maneuver โดยสามารถอานคาโหลดแฟกเตอร (load factor) ได 4.0 จงหาการดิ่งลง (turn rate) จะมีคาเปนเทาใด

คําตอบ 1 : 0.055 rad/s

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

46 of 145

Page 47: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : 0.044 rad/s คําตอบ 3 : 0.436 rad/s คําตอบ 4 : 0.545 rad/s

ขอที่ : 129

จากรูป เครื่องบินบินดวยความเร็ว 72 km/hr. มีน้ําหนัก 520 kg มีแรงยก 600 kg เครื่องบินจะมีรัศมีการเลี้ยวระดับ (R) เปนเทาใด?

คําตอบ 1 : 61.5 m. คําตอบ 2 : 666 m. คําตอบ 3 : 70.8 m. คําตอบ 4 : 333 m.

ขอที่ : 130

จากรูป เครื่องบินบินดวยความเร็ว 72 km/hr. กําลังเลี้ยวดวยมุมเอียงปก (Bank Angle) 30 องศา เครื่องบินจะมีรัศมีการเลี้ยวระดับ (R) เปนเทาใด?

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

47 of 145

Page 48: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 61.3 m. คําตอบ 2 : 666 m. คําตอบ 3 : 70.6 m. คําตอบ 4 : 333 m.

ขอที่ : 131

จากรูป การบิน ณ จุดใดจะเกิดการรวงหลน?

คําตอบ 1 : 1 คําตอบ 2 : 2 คําตอบ 3 : 3 คําตอบ 4 : 5

ขอที่ : 132

จากรูป การบิน ณ จุดใดจะทําใหโครงสรางเสียหาย

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

48 of 145

Page 49: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 1 คําตอบ 2 : 2 คําตอบ 3 : 3 คําตอบ 4 : 5

ขอที่ : 133

คําตอบ 1 : 10.2 m/s คําตอบ 2 : 29.2 m/s คําตอบ 3 : 32.1 m/s คําตอบ 4 : 35.0 m/s

ขอที่ : 134

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

49 of 145

Page 50: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 683.0 m. คําตอบ 2 : 84.29 m. คําตอบ 3 : 826.9 m. คําตอบ 4 : 69.3 m.

ขอที่ : 135

คําตอบ 1 : 29 m/s คําตอบ 2 : 32 m/s คําตอบ 3 : 35 m/s คําตอบ 4 : 38 m/s

ขอที่ : 136

คําตอบ 1 : แปรผกผันกับความหนาแนนกําลังสอง

คําตอบ 2 : แปรผกผันกับความหนาแนน

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

50 of 145

Page 51: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : แปรผันตามความหนาแนน

คําตอบ 4 : แปรผันตามความหนาแนนกําลังสอง

ขอที่ : 137 ขอใดไมเปนการลดระยะการเคลื่อนลอบนทางวิ่ง (Roll Distance)

คําตอบ 1 : กาเพิ่มขนาดของปก

คําตอบ 2 : การลดคาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด

คําตอบ 3 : การเพิ่มแรงขับ คําตอบ 4 : การลดน้ําหนักสัมภาระ

ขอที่ : 138

ในขณะที่เครื่องบินกําลังวิ่งขึ้น (Take-off) นั้นระยะทางที่ใชในการวิ่งขึ้น (Ground run) จะถูกแบงโดยความเร็วตั้งแตศูนยจนถึงความเร็ววิ่งขึ้น (Liftoff speed) ในระหวางความเร็วดังกลาวยังมีความเร็วตางๆอีกเพื่อใชในการตรวจสอบเพื่อการวิ่งขึ้นอยางปลอดภัย ขอใดตอไปนี้ที่ไมใชความเร็วดังกลาว

คําตอบ 1 : ความเร็วที่มุม (Corner speed) คําตอบ 2 : ความเร็วรวงหลน (Stall speed) คําตอบ 3 : ความเร็วอันสติกที่นอยที่สุด (Minimum unstick speed) คําตอบ 4 : ความเร็วยกตัว (Liftoff speed)

ขอที่ : 139

ในระหวางการนําเครื่องบินวิ่งขึ้น (Take Off) ถาเครื่องยนตเกิดขัดของ ความเร็วใดที่นักบินนําไปใชในการพิจารณาวาจะนําเครื่องวิ่งขึ้นตอไปใหพนสิ่งกีดขวางหรือยกเลิกการวิ่งขึ้น โดยระยะทางบนทางวิ่ง(Runway) ยังเหลือพอที่จะหยุดเครื่องไดโดยปลอดภัยคําตอบ 1 : ความเร็วอันสติกที่นอยที่สุด (Minimum unstick speed) คําตอบ 2 : ความเร็วที่ใชบังคับในอากาศที่นอยที่สุด (Minimum control speed in the air) คําตอบ 3 : ความเร็วยกตัวในระหวางการบินขึ้น (Take off rotation speed) คําตอบ 4 : ความเร็วตัดสินใจ (Decision speed)

ขอที่ : 140

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

51 of 145

Page 52: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

การนําเครื่องวิ่งขึ้น (Take-Off) โดยปลอดภัยเพื่อใหพนสิ่งกีดขวางทายทางวิ่ง อยากทราบวาสิ่งกีดขวางดังกลาวคิดเปนความสูงเทาใดสําหรับเครื่องบินพานิชยคําตอบ 1 : 25 ฟุต คําตอบ 2 : 35 ฟุต คําตอบ 3 : 50 ฟุต คําตอบ 4 : 55 ฟุต

ขอที่ : 141 การนําเครื่องวิ่งขึ้น (Take-Off) โดยปลอดภัยเพื่อใหพนสิ่งกีดขวางทายทางวิ่ง อยากทราบวาสิ่งกีดขวางดังกลาวคิดเปนความสูงเทาใดสําหรับเครื่องบินทหาร

คําตอบ 1 : 25 ฟุต คําตอบ 2 : 35 ฟุต คําตอบ 3 : 50 ฟุต คําตอบ 4 : 55 ฟุต

ขอที่ : 142

ขณะทําการวิ่งขึ้น (Take-off) เมื่อเครื่องยนตเครื่องหนึ่งเกิดขัดของ ความเร็วใดที่นักบินจะพิจารณาวาพื้นบังคับหางเสือเลี้ยว (rudder) สามารถใชแกโมเมนตที่เกิดขึ้นสําหรับเครื่องบินแบบสองเครื่องยนตไดขณะที่เครื่องบินยังคงวิ่งอยูบนทางวิ่ง

คําตอบ 1 : ความเร็วยกตัว (Lift off speed) คําตอบ 2 : ความเร็วบังคับบนพื้นที่นอยที่สุด (minimum control speed on the ground) คําตอบ 3 : ความเร็วตัดสินใจ (decision speed) คําตอบ 4 : ความเร็วหมุนตัว (rotational speed)

ขอที่ : 143 ขอใดคือ แรงที่กระทํากับเครื่องบินขณะกําลังวิ่งขึ้น

คําตอบ 1 : แรงยก (lift) คําตอบ 2 : แรงเสียดทานจากการหมุน (Rolling friction) คําตอบ 3 : แรงขับ (Thrust) คําตอบ 4 : แรงยก (lift) , แรงเสียดทานจากการหมุน (Rolling friction) และแรงขับ (Thrust)

ขอที่ : 144 ขอใดตอไปนี้กลาวไดถูกตองเกี่ยวกับสมรรถนะการวิ่งขึ้นของอากาศยาน

คําตอบ 1 : แรงตานติดตัว (parasite drag) จะนอยลงเนื่องจากอิทธิพลของพื้นดิน (Ground effect) คําตอบ 2 : แรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag) จะนอยลงเนื่องจากอิทธิพลของพื้นดิน (Ground effect) คําตอบ 3 : แรงเสียดทานระหวางพื้นทางวิ่งกับลอ (rolling friction) จะมีคามากขึ้นขณะวิ่งขึ้น

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

52 of 145

Page 53: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : แรงขับ (thrust) จะมีคามากขึ้นขณะวิ่งขึ้น

ขอที่ : 145

จากกราฟของแรงที่กระทําตอเครื่องบินกับระยะทางขณะวิ่งขึ้น ขอใดถูกตอง

คําตอบ 1 : 1 = แรงยก (Lift) คําตอบ 2 : 2 = แรงเสียดทานขณะเคลื่อนลอ (Rolling Friction) คําตอบ 3 : 3 = น้ําหนัก (Weight) คําตอบ 4 : 4 = แรงตาน (Drag)

ขอที่ : 146 ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับสมรรถนะการวิ่งขึ้นของเครื่องบิน

คําตอบ 1 : ระยะทางบนพื้นดิน (Roll Distance) เพิ่มขึ้นเมื่อโหลดที่ปก (Wing Loading, W/S) เพิ่มขึ้น

คําตอบ 2 : ระยะทางบนพื้นดิน (Roll Distance) ลดลงเมื่อลดคาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด

คําตอบ 3 : ระยะทางบนพื้นดิน (Roll Distance) เพิ่มขึ้นเมื่ออัตราสวนระหวางแรงขับตอแรงตาน (T/D) เพิ่มขึ้น คําตอบ 4 : ระยะทางบนพื้นดิน (Roll Distance) ลดลงเมื่อเพิ่มอัตราสวนระหวางแรงยกตอน้ําหนัก (L/W)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

53 of 145

Page 54: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 147 ปจจัยในขอใดตอไปนี้ไมมีผลกับระยะทางที่ใชในการวิ่งขึ้น

คําตอบ 1 : โหลดที่ปก (Wing Loading, W/S) คําตอบ 2 : อัตราสวนระหวางแรงขับตอน้ําหนัก (T/W)

คําตอบ 3 : คาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด

คําตอบ 4 : อัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน (L/D)

ขอที่ : 148 ขอใดตอไปนี้ไมถูกตองเกี่ยวกับระยะทางที่ใชในการวิ่งขึ้นของเครื่องบิน

คําตอบ 1 : ระยะทางบนทางวิ่ง (Roll Distance) เพิ่มขึ้นเมื่อโหลดที่ปก (Wing Loading, W/S) เพิ่มขึ้น

คําตอบ 2 : ระยะทางบนทางวิ่ง (Roll Distance) ลดลงเมื่อเพิ่มคาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด

คําตอบ 3 : ระยะทางบนทางวิ่ง (Roll Distance) ลดลงเมื่ออัตราสวนแรงขับตอน้ําหนัก (T/W) เพิ่มขึ้น คําตอบ 4 : ระยะทางบนทางวิ่ง (Roll Distance) เพิ่มขึ้นเมื่อความหนาแนนของอากาศเพิ่มขึ้น

ขอที่ : 149 พาราเมเตอรในการแผนแบบ (Design Parameter) ในขอใดที่ไมมีผลตอการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของระยะทางที่ใชในการวิ่งขึ้นของเครื่องบิน

คําตอบ 1 : อัตราสวนแรงขับตอน้ําหนัก (T/W) คําตอบ 2 : อัตราสวนระหวางความสูงของปกตอความกวางของปก (h/b) คําตอบ 3 : โหลดที่ปก (Wing Loading, W/S) คําตอบ 4 : อัตราสวนระหวางแรงยกตอน้ําหนัก (L/W)

ขอที่ : 150 ขอใดตอไปนี้ถูกตอง

คําตอบ 1 : ความเร็วยกตัว (Lift Off Speed) เทากับความเร็วรวงหลน (Stall Speed) คําตอบ 2 : ความเร็วยกตัว (Lift Off Speed) เทากับ 1.1 เทาของความเร็วรวงหลน (Stall Speed) คําตอบ 3 : ความเร็วยกตัว (Lift Off Speed) เทากับ 0.76 เทาของความเร็วรวงหลน (Stall Speed) คําตอบ 4 : ความเร็วยกตัว (Lift Off Speed) เทากับสองเทาของความเร็วรวงหลน (Stall Speed)

ขอที่ : 151

จงคํานวณหาระยะทางในแนวราบที่อากาศยานทางทหารตองการเพื่อที่จะทําการบินใหผานอุปสรรค (Airborne to clear an obstructcle) หลังจากที่อากาศยานเริ่มยกตัวขึ้น (Lift

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

54 of 145

Page 55: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

Off) ระหวางทําการบินขึ้น (Take Off) โดยมีคาความเร็วรวงหลน (Stall Speed) เทากับ 60 เมตร/วินาที และมีคาโหลดแฟคเตอร (load Factor) ในการบินใหผานอุปสรรคเทากับ 1.2คําตอบ 1 : 2,642.2 เมตร คําตอบ 2 : 282.71 เมตร คําตอบ 3 : 50 เมตร คําตอบ 4 : 15.143 เมตร

ขอที่ : 152 มุม Approach ของเครื่องบินขณะเขามาลงจอด (Landing) ขึ้นอยูกับคาพาราเมเตอร (Parameter) ตอไปนี้

คําตอบ 1 : อัตราสวนระหวางแรงขับตอน้ําหนักอากาศยาน (T/W) คําตอบ 2 : อัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน (L/D) คําตอบ 3 : โหลดที่ปก (W/S) คําตอบ 4 : อัตราสวนระหวางแรงขับตอน้ําหนักอากาศยาน (T/W) และอัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน (L/D)

ขอที่ : 153 พาราเมเตอรในการแผนแบบอากาศยาน (Design Parameter) ขอใดไมมีผลตอการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของระยะทางลงจอด (Landing Distance) ของเครื่องบิน

คําตอบ 1 : อัตราสวนระหวางแรงขับกลับกัน (Thrust Reverse) ตอน้ําหนักอากาศยาน

คําตอบ 2 : โหลดที่ปก

คําตอบ 3 : คาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด

คําตอบ 4 : อัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน

ขอที่ : 154 ถานักบินตองการบินใหไดระยะทางลงจอด (Landing Distance) นอยลงตองทําอยางไร

คําตอบ 1 : เพิ่มโหลดที่ปก (W/S)

คําตอบ 2 : เพิ่มคาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

55 of 145

Page 56: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : ลดอัตราสวนระหวางแรงขับยอนกลับ (Thrust reverse) ตอน้ําหนักอากาศยาน

คําตอบ 4 : บินที่ความสูงเพิ่มขึ้น

ขอที่ : 155

คําตอบ 1 : 6.27 m คําตอบ 2 : 7.27 m คําตอบ 3 : 8.27 m คําตอบ 4 : 9.27 m

ขอที่ : 156 ขณะที่เครื่องบินทําการบินในยานแอบโพรช (Approach) เพื่อลงจอด (Landing) หากวาเครื่องบินนั้นอยูในสภาวะสมดุลขอใดตอไปนี้ถูกตอง

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 157

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

56 of 145

Page 57: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 239.9 m คําตอบ 2 : 339.9 m. คําตอบ 3 : 439.9 m คําตอบ 4 : 539.9 m

ขอที่ : 158

คําตอบ 1 : 291.39 m คําตอบ 2 : 119.954 m คําตอบ 3 : 411.344 m คําตอบ 4 : 171.436 m

ขอที่ : 159 พิจารณาเครื่องบินที่ความสูง 1,000 m มีความเร็ว 70 m/s. จงคํานวณคาความสูงพลังงานขณะนั้นเปนเทาใด

คําตอบ 1 : 750.255 m คําตอบ 2 : 1,003.567 m คําตอบ 3 : 1,249.745 m คําตอบ 4 : 3,450 m

ขอที่ : 160 จากหลักของความสูงพลังงาน คาความสูงพลังงาน (Energy height) สามารถคํานวณไดจาก

คําตอบ 1 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

57 of 145

Page 58: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 161

จากกราฟความสูง-ความเร็วเสียง (Altitude – Mach Map) ขอสรุปใดถูกตอง

คําตอบ 1 : จุด B มีคาความสูงพลังงานสูงที่สุด คําตอบ 2 : จุด A มีคาความสูงพลังงานสูงที่สุด คําตอบ 3 : จุด A และ D มีคาความสูงพลังงานเทากัน คําตอบ 4 : จุด A และ B มีคาความสูงพลังงานเทากัน

ขอที่ : 162

จากกราฟความสูง-ความเร็วเสียง (Altitude – Mach Map) ขอสรุปใดไมถูกตอง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

58 of 145

Page 59: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : จุด A มีพลังงานศักยมากกวาจุด B คําตอบ 2 : จุด B มีพลังงานจลนมากกวาจุด A คําตอบ 3 : จุด B มีความสูงพลังงานต่ําที่สุด คําตอบ 4 : จุด D มีความสูงพลังงานสูงที่สุด

ขอที่ : 163 ในการจะหาคากําลังขับสวนเกินจําเพาะ (specific excess power) สามารถหาไดจากขอใด

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

59 of 145

Page 60: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 164

คําตอบ 1 : 58 m/s คําตอบ 2 : 68 m/s คําตอบ 3 : 88 m/s คําตอบ 4 : 108 m/s

ขอที่ : 165 ในการพิจารณาวาเครื่องบินลําหนึ่งสามารถไปไดที่ความสูงพลังงานสูงสุดเทาใดสามารถพิจารณาไดจากกราฟขอใด

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

60 of 145

Page 61: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 166

ขอใดคือขอจํากัดดานบวกของโหลดแฟกเตอร (Positive Limit Load Factor)

คําตอบ 1 : BC คําตอบ 2 : AB คําตอบ 3 : FG คําตอบ 4 : GI

ขอที่ : 167

ขอใด คือขอจํากัดทางอากาศพลศาสตร (Aerodynamic Limit)

คําตอบ 1 : AB คําตอบ 2 : BC คําตอบ 3 : CD คําตอบ 4 : BF

ขอที่ : 168

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

61 of 145

Page 62: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอใดคือขอจํากัดเสนแดง (Red Line Limit)

คําตอบ 1 : AB คําตอบ 2 : BC คําตอบ 3 : CD คําตอบ 4 : HI

ขอที่ : 169

ขอใดคือโหลดแฟกเตอรสูงสุดดานบวก (Positive ultimate load Factor)

คําตอบ 1 : AB คําตอบ 2 : BC คําตอบ 3 : FG คําตอบ 4 : HI

ขอที่ : 170

จุดใดคือความเร็วมุม (Corner speed)

คําตอบ 1 : B

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

62 of 145

Page 63: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : F คําตอบ 3 : E คําตอบ 4 : H

ขอที่ : 171

พื้นที่ในขอใด ที่นักบินสามารถใชทําการบินได

คําตอบ 1 : A – F – G – I – H – A คําตอบ 2 : A – B – C – K – A คําตอบ 3 : A – B – C – D – E – A คําตอบ 4 : A – F – G – K – A

ขอที่ : 172

ถาบินดวยคาโหลดแฟกเตอร (Load factor) สูงเกินยานใดจะทําใหเกิดโครงสรางลมเหลว (structural failure)

คําตอบ 1 : AB คําตอบ 2 : FG คําตอบ 3 : BC คําตอบ 4 : ED

ขอที่ : 173

จากรูป หมายเลขใดที่บงบอกถึงบริเวณรวงหลน (Stall Region)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

63 of 145

Page 64: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 1 คําตอบ 2 : 2 คําตอบ 3 : 3 คําตอบ 4 : 4

ขอที่ : 174 คารัศมีการเลี้ยวของดึงขึ้นอยางรวดเร็ว (Pull – up Maneuvers) สามารถคํานวณไดจากสมการใด

คําตอบ 1 : R=

คําตอบ 2 : R=

คําตอบ 3 : R=

คําตอบ 4 : R=

ขอที่ : 175 คารัศมีในการบินหงายทองและดําหัวลงอยางรวดเร็ว (Pulldown Maneuvers) สามารถคํานวณไดจากสมการใด

คําตอบ 1 : R=

R=

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

64 of 145

Page 65: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 : R=

คําตอบ 4 : R=

ขอที่ : 176 คารัศมีในการบินเลี้ยวระดับดวยความเร็วคงที่ (Steady Level Turn) สามารถคํานวณไดจากสมการใด

คําตอบ 1 : R=

คําตอบ 2 : R=

คําตอบ 3 : R=

คําตอบ 4 : R=

ขอที่ : 177

คําตอบ 1 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

65 of 145

Page 66: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 178

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 179 เราสามารถคํานวณหาคา อัตราการเลี้ยวระดับ (level turn) ไดจากสมการใด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

66 of 145

Page 67: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 180 ในกรณีที่ทําการบินเลี้ยวระดับ ดวยความเร็วคงที่ (sutain turn) ดวยคาโหลดแฟคเตอร (Load factor) มีคามากกวา 1 มาก ๆ รัศมีการเลี้ยวเราจะสามารถคํานวณไดจากสมการใด

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 181 ในกรณีที่ทําการบินเลี้ยวระดับดวยความเร็วคงที่ (sustain turn) ดวยคาโหลดแฟคเตอร (Load factor) มีคามากกวา 1 มาก ๆ อัตราการเลี้ยวสามารถคํานวณไดจากสมการใด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

67 of 145

Page 68: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 182 แรงเขาสูศูนยกลางของ Pull – up maneuvers สามารถคํานวณไดจากสมการใด

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 183 แรงเขาสูศูนยกลางของ Pulldown maneuvers สามารถคํานวณไดจากสมการใด

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

68 of 145

Page 69: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 184 ในการเลี้ยวระดับมุมเอียงปก 60 องศา อยากทราบวานักบินจะอานคา g ไดเทาใด

คําตอบ 1 : 1.5 คําตอบ 2 : 2 คําตอบ 3 : 2.5 คําตอบ 4 : 3

ขอที่ : 185

คําตอบ 1 : 23.77 m/s คําตอบ 2 : 53.157 m/s คําตอบ 3 : 60.61 m/s คําตอบ 4 : 80.56 m/s

ขอที่ : 186

จากกราฟความเร็ว-โหลดแฟกเตอร (v – n) ขอใดไมถูกตอง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

69 of 145

Page 70: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : AB คือ ขีดจํากัดทางอากาศพลศาสตร (Aerodynamic limit) คําตอบ 2 : BC คือ ขีดจํากัดเชิงโครงสราง (Structural limit) คําตอบ 3 : E คือ ความเร็วมุม (Corner speed) คําตอบ 4 : CD คือ ขีดจํากัดเสนแดง (Red – line limit)

ขอที่ : 187 ขอสรุปใดถูกตองเกี่ยวกับ V – n diagram

คําตอบ 1 : ขีดจํากัดทางดานขวาสุดของกรอบ V – n diagram คือ คาความเร็วสูงสุดในการบินตรงระดับ คําตอบ 2 : ถาทําการบินที่ความเร็วมุม (Corner speed) จะเปนการบินดวยสมรรถนะในการเลี้ยวที่ดีที่สุด คําตอบ 3 : ที่ความเร็วหนึ่งในการบินจะใหคาโหลดแฟคเตอร (Load factor) เพียง 1 คาเทานั้น คําตอบ 4 : กราฟของ V – n diagram ของเครื่องบินแบบตาง ๆ จะมีคาคงที่ แตจะเปลี่ยนแปลงตามความสูงเทานั้น

ขอที่ : 188 พิจารณาเครื่องบิน 2 ลํา A และ B บินดวยความสูง 10 km ที่เลขมัค 0.81 และ B บินที่ความสูง 3 km เลขมัค 1.3 ขอใดตอไปนี้ถูกตอง

คําตอบ 1 : เครื่องบิน A มีคาความสูงพลังงาน > B คําตอบ 2 : เครื่องบิน B มีคาความสูงพลังงาน A คําตอบ 3 : เครื่องบิน A มีคาความสูงพลังงาน = B คําตอบ 4 : หาคําตอบไมไดขอมูลไมเพียงพอ

ขอที่ : 189

ปจจัยในขอใดที่มีไมมีผลทําให PS charts เกิดการเปลี่ยนแปลง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

70 of 145

Page 71: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : โหลดแฟคเตอร (Load factor) คําตอบ 2 : น้ําหนักของอากาศยาน (Weight) คําตอบ 3 : การกําหนดคาแรงขับ หรือกําลังขับ (Throttle setting) คําตอบ 4 : ความฉลาดของนักบิน (Pilot Intelligent)

ขอที่ : 190 ขอใดคือนิยามของโหลดแฟคเตอร (load factor) ในการบินเลี้ยวระดับดวยความเร็วคงที่ (steady level turn)

คําตอบ 1 : อัตราสวนระหวางแรงยกตอแรงตาน (L/D) คําตอบ 2 : อัตราสวนระหวางแรงขับตอน้ําหนักอากาศยาน (T/W) คําตอบ 3 : อัตราสวนระหวางแรงยกตอน้ําหนักของอากาศยาน (L/W) คําตอบ 4 : อัตราสวนระหวางแรงตานตอน้ําหนักของอากาศยาน (D/W)

ขอที่ : 191 ขอใดไมใชเงื่อนไขในการบินเลี้ยวระดับ ดวยความเร็วคงที่ (steady level turn)

คําตอบ 1 : แรงยกตองมีคามากกวาน้ําหนัก คําตอบ 2 : แรงขับตองมีคาเทากับแรงตาน คําตอบ 3 : แรงหนีศูนยกลางตองเทากับแรงเขาสูศูนยกลาง คําตอบ 4 : แรงยกตองเทากับแรงตาน

ขอที่ : 192 ในการบินเลี้ยวระดับ ดวยความเร็วคงที่ (steady level turn) หากวานักบินทําการเพิ่มคาโหลดแฟคเตอร (load factor) เพียงสิ่งเดียว อัตราการเลี้ยวจะเปลี่ยนแปลงอยางไร

คําตอบ 1 : ไมเปลี่ยนแปลง คําตอบ 2 : มีคาเพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : มีคาลดลง คําตอบ 4 : ไมสามารถสรุปได

ขอที่ : 193 ในการบินเลี้ยวระดับ ดวยความเร็วคงที่ (steady level turn) หากวานักบินทําการเพิ่มคาโหลดแฟคเตอร (load factor) เพียงอยางเดียวจะสงผลอยางไรตอรัศมีการเลี้ยว

คําตอบ 1 : เทาเดิม คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : ลดลง คําตอบ 4 : ไมสามารถสรุปได

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

71 of 145

Page 72: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 194 ในการบินเลี่ยวระดับ ดวยความเร็วคงที่ (steady level turn) หากวานักบินทําการเอียงปก (bank angle) มากขึ้น จะสงผลอยางไรตอคาโหลดแฟคเตอร (load factor)

คําตอบ 1 : เทาเดิม คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : ลดลง คําตอบ 4 : ไมสามารถสรุปได

ขอที่ : 195 ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับความเร็วมุม (corner speed) ในการบินเลี้ยวระดับ ดวยความเร็วคงที่ (steady level turn)

คําตอบ 1 : ตองใชคาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด คําตอบ 2 : ตองใชคาโหลดแฟคเตอร (load factor) สูงสุด คําตอบ 3 : ตองใชคาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด และคาโหลดแฟคเตอร (load factor) สูงสุด คําตอบ 4 : ตองใชคาสัมประสิทธิ์แรงยกสูงสุด หรือคาโหลดแฟคเตอร (load factor) สูงสุดคาใดคาหนึ่ง

ขอที่ : 196

จากรูป ตําแหนงใดที่จะเกิดเปนความเร็วมุม (corner speed)

คําตอบ 1 : A คําตอบ 2 : B

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

72 of 145

Page 73: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : C คําตอบ 4 : ไมไดแสดงไวในรูป

ขอที่ : 197 ในเรื่องสมรรถนะในการบินขึ้น (take-off) ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับความเร็วตัดสินใจ (decision speed)

คําตอบ 1 : เปนความเร็วที่ทําใหเกิดระยะสมดุล (balance field length) คําตอบ 2 : เปนความเร็วสูงสุดที่ใชในการบินขึ้น (take-off) คําตอบ 3 : เปนความเร็วที่ทําใหเกิดระยะทางการบินขึ้นที่สั้นที่สุด คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก

ขอที่ : 198 ความเร็วที่ใชในชวงการ Approach ตองมีคาเปนเทาใด

คําตอบ 1 : 1.1 เทาของความเร็วรวงหลน คําตอบ 2 : 1.3 เทาของความเร็วรวงหลน คําตอบ 3 : เทากับความเร็วรวงหลน คําตอบ 4 : 2 เทาของความเร็วรวงหลน

ขอที่ : 199 นิยามของการบินขึ้น (take-off) จะสิ้นสุดเมื่อใด

คําตอบ 1 : เมื่อลอของอากาศยานเริ่มพนพื้น คําตอบ 2 : เมื่ออากาศยานลอยตัวเหนือพื้นดินเทากับความสูงกีดขวาง (obstacle height) คําตอบ 3 : เมื่อนักบินเริ่มทําการเก็บลอ คําตอบ 4 : เมื่ออากาศยานมีความเร็วมากกวาความเร็วรวงหลน

ขอที่ : 200 ความสูงกีดขวาง (obstacle height) ของอากาศยานทางทหาร (military aircraft) มีคาเปนเทาใด

คําตอบ 1 : 50 ฟุต หรือ 15.24 เมตร คําตอบ 2 : 35 ฟุต หรือ 10.6 เมตร คําตอบ 3 : 75 ฟุต หรือ 22.86 เมตร คําตอบ 4 : ไมมีขอกําหนดไวแนนอน

ขอที่ : 201

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

73 of 145

Page 74: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับ กําลังขับสวนเกินจําเพาะ (specific excess power)คําตอบ 1 : ผลตางของแรงขับที่สามารถมีไดกับแรงขับที่ตองการ คําตอบ 2 : ผลตางของกําลังขับที่สามารถมีไดกับกําลังขับที่ตองการ คําตอบ 3 : ผลตางของแรงขับที่สามารถมีไดกับแรงขับที่ตองการ ตอหนึ่งหนวยน้ําหนัก คําตอบ 4 : ผลตางของกําลังขับที่สามารถมีไดกับกําลังขับที่ตองการ ตอหนึ่งหนวยน้ําหนัก

ขอที่ : 202 ในขณะที่ทําการวิ่งขึ้น (Take-Off) ปรากฏการณ Ground Effect จะสงผลอยางไร

คําตอบ 1 : ทําใหแรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag) ลดลง คําตอบ 2 : ทําใหแรงตานติดตัว (parasite drag) ลดลง คําตอบ 3 : ทําใหแรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag) เพิ่มขึ้น คําตอบ 4 : ทําใหแรงตานติดตัว (parasite drag) เพิ่มขึ้น

ขอที่ : 203 ในระหวางการวิ่งขึ้น (Take-Off) ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับลอ (landing Gear) ที่สามารถเก็บได

คําตอบ 1 : การที่กางลอเต็มที่จะเปนการลดแรงตานติดตัว (parasite drag) คําตอบ 2 : การกางลอ หรือไมกางลอ จะไมสงผลตอแรงตานแตอยางใด คําตอบ 3 : การที่กางลอ และมีการเปดแฟลบ (flap) จะทําใหคาแรงตานติดตัวนอยกวาการที่กางลอ และไมมีการเปดแฟลบ เนื่องจากแฟลบจะบล็อกกระแสอากาศใตปกบางสวน คําตอบ 4 : การกางลอจะเปนการเพิ่มแรงตานเหนี่ยวนํา (induced drag)

ขอที่ : 204 กําลังขับสวนเกินจําเพาะ (specific excess power) สามารถคํานวณไดจากทุกขอ ยกเวนขอใด

คําตอบ 1 : การเปลี่ยนแปลงความสูงพลังงาน (energy height) ตอหนึ่งหนวยเวลา คําตอบ 2 : อัตราการไต คําตอบ 3 : ผลรวมของพลังงานตอหนึ่งหนวยน้ําหนัก คําตอบ 4 : ผลตางของกําลังขับที่สามารถมีไดกับกําลังขับที่ตองการ ตอหนึ่งหนวยน้ําหนัก

ขอที่ : 205 หากวาอากาศยานมีกําลังขับสวนเกินจําเพาะ (Specific Excess Power) มากกวาศูนย อากาศยานจะสามารถ

คําตอบ 1 : บินไต โดยมีอัตราการไตที่มากกวาศูนย คําตอบ 2 : บินเรงเพิ่มความเร็วได คําตอบ 3 : บินไต โดยมีอัตราการไตมากกวาศูนย และ/หรือบินเรงได

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

74 of 145

Page 75: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : ไมสามารถทําอะไรไดเลย

ขอที่ : 206 ในขณะที่อากาศยานแตะพื้นทางวิ่ง (Touchdown) ในระหวางการบินลง (landing) อากาศยานควรมีคาความเร็วเปนเทาใด

คําตอบ 1 : เทากับความเร็วรวงหลน คําตอบ 2 : 1.1 เทาของความเร็วรวงหลน คําตอบ 3 : 1.2 เทาของความเร็วรวงหลน คําตอบ 4 : 2 เทาของความเร็วรวงหลน

ขอที่ : 207 ผลกระทบของ Ground Effect ขึ้นอยูกับคาใด

คําตอบ 1 : ความสูงของปกเหนือพื้นดิน คําตอบ 2 : ความกวางของปก คําตอบ 3 : ความสูงของปกเหนือพื้นดิน และความกวางของปก คําตอบ 4 : ความสูงของปกเหนือพืนดิน และความยาวของคอรด (chord)

ขอที่ : 208 ความเร็วที่อากาศยานเริ่มยกตัวขึ้น (Liftoff) ในขณะทําการวิ่งขึ้น (Take-Off) ควรมีคาเปนเทาใด

คําตอบ 1 : เทากับความเร็วรวงหลน คําตอบ 2 : 1.1 เทาของความเร็วรวงหลน คําตอบ 3 : 1.3 เทาของความเร็วรวงหลน คําตอบ 4 : 1.8 เทาของความเร็วรวงหลน

ขอที่ : 209

จากกราฟ จุดใดที่มีคาความสูงพลังงาน (Energy Height) มากที่สุด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

75 of 145

Page 76: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : A คําตอบ 2 : B คําตอบ 3 : C คําตอบ 4 : D

ขอที่ : 210

หากสมมุติใหจุด A, B, C และ D แทนอากาศยาน A, B, C และ D อากาศยานใดจะมีสมรรถนะในการเรงความเร็ว และเปลี่ยนความสูงไดดีที่สุด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

76 of 145

Page 77: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : A คําตอบ 2 : B คําตอบ 3 : C คําตอบ 4 : D

ขอที่ : 211

จากกราฟ ขอใดกลาวไดถูกตองที่สุด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

77 of 145

Page 78: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : จุด B มีคาความสูงพลังงาน (Energy Height) สูงที่สุด คําตอบ 2 : จุด A มีคาความสูงพลังงาน (Energy Height) สูงที่สุด คําตอบ 3 : จุด A และ B มีคาความสูงพลังงาน (Energy Height) เทากัน คําตอบ 4 : จุด A และ D มีคาความสูงพลังงาน (Energy Height) สูงที่สุด

ขอที่ : 212

จากกราฟ ขอใดสรุปไมถูกตอง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

78 of 145

Page 79: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : จุด A มีพลังงานศักยมากกวาจุด B คําตอบ 2 : จุด B มีพลังงานจลนมากกวาจุด A คําตอบ 3 : จุด B มีพลังงานความสูง (Energy Height) ต่ําที่สุด คําตอบ 4 : จุด D มีพลังงานความสูง (Energy Height) มากที่สุด

ขอที่ : 213 ขอใดไมใชสาเหตุในการที่จะทําใหกราฟกําลังขับสวนเกินจําเพาะ (specific excess power) มีขนาดเล็กลงได

คําตอบ 1 : ความสูงเพิ่มขึ้น คําตอบ 2 : น้ําหนักเพิ่มมากขึ้น คําตอบ 3 : โหลดแฟคเตอร (load factor) มากขึ้น คําตอบ 4 : ความเร็วสูงขึ้น

ขอที่ : 214

จากกราฟ เสน A คือ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

79 of 145

Page 80: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : ขอจํากัดในเรื่องการรวงหลน (Stall or Buffet) คําตอบ 2 : ขอจํากัดในเรื่องความดันพลวัต (Dynamics pressure) คําตอบ 3 : ขอจํากัดในเรื่องความเร็ว หรือความเสถียร (Mach or Stability) คําตอบ 4 : เสนที่แสดงวาคากําลังขับสวนเกินจําเพาะ (Specific Excess Power) มีคาเทากับ 0

ขอที่ : 215

จากกราฟ เสน B คือ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

80 of 145

Page 81: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : ขอจํากัดในเรื่องของการรวงหลน (Stall) คําตอบ 2 : ขอจํากัดจากความดันพลวัต (Dynamics Pressure) คําตอบ 3 : ขอจํากัดจากความเร็ว หรือเสถียรภาพ (Mach or Stability) คําตอบ 4 : เสนที่แสดงถึงคากําลังขับสวนเกินจําเพาะ (Specific Excess Power) มีคาเทากับ 0

ขอที่ : 216

จากกราฟ เสน C คือ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

81 of 145

Page 82: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : ขอจํากัดเรื่องการรวงหลน (Stall) คําตอบ 2 : ขอจํากัดจากเรื่องความดันพลวัต (Dyanmics Pressure) คําตอบ 3 : ขอจํากัดจากเรื่องความเร็ว หรือความเสถียร (Mach or Stability) คําตอบ 4 : เสนที่แสดงถึงคากําลังขับสวนเกินจําเพาะ (Specific Excess Power) มีคาเทากับ 0

ขอที่ : 217

จากกราฟ เสน D คือ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

82 of 145

Page 83: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : ขอจํากัดทางดานการรวงหลน (Stall) คําตอบ 2 : ขอจํากัดทางดานความดันพลวัต (Dyanmcis Pressure) คําตอบ 3 : ขอจํากัดทางดานความเร็ว หรือเสถียรภาพ (Mach or Stability) คําตอบ 4 : เสนที่แสดงวาคากําลังขับสวนเกินจําเพาะ (Specific Excess Power) มีคาเทากับ 0

ขอที่ : 218 ตัวแปรในขอใดไมสงผลตอเสถียรภาพสถิตในแนวแกนตามยาว (Longitudinal static stability) ของเครื่องบิน

คําตอบ 1 : ความชันของกราฟแรงยกกับมุมปะทะ (Lift curve slope)

คําตอบ 2 : ตําแหนงจุดศูนยถวง คําตอบ 3 : ขนาดของแพนหางระดับ (horizontal stabilizer) คําตอบ 4 : ระยะระหวางปกกับชุดหาง (empennage)

ขอที่ : 219 ตัวแปรในขอใดไมใชตัวแปรของเสถียรภาพพลวัตในแนวแกนตามยาว (Longitudinal dynamics stability) ของเครื่องบิน

คําตอบ 1 : มุมปะทะ คําตอบ 2 : มุมเอียงปก (Roll angle) คําตอบ 3 : ความสูง คําตอบ 4 : อัตราการปกเงย (Pitch rate)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

83 of 145

Page 84: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 220 ขอใดตอนี้ไมเปนจริงสําหรับเครื่องบินที่มีเสถียรภาพสถิต(static stable)

คําตอบ 1 : เครื่องบินจะสามารถกลับสูสภาวะสมดุลไดหลังจากถูกรบกวนเพียงเล็กนอย คําตอบ 2 : เครื่องบินจําเปนตองมีเสถียรภาพสถิต (static stable) จึงจะสามารถบินไดในยานการบินปกติ คําตอบ 3 : เครื่องบินจะมีเสถียรภาพพลวัต (dynamic stability) เสมอ คําตอบ 4 : เครื่องบินสามารถบินที่ความเร็วสูงได

ขอที่ : 221 ขอใดเปนจริงสําหรับเครื่องบินที่หลังจากถูกรบกวนจนทําใหเชิดหัวขึ้น แลวสามารถกลับคืนมาที่ตําแหนงเดิมไดดวยตัวเอง

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 222 พื้นบังคับ (Control surface) ใดที่ไมมีผลตอเสถียรภาพพลวัตไนแนวแกนตามยาว (longitudinal dynamics) ของอากาศยาน

คําตอบ 1 : ปกเล็กเอียง (ailerons) คําตอบ 2 : คานารด (canard) คําตอบ 3 : หางเสือขึ้นลง (elevator) ของ ชุดหางแบบบัตเตอรฟลาย (butterfly tail) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

84 of 145

Page 85: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 223 ถาจุดศูนยถวง (CG) อยูที่จุดเปนกลางที่คันบังคับตรึง (Stick fixed Neutral point) แสดงวาเครื่องบินมี

คําตอบ 1 : เสถียรภาพพลวัต (dynamic stability) คําตอบ 2 : เสถียรภาพสถิตแบบเปนกลาง (static neutral stability) คําตอบ 3 : เสถียรภาพสถิต (static stability) คําตอบ 4 : ไรเสถียรภาพสถิต (static instability)

ขอที่ : 224 เครื่องบินจะเสถียรภาพสถิตในแนวแกนทิศทาง (static directional Stability) เมื่อ

คําตอบ 1 : แพนหางดิ่ง (vertical stabilizer) มีขนาดมากกวาแพนหางระดับ (horizontal stabilizer)

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 : จุดศูนยถวง (CG) อยูหนาจุดเปนกลาง (Neutral point)

ขอที่ : 225 ขอใดถูกตอง ถา

คําตอบ 1 : ระบบจะไมสามารถบินทริม (trim) ไดเลย คําตอบ 2 : ระบบจะสามารถบินทริม (trim) ไดที่มุมปะทะติดลบ คําตอบ 3 : ระบบจะสามารถบิน (trim) ไดถามีเสถียรภาพสถิต (static stability) คําตอบ 4 : ระบบจะสามารถบินทริม (trim) ไดที่มุมปะทะสูงมากๆ

ขอที่ : 226 ดาวนวอช (Downwash) ไมสงผลกระทบตอตัวแปรใดของชุดหาง

คําตอบ 1 : สัมประสิทธิ์แรงตานของชุดหาง คําตอบ 2 : มุมปะทะของชุดหาง คําตอบ 3 : ความดันพลวัต (Dynamic pressure) ของชุดหาง คําตอบ 4 : สัมประสิทธิ์แรงยกของชุดหาง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

85 of 145

Page 86: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 227 ตําแหนงของจุดเปนกลางที่คันบังคับตรึง (Stick fixed neutral point) เทียบกับจุดเปนกลางที่คันบังคับอิสระ (stick free neutral point) จะ

คําตอบ 1 : นอยกวา คําตอบ 2 : มากกวา คําตอบ 3 : อาจจะมากกวาหรือนอยกวา ขึ้นกับคาตัวแปรของโมเมนตที่บานพับ (hinge moment parameter) คําตอบ 4 : อาจจะมากกวาหรือนอยกวาขึ้นกับความชันของกราฟแรงยกกับมุมปะทะ (lift curve slope) ของชุดหาง

ขอที่ : 228 ตัวแปรใดไมมีผลตอเสถียรภาพทางทิศทาง (directional stability)

คําตอบ 1 : ความชันของกราฟแรงยกกับมุมปะทะ (Lift curve slope) ของปก คําตอบ 2 : มุมลู (Sweep angle) ของปก คําตอบ 3 : ระยะระหวางจุดศูนยถวง (CG) กับชุดหาง คําตอบ 4 : มุมไซดวอช (Sidewash angle)

ขอที่ : 229 ขอใดสงผลไมดีตอเสถียรภาพทางขวาง (roll stability)

คําตอบ 1 : ตําแหนงปกอยูดานบนของลําตัว (high wing) คําตอบ 2 : ปกลู (sweep) ไปขางหนา คําตอบ 3 : ปกมีมุมยกปก (dihedral) คําตอบ 4 : ชุดหางแบบตัว T (T-tail configuration)

ขอที่ : 230 ขอใดเปนหลักเกณฑ (Criteria) สําคัญในการออกแบบและกําหนดขนาดของหางเสือเลี้ยว (Rudder)

คําตอบ 1 : สามารถปรับเครื่องบินใหอยูที่สมดุล (equilibrium) ไดในกรณีที่มีลมกรรโชก คําตอบ 2 : สามารถทําใหวงเลี้ยวของเครื่องบินนอยที่สุดตามที่กําหนดได คําตอบ 3 : สามารถแกไขโมเมนตไดในกรณีที่เครื่องยนตของดานหนึ่งไมทํางาน (ในกรณีมีเครื่องยนตสองดาน) คําตอบ 4 : ทําใหเครื่องบินเกิดการเอียงปกนอยที่สุดเมื่อปรับหางเสือเลี้ยว (rudder )

ขอที่ : 231 กําหนดใหวาแรงที่คันบังคับ (Stick force F) มากกวาศูนยแสดงถึงเครื่องบินกดหัวลง เครื่องบินที่มีเสถียรภาพดานความเร็ว คา dF/dV จะ

คําตอบ 1 : มากกวาศูนย

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

86 of 145

Page 87: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : นอยกวาศูนย คําตอบ 3 : เทากับศูนย คําตอบ 4 : ไมมีผล

ขอที่ : 232 ขอใดเปนคํากลาวที่ถูกตอง

คําตอบ 1 : ปกของเครื่องบินโดยทั่วๆ ไปทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพในแนวแกนตามยาว (longitudinal axis) มากขึ้น คําตอบ 2 : จุดประสงคหลักของคานารด (Canard) คือทําใหเครื่องบินเสถียรมากขึ้น คําตอบ 3 : การออกแบบลําตัวของเครื่องบินทั่วๆ ไปมีผลตอเสถียรภาพมากนัก คําตอบ 4 : จุดประสงคหลักของหางคือทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพมากขึ้น

ขอที่ : 233 เครื่องบินสามารถออกแบบโดยที่มีเฉพาะปก และไมมีชุดหางและยังคงมีเสถียรภาพ (stable) ไดหรือไม

คําตอบ 1 : ได โดยปรับตําแหนงจุดศูนยถวง (CG) ใหอยูดานหนาจุดศูนยกลางอากาศพลศาสตร (aerodynamics center ) คําตอบ 2 : ได โดยเพิ่มความหนาของแพนอากาศ (airfoil) คําตอบ 3 : ไมได เพราะปกไมสามารถสรางโมเมนตปกเงย (pitching moment) ใหเปนบวกได คําตอบ 4 : ไมได เพราะขนาดของปกตองใหญมาก

ขอที่ : 234

พิจารณาจากความสัมพันธระหวางสัมประสิทธิ์โมเมนปกเงยกับมุมปะทะ จงหาวาอากาศยานหมายเลขใดที่มีความสมดุลและเสถียร

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

87 of 145

Page 88: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : aircraft (1) คําตอบ 2 : aircraft (2) คําตอบ 3 : aircraft (3) คําตอบ 4 : aircraft (4)

ขอที่ : 235 ขอใดตอไปนี้เปนความจริง

คําตอบ 1 : ถาเครื่องบินไมมีเสถียรภาพพลวัต (Dynamic Stability)เครื่องบินจะไมมีเสถียรภาพสถิต (Static Stability) ดวย คําตอบ 2 : ถาเครื่องบินไมมีเสถียรภาพสถิต (Static Stability) เครื่องบินจะไมมี เสถียรภาพพลวัต (Dynamic Stability) ดวย คําตอบ 3 : เครื่องบินที่มีเสถียรภาพสถิต (Static Stability) จะมี เสถียรภาพพลวัต(Dynamics Stability) ดวย คําตอบ 4 : เครื่องบินที่มีเสถียรภาพพลวัต (Dynamic Stability) ไมจําเปนตองมี เสถียรภาพสถิต (Static Stability)

ขอที่ : 236 การเพิ่มขนาดของคานารด (Canard) จะมีผลกระทบอยางไรกับเครื่องบิน?

คําตอบ 1 : ทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนตามยาว (Longitudinal Static Stability) มากขึ้น คําตอบ 2 : ทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนขวาง (Lateral Static Stability) มากขึ้น คําตอบ 3 : ทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนตามยาว (Longitudinal Static Stability) นอยลง คําตอบ 4 : ทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนขวาง (Lateral Static Stability) นอยลง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

88 of 145

Page 89: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 237 การลดขนาดของแพนหางระดับ (Horizontal Tail) จะมีผลอยางไรกับเครื่องบิน?

คําตอบ 1 : ทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนตามยาว (Longitudinal Static Stability) มากขึ้น คําตอบ 2 : ทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนขวาง ( Lateral Static Stability) มากขึ้น คําตอบ 3 : ทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนตามยาว (Longitudinal Static Stability) นอยลง คําตอบ 4 : ทําใหเครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนขวาง (Lateral Static Stability) นอยลง

ขอที่ : 238 ขอใดตอไปนี้ไมมีผลตอเสถียรภาพในแนวแกนขวาง (Roll Stability) ของเครื่องบิน?

คําตอบ 1 : การเพิ่มมุมยก (Dihedral Angle) ของปก คําตอบ 2 : การเพิ่มมุมลู (Sweptback Angle) ของปก คําตอบ 3 : การเพิ่มระยะหางพวงหางกับตําแหนงจุดศูนยถวง คําตอบ 4 : ตําแหนงในแนวดิ่งของการติดตั้งปกบนลําตัวเครื่องบิน

ขอที่ : 239 ขอใดตอไปนี้ไมเกี่ยวกับเสถียรภาพในแนวแกนทิศทาง (Directional Stability) ของเครื่องบิน?

คําตอบ 1 : ขนาดของแพนหางดิ่ง คําตอบ 2 : ระยะหางระหางแพนหางดิ่งกับต่ําแหนงจุดศูนยถวง คําตอบ 3 : ไซดวอช (Sidewash) จากปก คําตอบ 4 : ดาวนวอช (Downwash) จากปก

ขอที่ : 240 ขอใดตอไปนี้ไมถูกตองเกี่ยวกับแผนปรับแตง (Trim Tab) ?

คําตอบ 1 : แผนปรับแตง (Trim Tab) จะถูกใชในการลดแรงที่คันบังคับ คําตอบ 2 : แผนปรับแตง (Trim Tab) มีผลตอโมเมนตที่บานพับ (Hinge Moment) ของพื้นบังคับหลักอยางมาก คําตอบ 3 : แผนปรับแตง (Trim Tab) มีผลตอแรงยกของพื้นบังคับหลักอยางมาก คําตอบ 4 : แผนปรับแตง (Trim Tab) มีสวนชวยลดความลาใหกับนักบิน

ขอที่ : 241

ถาตําแหนงจุดกลางแบบคันบังคับตรึง (Stick Fixed Neutral Point) ของเครื่องบินอยูที่ 30% ของคอรด (Chord) จงหาตําแหนงของจุดศูนยกลางมวล (Center of Gravity) ที่ทําใหคาitptสถิตยแบบคันบังคับตรึง (Stick Fixed Static Margin) มีคาเทากับ 5% ของคอรด (Chord)คําตอบ 1 : 35% ของคอรด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

89 of 145

Page 90: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : 30% ของคอรด คําตอบ 3 : 25% ของคอรด คําตอบ 4 : 20% ของคอรด

ขอที่ : 242 ดัชนีใดที่เปนตัวบงบอกวาอากาศยานลํานั้นบินไดดีหรือไม

คําตอบ 1 : คุณภาพการบิน (Flying Qualities) คําตอบ 2 : คุณภาพการควบคุม (Handling Qualities) คําตอบ 3 : คะแนนจากแบบฟอรมการทดสอบการบิน (Cooper-Harper Scale) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 243 เพราะเหตุใดอากาศยานสวนใหญทั้งทางทหารและพลเรือน ใหความสําคัญกับระบบควบคุม อัตโนมัติ

คําตอบ 1 : การมีเสถียรภาพ คําตอบ 2 : ลดภาระของนักบินในการบินเดินทาง คําตอบ 3 : สามารถทําการรอนลงโดยอัตโนมัติทุกสภาพอากาศ คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 244 อากาศยานอยูในสภาวะสมดุล หมายความวาอยางไร

คําตอบ 1 : ผลรวมของแรงที่กระทําตออากาศยานมีคาเปนศูนย คําตอบ 2 : ผลรวมของโมเมนตที่กระทําตออากาศยานมีคาเปนศูนย คําตอบ 3 : ผลรวมของแรง และโมเมนตที่กระทําตออากาศยานมีคาเปนศูนย คําตอบ 4 : ผลรวมของแรง หรือโมเมนตที่กระทําตออากาศยานมีคาเปนศูนย

ขอที่ : 245 ขอใดไมใชสิ่งรบกวนจากภายนอกที่กระทําตออากาศยานเพื่อใหออกจากสภาพสมดุล

คําตอบ 1 : ลมกรรโชก (Wind Gust) คําตอบ 2 : ลมเฉือน (Wind Shear) คําตอบ 3 : ลมปนปวน (Turbulence) คําตอบ 4 : แรงเสียดทาน (Friction)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

90 of 145

Page 91: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 246 เสถียรภาพสถิต (Static Stability) คืออะไร

คําตอบ 1 : แนวโนมเริ่มแรกที่อากาศยานมีตอการรบกวนจากภายนอกที่มาทําใหอากาศยานออกจากสภาพสมดุลเมื่อการรบกวนนั้นหมดไป คําตอบ 2 : การพิจารณาการเคลื่อนที่ตอเนื่องเมื่อการรบกวนจากภายนอกหมดไปแลวอากาศยานจะมีการตอบสนองอยางไรเมื่อเวลาผานไป คําตอบ 3 : การพิจารณาเสถียรภาพแบบมีการสั่นและไมมีการสั่น คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 247 การที่เครื่องบินมีเสถียรภาพมาก จะมีผลอยางไรตอการควบคุม

คําตอบ 1 : การควบคุมใชแรงกระทําเพียงเล็กนอยเพื่อทําใหออกจากสภาพสมดุล คําตอบ 2 : การควบคุมตองใชแรงมากในการทําใหออกจากสภาพสมดุล คําตอบ 3 : ไมมีผลตอการควบคุม คําตอบ 4 : การควบคุมขึ้นอยูกับนักบินเทานั้น

ขอที่ : 248 โดยทั่วไปนิยมวางจุดกําเนิดระบบแกนของเครื่องบินไว ณ ตําแหนงใด

คําตอบ 1 : จุดศูนยกลางความดัน (Center of Pressure) คําตอบ 2 : จุดศูนยกลางอากาศพลศาสตร (Aerodynamic Center) คําตอบ 3 : จุดศูนยถวง (Center of Gravity) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 249 เมื่อมีลมกรรโชกมาทําใหอากาศยานที่มีเสถียรภาพสถิต มีมุมปะทะเพิ่มขึ้น อากาศยานลํานี้จะตอบสนองอยางไร

คําตอบ 1 : มีแนวโนมที่จะเพิ่มมุมปะทะขึ้นอีกดวยตัวของอากาศยานเอง คําตอบ 2 : มีแนวโนมที่อากาศยานเคลื่อนที่ดวยมุมปะทะใหม ที่สภาพสมดุลใหมไมใชสภาพสมดุลเดิม คําตอบ 3 : มีแนวโนมที่จะลดมุมปะทะลงดวยตัวของอากาศยานเอง คําตอบ 4 : มีแนวโนมที่จะคงมุมปะทะไว

ขอที่ : 250 เมื่อมีลมกรรโชกมาทําใหอากาศยานที่ไรเสถียรภาพสถิต มีมุมปะทะเพิ่มขึ้น อากาศยานลํานี้จะตอบสนองอยางไร

คําตอบ 1 : มีแนวโนมมุมปะทะเพิ่มขึ้นจนไมสามารถรักษาเสถียรภาพได คําตอบ 2 : มีแนวโนมที่จะเพิ่มมุมปะทะขึ้นอีกดวยตัวของอากาศยานเอง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

91 of 145

Page 92: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : มีแนวโนมที่อากาศยานเคลื่อนที่ดวยมุมปะทะใหม ที่สภาพสมดุลใหมไมใชสภาพสมดุลเดิม คําตอบ 4 : มีแนวโนมที่จะคงมุมปะทะไว

ขอที่ : 251 เมื่อมีลมกรรโชกมาทําใหอากาศยานที่มีเสถียรภาพสถิตแบบเปนกลาง (Neutral) มีมุมปะทะเพิ่มขึ้น อากาศยานลํานี้จะตอบสนองอยางไร

คําตอบ 1 : มีแนวโนมที่จะเพิ่มมุมปะทะขึ้นอีกดวยตัวของอากาศยานเอง คําตอบ 2 : มีแนวโนมที่อากาศยานเคลื่อนที่ดวยมุมปะทะใหม ที่สภาพสมดุลใหมไมใชสภาพสมดุลเดิม คําตอบ 3 : มีแนวโนมที่จะลดมุมปะทะลงดวยตัวของอากาศยานเอง คําตอบ 4 : มีแนวโนมที่จะคงมุมปะทะไว

ขอที่ : 252 เสถียรภาพพลวัต (Dynamic Stability) คืออะไร

คําตอบ 1 : การพิจารณาการเคลื่อนที่ที่ตอเนื่อง เมื่อมีการรบกวนจากภายนอกหมดไป แลวอากาศยานจะ มีการตอบสนองอยางไร คําตอบ 2 : การพิจารณาความสัมพันธระหวางขนาดของการรบกวนการเคลื่อนที่กับเวลา คําตอบ 3 : การพิจารณาเสถียรภาพแบบมีการสั่นและไมมีการสั่น คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 253 อากาศยานมีการตอบสนองการสั่นแบบหนวง (Damped Oscillation) หมายความวาอยางไร

คําตอบ 1 : อากาศยานมีเสถียรภาพพลวัต คําตอบ 2 : อากาศยานมีเสถียรภาพสถิต คําตอบ 3 : อากาศยานไรเสถียรภาพพลวัต คําตอบ 4 : อากาศยานมีเสถียรภาพทั้งสถิตและพลวัตร

ขอที่ : 254 การทําใหอากาศยานที่ไรเสถียรภาพพลวัต (Dynamic Unstability) บินไดจริงนั้นจะตองเพิ่มระบบใดใหกับอากาศยาน

คําตอบ 1 : GPS (Global Position System) คําตอบ 2 : ILS (Instrument landing system) คําตอบ 3 : SAS (Stability Augmentation System) คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ

ขอที่ : 255

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

92 of 145

Page 93: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอใดไมใชพื้นบังคับหลักของอากาศยานทั่วไป(Conventional Design)คําตอบ 1 : ปกเล็กแกเอียง (Aileron) คําตอบ 2 : หางเสือขึ้น-ลง (Elevator) คําตอบ 3 : หางเสือเลยว (Rudder) คําตอบ 4 : คานารด (Canard)

ขอที่ : 256 สําหรับอากาศยานทั่วไป (Conventional Aircraft) คาความชันของกราฟความสัมพันธระหวางสัมประสิทธิ์โมเมนตปกเงย(Pitching Moment) กับมุมปะทะจะมีคาอยางไร

คําตอบ 1 : มีคาเปนบวก คําตอบ 2 : มีคาเปนลบ คําตอบ 3 : มีคาเปนศูนย คําตอบ 4 : เปนบวกในชวงแรก และจะมีคาเปนศูนยเมื่อผานคามุมวิกฤต

ขอที่ : 257

คําตอบ 1 : มีคาเปนบวก คําตอบ 2 : มีคาเปนลบ คําตอบ 3 : มีคาเปนศูนย คําตอบ 4 : มีคาเปนบวก หรือลบก็ได

ขอที่ : 258

การคํานวณคาสัมประสิทธิ์ทางเสถียรภาพและการควบคุม (Stability and Control Coefficient) สําหรับการแผนแบบขั้นตนเพื่อแสดงถึงความสัมพันธระหวางสัมประสิทธิทางเสถียรภาพกับรูปรางของอากาศยานและคุณลักษณะทางอากาศพลศาสตร จะใหความถูกตองเฉพาะความเร็วในยานใด

คําตอบ 1 : ความเร็วต่ํากวาเสียง (Subsonic) คําตอบ 2 : ความเร็วทรานโซนิค (Transonic) คําตอบ 3 : ความเร็วสูงกวาเสียง (Supersonic) คําตอบ 4 : ความเร็วไฮเปอรโซนิค (Hypersonic)

ขอที่ : 259 มุมระหวางชยา(Chord) กับเสนอางอิงกลางลําตัว (Fuselage Reference Line) คือมุมอะไร

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

93 of 145

Page 94: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : มุมปะทะ (Angle of Attack) คําตอบ 2 : มุมเลี้ยว (Bank Angle) คําตอบ 3 : มุมยกของปก (Dihedral Angle) คําตอบ 4 : มุมติดตั้งปก (Incident Angle)

ขอที่ : 260

การแผนแบบเฉพาะปกอยางเดียวใหมีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนตามยาว (Longitudinal Axis) นั้นตําแหนงของจุดศูนยกลางอากาศพลศาสตร (Aerodynamics Center) จะตองอยูที่ใด

คําตอบ 1 : หนาจุดศูนยถวง คําตอบ 2 : ทับจุดศูนยถวง คําตอบ 3 : หลังจุดศูนยถวง คําตอบ 4 : ตําแหนงหนึ่งสวนสี่ของเสนชยา (Quater Chord)

ขอที่ : 261

จากความรูทางอากาศพลศาสตรการบินทริม (Trim) ในยานมุมปะทะที่เปนบวกคาสัมประสิทธิ์โมเมนตปกเงย (Pitching Moment Coefficient) รอบจุดศูนยถวงที่มุมปะทะเทากับศูนยมีคาเปนบวกจําเปนจะตองใชปกลักษณะอยางไร

คําตอบ 1 : ปกสมมาตร คําตอบ 2 : ปกที่มีแคมเบอรเปนบวก คําตอบ 3 : ปกที่มีแคมเบอรเปนลบ คําตอบ 4 : ปกที่มีแคมเบอรเปนลบและมีการดัดชายหลังปกใหกระดกขึ้น

ขอที่ : 262 สําหรับการแผนแบบอากาศยานทั่วไป (Conventional Design)เราใชปกที่มีแคมเบอรเปนบวกประกอบกับลําตัวโดยไมมีแพนหางระดับจะสรุปไดวาอยางไร

คําตอบ 1 : มีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนตามยาวและทิศทาง (Longitudinal and Directional Axis) คําตอบ 2 : มีเสถียรภาพสถิตในแนวแกนทิศทางและทางขวาง (Directional and Lateral Axis) คําตอบ 3 : ไรเสถียรภาพในแนวแกนตามยาว (Longitudinal Axis) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 263 ประสิทธิภาพหาง (Tail Efficiency) คืออะไร

คําตอบ 1 : อัตราสวนความเร็วที่หางเทียบตอพื้นที่หาง คําตอบ 2 : อัตราสวนความดันสถิตเทียบตอพื้นที่หาง คําตอบ 3 : อัตราสวนความดันพลวัตของหางเทียบตอความดันพลวัตของปก

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

94 of 145

Page 95: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : อัตราสวนความดันสถิตเทียบตอพื้นที่ปก

ขอที่ : 264 คาประสิทธิภาพหาง (Tail Efficiency) ขึ้นอยูกับอะไร

คําตอบ 1 : ขนาดของแพนหางระดับ คําตอบ 2 : ตําแหนงติดตั้งของแพนหางระดับเทียบกับปก คําตอบ 3 : ลักษณะของอากาศที่ตกกระทบกับปก คําตอบ 4 : ตําแหนงติดตั้งของแพนหางระดับเทียบกับจุดศูนยถวง

ขอที่ : 265 อัตราสวนปริมาตรหาง (Horizontal Tail Volume Ratio) ไมขึ้นอยูกับตัวแปรใด

คําตอบ 1 : พื้นที่แพนหางระดับ คําตอบ 2 : พื้นที่ปก คําตอบ 3 : ความยาวเสนชยาเฉลี่ย (Average Chord) คําตอบ 4 : คาแรงยกที่แพนหางระดับ

ขอที่ : 266 ถาเราตองการเพิ่มเสถียรภาพสถิตในแนวแกนตามยาว (Longitudinal Axis) ใหมากขึ้นวิธีที่งายที่สุดในการปฏิบัติคืออะไร

คําตอบ 1 : เพิ่มความเร็วของอากาศยาน คําตอบ 2 : เพิ่มแรงขับของเครื่องยนต คําตอบ 3 : เพิ่มอัตราสวนสนทรรศ (Aspect Ratio) ของแพนหางระดับ คําตอบ 4 : เพิ่มพื้นที่ปก

ขอที่ : 267 ขอดอยของอากาศยานที่ใชคานารด (Canard) คืออะไร

คําตอบ 1 : ลดเสถียรภาพในแนวแกนตามยาว (Longitudinal Axis) คําตอบ 2 : ลดเสถียรภาพในแนวแกนทิศทาง (Directional Axis) คําตอบ 3 : ลดเถียรภาพในแนวทางขวาง (Lateral Axis) คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ

ขอที่ : 268 ถาจุดศูนยถวงของอากาศยานเคลื่อนที่เลยจุดสะเทิน (Neutral point) ไปอาจะมีผลทําใหอากาศเปนอยางไร

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

95 of 145

Page 96: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : มุมปะทะเพิ่มขึ้น คําตอบ 2 : มีเสถียรภาพสถิตแบบเปนกลาง (Neutal Static Stability) คําตอบ 3 : มีเสถียรภาพสถิตเพิ่มขึ้น คําตอบ 4 : ไรเสถียรภาพสถิต

ขอที่ : 269 เราสามารถควบคุมโมเมนตปกเงย (Pitching Moment) โมเมนตสาย (Yawing Moment) โมเมนตหมุน (Rolling Moment) โดยพื้นบังคับใดตอไปนี้ถูกตอง

คําตอบ 1 : หางเสือขึ้น-ลง (Elevator) , หางเสือเลี้ยว (Rudder), สปอยเลอรส (Spoilers) คําตอบ 2 : ปกเล็กเอียง (Ailerons) , หางเสือขึ้น-ลง (Elevator) สปอยเลอรส (Spoilers) คําตอบ 3 : หางเสือขึ้น-ลง (Elevator) , หางเสือเลี้ยว (Rudder), ปกเล็กเอียง (Ailerons) คําตอบ 4 : หางเสือเลี้ยว (Rudder), หางเสือขึ้น-ลง (Elevator), ปกเล็กเอียง(Ailerons)

ขอที่ : 270 การเปลี่ยนแปลงโมเมนตปกเงย (Pitching Moment) โดยหางเสือขึ้นลง (Elevator) จะไมมีผลตอความมีเสถียรภาพของอากาศยานหมายความวาอยางไร

คําตอบ 1 : คาความชันของกราฟความสัมพันธระหวางสัมประสิทธิ์โมเมนตปกเงย(Pitching Moment Coefficient) กับมุมปะทะมีคาคงที่

คําตอบ 2 : เมื่อมีการปดหางเสือขึ้น-ลง (Elevator Deflection) เปลี่ยนจะทําใหกราฟความสัมพันธระหวางสัมประสิทธิ์โมเมนต ปกเงย (Pitching Moment Coefficient) กับมุมปะทะเลื่อนขึ้นลงเทานั้น

คําตอบ 3 : อากาศยานสามารถบินทริม (Trim) ไดที่มุมปะทะใหมขึ้นอยูกับวาจะปดหางเสือขึ้นหรือลง คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 271 คาตัวแปรใดที่มีอิทธิพลตอสัมประสิทธิ์แรงยกของอากาศยานทั้งลําเมื่อมีการปดหางเสือขึ้นลง (Elevator Deflection Angle)

คําตอบ 1 : มุมปะทะ และ ความเร็ว คําตอบ 2 : ความเร็ว และ ความหนาแนน คําตอบ 3 : มุมยกปก (Dihedral Angle) และ มุมปดของหางเสือขึ้นลง (Elevator Angle) คําตอบ 4 : มุมปะทะ และมุมปดหางเสือขึ้นลง (Elevator Angle)

ขอที่ : 272 คากําลังควบคุมหางเสือขึ้นลง (Elevator Control Power) ยิ่งมีคามากนั้นแสดงวาการควบคุมโดยหางเสือขึ้นลงเปนอยางไร

คําตอบ 1 : คาโมเมนตปกเงย (Pitching Moment) เทากันเมื่อเทียบตอมุมปดหางเสือขึ้นที่ลงเทากัน คําตอบ 2 : คาโมเมนตปกเงย (Pitching Moment) นอยกวาเมื่อเทียบตอมุมปดหางเสือขึ้นที่ลงเทากัน คําตอบ 3 : ใชกําลังในการควบคุมหางเสือขึ้นลงมาก คําตอบ 4 : คาโมเมนตปกเงย (Pitching Moment) มากกวาเมื่อเทียบตอมุมปดหางเสือขึ้นที่ลงเทากัน

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

96 of 145

Page 97: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 273 โมเมนตที่บานพับ (Hinge Moment) คืออะไร

คําตอบ 1 : โมเมนตที่เกิดขึ้นที่ชายปกหลัง (Wing Trailing Edge) คําตอบ 2 : โมเมนตที่เกิดจากการกระทําของนักบิน คําตอบ 3 : โมเมนตที่นักบินตองเอาชนะเพื่อบังคับอากาศยานใหเคลื่อนที่ไปในทาทางที่นักบินตองการ คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 274 โมเมนตที่บานพับ (Hinge Moment) สามารถแสดงโดยสมการไดวาเกิดจากผลรวมของปจจัยตางๆคือ

คําตอบ 1 : มุมปะทะที่แพนหางระดับ คําตอบ 2 : มุมปดหางเสือขึ้นลง (Elevator Deflection Angle) คําตอบ 3 : มุมแผนปรับแตง (Trim Tab Angle) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 275 สําหรับการแผนแบบอากาศยานสวนใหญระยะสถิต (Static Margin) จะมีคาประมาณเทาใดของชยาเฉลี่ย (Average Chord)

คําตอบ 1 : 5 % คําตอบ 2 : 10 % คําตอบ 3 : 15 % คําตอบ 4 : 25 %

ขอที่ : 276 ตัวแปรใดที่มีความสําคัญตอการออกแบบระบบบังคับควบคุมเพื่อใหนักบินรูสึกถึงแรงที่ตอบสนองจากการบังคับที่คันบังคับ (Contorl Stick)

คําตอบ 1 : ความเร็ว คําตอบ 2 : มุมปะทะ คําตอบ 3 : คาเกรเดียนทแรงบังคับ (Control Force Gradient) คําตอบ 4 : แรงที่กระทําจากนักบิน (Control Force)

ขอที่ : 277 ถาอากาศยานที่แผนแบบมาไมมีเสถียรภาพดานความเร็ว (Speed Stability) จะสงผลใดตอนักบิน

คําตอบ 1 : นักบินทําการควบคุมไดยาก

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

97 of 145

Page 98: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : นักบินตองออกแรงบังคับอากาศยานเพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : นักบินสามารถรับภาระกรรมของงานเพิ่มขึ้น คําตอบ 4 : นักบินจะตองคอยเฝาสังเกตุและบังคับควบคุมความเร็วของอากาศยานตลอดเวลา

ขอที่ : 278 การควบคุมอากาศยานแนวแกนทิศทาง (Directional Axis) กระทําไดโดยการใชพื้นบังคับที่เรียกวาอะไร

คําตอบ 1 : แฟลบ (Falp) คําตอบ 2 : หางเสือขึ้นลง (Elevator) คําตอบ 3 : หางเสือเลี้ยว (Rudder) คําตอบ 4 : ปกเล็กเอียง (Ailerons)

ขอที่ : 279 การแผนแบบเพื่อกําหนดขนาดของหางเสือเลี้ยว (Rudder) ขึ้นอยูกับสิ่งใด

คําตอบ 1 : Spin Recovery คําตอบ 2 : Asymmetrical Engine Failure คําตอบ 3 : Cross Wind Take off and Landing คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 280

เมื่ออากาศยานทําการเอียงปกเพื่อเลี้ยว ปกเล็กเอียง (Ailerons) อาจทําใหเกิดโมเมนตสาย (Yawing Moment) ซึ่งจะทําใหเกิดการตานการเลี้ยวของอากาศยาน นักบินจะตองใชสิ่งใดเพื่อเอาชนะอาการนี้ของอากาศยานเพื่อใหการ เลี้ยวเปนแบบสมดุล (Coordinate turn) คําตอบ 1 : แฟลบ (Flap) คําตอบ 2 : คานารด (Canard) คําตอบ 3 : หางเสือขี้นลง (Elevator) คําตอบ 4 : หางเสือเลี้ยว (Rudder)

ขอที่ : 281 พื้นบังคับหลักที่ใชในการแกอาการควงสวาน (Spin) ของอากาศยานทั่วไปคืออะไร

คําตอบ 1 : แฟลบ (Flap) คําตอบ 2 : หางเสือขึ้นลง (Elevator) คําตอบ 3 : หางเสือเลี้ยว (Rudder) คําตอบ 4 : ปกเล็กเอียง (Ailerons)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

98 of 145

Page 99: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 282 นักบินใชหางเสือเลี้ยว (Rudder) เพื่อแกอาการใดตอไปนี้

คําตอบ 1 : แอดเวอรยอว (Adverse yaw) คําตอบ 2 : การควงสวาน (Spin) คําตอบ 3 : การสูญเสียกําลังจากเครื่องยนต (Asymmetrical Power Failure) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 283 อากาศยานมีเสถียรภาพสถิตแนวแกนทางขวาง (Lateral Axis) การเปลี่ยนแปลงโมเมนตหมุน (Rolling Moment) เทียบตอมุมแฉลบ (Sideslip Angle) จะตองมีลักษณะอยางไร

คําตอบ 1 : มีคาเทากับศูนย คําตอบ 2 : มีคาเปนบวก คําตอบ 3 : มีคาเปนลบ คําตอบ 4 : มีคาเปนลบเมื่อคามุมแฉลบเปนลบ และมีคาเปนศูนยเมื่อคามุมแฉลบเปนบวก

ขอที่ : 284 ขอใดตอไปนี้มีอิทธิพลตอเสถียรภาพแนวแกนทางขวาง (Lateral Axis) เพียงเล็กนอย

คําตอบ 1 : มุมยกปก (Dihedral Angle) คําตอบ 2 : มุมลูปก (Swept Angle) คําตอบ 3 : ตําแหนงที่ติดตั้งปกเทียบกับลําตัวและแพนหางดิ่ง คําตอบ 4 : มุมปะทะ (Angle of Attack)

ขอที่ : 285 สําหรับเสถียรภาพสถิตในแนวแกนทิศทาง (Directional Axis) ถาอากาศยานเกิดการแฉลบ (Sideslip) ทางซายนั้นหมายถึงอากาศยานเปนอยางไร

คําตอบ 1 : รักษาทิศทางเดิมตอไป คําตอบ 2 : สายหัวไปทางซาย คําตอบ 3 : สายหัวไปทางขวา คําตอบ 4 : ปกหัวลงและสายหัวไปทางซาย

ขอที่ : 286 ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับเสถียรภาพสถิต (Static Stability) ของอากาศยาน

คําตอบ 1 : ลําตัวของอากาศยานทําใหอากาศยานเกิดเสถียรภาพสถิตยในการปกเงย (Pitching)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

99 of 145

Page 100: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : ปกหางระดับ (horizontal tail) สําหรับอากาศยานแบบธรรมดา (conventional) จะทําใหอากาศยานมีเสถียรภาพสถิตยตามแนวลําตัว คําตอบ 3 : การติดตั้งเครื่องยนตไวใตปกจะสงผลใหอากาศยานไรเสถียรภาพสถิตยตามแนวลําตัว คําตอบ 4 : หากวาจุดศูนยถวง (centre of gravity) ของอากาศยานอยูหนาจุดกลาง (neutral point) ของอากาศยาน จะสงผลใหอากาศยานมีเสถียรภาพสถิตยตามแกนลําตัว

ขอที่ : 287 จากการศึกษาเสถียรภาพแนวแกนทางขวาง (Lateral Axis) ของอากาศยานแรงยกที่เพิ่มขึ้นมาเนื่องจากการที่ปกของอากาศเอียงลงนั้นเปนผลมาจากสิ่งใด

คําตอบ 1 : มุมลูปก (Swept Angle) คําตอบ 2 : กําลังเครื่องยนต (Engine Power) คําตอบ 3 : มุมยกของปก (Dihedral Angle) คําตอบ 4 : การเปลี่ยนแปลงของลมสัมพัทธ (Relative Wind)

ขอที่ : 288 อากาศยานปกลาง (Low Wing) ถาตองการทําใหอากาศยานมีคาเสถียรภาพสถิตแนวแกนทางขวาง (Lateral Axis) เพิ่มขึ้นจะตองทําการปรับปรุงในสวนใด

คําตอบ 1 : เพิ่มมุมปะทะใหกับอากาศยาน คําตอบ 2 : เพิ่มแรงขับใหกับอากาศยาน คําตอบ 3 : เพิ่มมุมลูของปก (Swept Angle) ใหกับอากาศยาน คําตอบ 4 : เพิ่มมุมยกของปก (Dihedral Angle) ใหกับอากาศยาน

ขอที่ : 289 ถาตําแหนงจุดศูนยกลางอากาศพลศาสตรของแพนหางดิ่งอยูเหนือจุดศูนยถวงจะสงผลอยางไรตอเสถียรภาพสถิตแนวแกนทางขวาง (Lateral Axis)

คําตอบ 1 : เสถียรภาพสถิตแนวแกนทางขวางลดลง คําตอบ 2 : เสถียรภาพสถิตแนวแกนทางขวางเพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : ไมมีผลกระทบตอเสถียรภาพสถิตทางขวาง คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก

ขอที่ : 290 ปกลูหลัง(Swept Wing) มีผลกระทบตอเสถียรภาพในการเอียงปก (Roll Stability) มากกวาปกตรง(Straight Wing) อยางไร

คําตอบ 1 : มีเสถียรภาพมากขึ้น คําตอบ 2 : มีเสถียรภาพลดลง คําตอบ 3 : ไมมีผลกระทบตอเสถียรภาพ คําตอบ 4 : เสถียรภาพเพิ่มขึ้นหรือลดลงตองพิจารณาควบคูกับความเร็ว

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

100 of 145

Page 101: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 291 ในขณะที่อากาศยานบินในทาทางที่มีเสถียรภาพถานักบินออกแรงกระทําที่แปนบังคับหางเสือเลี้ยว (Rudder Pedal) ดานขวา อากาศยานจะตอบสนองอยางไร

คําตอบ 1 : เอียงปกทางซายและสายหัวทางซาย คําตอบ 2 : เอียงปกทางขวาและสายหัวทางขวา คําตอบ 3 : เอียงปกทางซายและสายหัวทางขวา คําตอบ 4 : เอียงปกทางขวาและสายหัวทางซาย

ขอที่ : 292 การแผนแบบอากาศยาน ตําแหนงติดตั้งปกของอากาศยานในขอใดที่ตองการมุมยกของปก (Dihedral Angle) มากที่สุด

คําตอบ 1 : ปกเหนือลําตัว คําตอบ 2 : ปกกลางลําตัว คําตอบ 3 : ปกลางลําตัว คําตอบ 4 : ตําแหนงของปกไมมีผลแตอยางใด

ขอที่ : 293 น้ําหนักและสมดุล (Weight and Balance) ของอากาศยานมีความสําคัญเพราะเหตุใด

คําตอบ 1 : จุดศูนยถวงมีผลกระทบตอเสถียรภาพและการควบคุม คําตอบ 2 : ถาจุดศูนยถวงเลื่อนไปขางหนาเสถียรภาพในการปกเงย(Pitchint) จะเพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : ถาจุดศูนยถวงเลื่อนไปขางหนามากเกินไปอากาศยานจะไมตอบสนองตอการควบคุมของหางเสือขึ้นลง (Elevator) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 294 พื้นบังคับขอใดของอากาศยานที่นักบินตองบังคับเพื่อใหเกิดการควบคุมทางขวาง (Lateral Control)

คําตอบ 1 : หางเสือขึ้นลง (Elevetor) คําตอบ 2 : หางเสือเลี้ยว (Rudder) คําตอบ 3 : ปกเล็กเอียง (Ailerons) คําตอบ 4 : สปอยเลอร (Spoiler)

ขอที่ : 295 ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับการกระดกของปกเล็กเอียง (Ailerons)

คําตอบ 1 : ดานที่กระดกขึ้นการกระจายแรงยกจะเพิ่มขึ้น คําตอบ 2 : ดานที่กระดกลงการกระจายแรงยกจะเพิ่มขึ้น

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

101 of 145

Page 102: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : การกระจายแรงยกเทากันตลอดทั้งปก คําตอบ 4 : การกระจายแรงยกลดลงไมวาจะกระดกขึ้นหรือลง

ขอที่ : 296

คําตอบ 1 : 0.09 rad

คําตอบ 2 : 2.3 degrees

คําตอบ 3 : 0.05 rad

คําตอบ 4 : 1.3 degrees

ขอที่ : 297

จงคํานวณหาพื้นที่ปกหางระดับ (Horizontal Tail Area) เมื่อมีระยะระหวางจุดศูนยกลางอากาศพลศาสตรของปกหางระดับ (Aerodynamic Center of Horizontal Tail) กับจุดศูนยกลางมวล (Center of Gravity) เทากับ 4.5 เมตร พื้นที่ปกหลักเทากับ 16.5 ตารางเมตร ความยาวคอรด (Chord) ของปกหลักเทากับ 1.5 เมตร และมีคาอัตราสวนปริมาตรปกหางระดับ (Horizontal Tail Volume Ratio) เทากับ 0.453

คําตอบ 1 : 1.5 ตารางเมตร

คําตอบ 2 : 2.5 ตารางเมตร

คําตอบ 3 : 3.5 ตารางเมตร

คําตอบ 4 : 4.5 ตารางเมตร

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

102 of 145

Page 103: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 298

คําตอบ 1 : 0.941 คําตอบ 2 : 0.04 คําตอบ 3 : 0.194 คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก

ขอที่ : 299

คําตอบ 1 : 0.35 คําตอบ 2 : 0.87 คําตอบ 3 : 7.3012 คําตอบ 4 : 14.6024

ขอที่ : 300

คําตอบ 1 : 7.7 องศา (degrees)

คําตอบ 2 : 6.4 องศา (degrees)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

103 of 145

Page 104: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : 1 องศา (degree)

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก

ขอที่ : 301 สวนใดของเครื่องบินสงผลกระทบตอเสถียรภาพสถิตแนวแกนตามยาว (Static Longitudinal Stability) นอยที่สุด

คําตอบ 1 : แพนหางระดับ คําตอบ 2 : ลําตัว คําตอบ 3 : แพนหางดิ่ง คําตอบ 4 : ปก

ขอที่ : 302 ขอใดถูกตองที่สุด เมื่อกลาวถึงเกรเดียนทแรงที่คันบังคับ (Stick Force Gradient (dF/dV) )

คําตอบ 1 : จะตองเปนลบ มิฉะนั้นเครื่องบินจะบังคับไมได คําตอบ 2 : ควรตองเปนบวก มิฉะนั้นเครื่องบินจะไมมีเสถียรภาพทาง roll คําตอบ 3 : จะตองเปนบวก เพื่อทําใหนักบินควบคุมเครื่องไดงายขึ้น คําตอบ 4 : ควรจะเปนลบ มิฉะนั้นเครื่องบินจะบังคับไดยาก

ขอที่ : 303 คานารด (Canard) สงผลกระทบตอเสถียรภาพสถิตแนวแกนทิศทาง (Directional Static Stability) อยางไร

คําตอบ 1 : สงผลดานบวก เชนเดียวกับแพนหางระดับแตมีผลกระทบนอยกวาเนื่องจากขนาดเล็กกวา คําตอบ 2 : สงผลดานบวก เชนเดียวกับแพนหางระดับแตมีผลกระทบนอยกวาเนื่องจากอยูใกลศูนยถวงมากกวา คําตอบ 3 : สงผลดานลบ เนื่องจากอยูหนาศูนยถวง คําตอบ 4 : สงผลดานลบ เนื่องจากไมไดรับผลของดาวนวอช (Downwash) จากปก

ขอที่ : 304 ปกที่มีมุมยกขึ้น (dihedral) จะมีเสถียรภาพสิตยทางขาง (static roll stability) ที่ดีกวาปกที่มีมุมกดลง (anhedral) เนื่องจาก

คําตอบ 1 : อากาศที่ไหลผานลําตัวของปกที่มีมุมยกขึ้น (dihedral) กอใหเกิดแรงกดบนปกดานที่สูงกวา คําตอบ 2 : มุมปะทะ (angle of attack) ที่ปกดานที่ต่ํากวาจะมากกวามุมปะทะ (angle of attack) ที่ปกดานที่สูงกวา

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

104 of 145

Page 105: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : เปนเหตุผลทางสภาพยืดหยุนทางอากาศ (aeroelasticity) ที่ทําใหปกเกิดการบิดตัวทําใหมุมปะทะแตละดานเปลี่ยนไป คําตอบ 4 : เปนการเพิ่มความโกง (camber) ของปกดานที่ต่ํากวา ดังนั้นแรงยกจะสูงขึ้นบนดานนั้น

ขอที่ : 305 การที่มีปกลูหลัง (sweep wing) จะสงผลอยางไรตอเสถียรภาพสถิตยทางขวางของอากาศยาน

คําตอบ 1 : ทําใหอากาศยานมีเสถียรภาพมากขึ้น คําตอบ 2 : ทําใหอากาศยานมีเสถียรภาพลดลง คําตอบ 3 : ไมมีผลตอเสถียรภาพขออากาศยาน คําตอบ 4 : หากวามุมลูหลังมีคามากกวา 45 องศาจะทําใหเสถียรภาพลดลง หากวามากคานอยกวาจะทําใหเสถียรภาพสูงขึ้น

ขอที่ : 306 ตําแหนงของจุดศูนยถวง (center of gravity) ที่คลอยอยูทางดานหนาของอากาศยาน จะสงผลอยางไรตอเสถียรภาพสถิตยทางทิศทาง

คําตอบ 1 : ทําใหมีเสถียรภาพลดลง คําตอบ 2 : ไมสงผลใดๆ ตอเสถียรภาพ คําตอบ 3 : ทําใหมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น คําตอบ 4 : ขึ้นอยูกับทิศทางที่ลมพัดเขาหาอากาศยาน

ขอที่ : 307 การที่สรางครีบ (dorsal fin) เพิ่มขึ้นที่บริเวณแพนหางดิ่ง (vertical stabilizer) จะสงผลอยางไร

คําตอบ 1 : ทําใหอากาศยานมีเสถียรภาพสถิตยทางทิศทางเพิ่มขึ้น คําตอบ 2 : ทําใหอากาศยานมีเสถียรภาพสถิตยทางทิศทางลดลง คําตอบ 3 : ทําใหอากาศยานมีเสถียรภาพสถิตยตามแนวแกนลําตัวเพิ่มขึ้น คําตอบ 4 : ทําใหอากาศยานมีเสถียรภาพสถิตยตามแนวแกนลําตัวลดลง

ขอที่ : 308

คําตอบ 1 : -0.057 คําตอบ 2 : -0.4511 คําตอบ 3 : -0.0501 คําตอบ 4 : -0.043

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

105 of 145

Page 106: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 309

คําตอบ 1 : -0.057 คําตอบ 2 : -0.451 คําตอบ 3 : -23.027 คําตอบ 4 : -0.043

ขอที่ : 310

คําตอบ 1 : 9 คําตอบ 2 : 5 คําตอบ 3 : 8 คําตอบ 4 : 11

ขอที่ : 311

คําตอบ 1 : -3.75 คําตอบ 2 : 6.75 คําตอบ 3 : 3.75 คําตอบ 4 : 1.5

ขอที่ : 312

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

106 of 145

Page 107: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 50.6 ตารางเมตร คําตอบ 2 : 0.0086 ตารางเมตร คําตอบ 3 : 455 ตารางเมตร คําตอบ 4 : 116.16 ตารางเมตร

ขอที่ : 313

อนุพันธทางเสถียรภาพ (Stability derivatives) ของโมเมนตปกเงย (Pitching moment (cm)) เทียบกับตัวแปรใดมีคาเปนนอยมากหรือเปนศูนย

คําตอบ 1 : ความเร็ว คําตอบ 2 : อัตราการปกเงย (Pitch rate (q) ) คําตอบ 3 : อัตราการหมุน (Roll rate (r) ) คําตอบ 4 : มุมปดหางเสือขึ้นลง (Elevator angle)

ขอที่ : 314 ขอใดไมถูกตองเมื่อเครื่องบินอยูในทาทางที่มีการเคลื่อนที่แบบหมุน (roll) หรือในทาทางที่ปกไมอยูในแนวระดับ

คําตอบ 1 : ถาตัวแปรในการเคลื่อนที่คงที่ เครื่องบินจะเสียความสูง คําตอบ 2 : จะเกิดการเคลื่อนที่ทางดานปกเงย (pitch) รวมดวยเพราะเปนผลกระทบรวม (coupling effects) คําตอบ 3 : มุมปะทะทองถิ่น (local angle of attack) ของปกในแตละดานจะเปลี่ยนไป คําตอบ 4 : การเปลี่ยนแปลงของมุมปะทะในแตละตําแหนงของปกไมเทากัน

ขอที่ : 315 โดยทั่วๆ ไปเมื่อเกิดโมเมนตสาย (Yawing moment) ขึ้นแลว....

คําตอบ 1 : มุมปะทะของแพนหางดิ่งจะเปลี่ยนไป คําตอบ 2 : เครื่องบินจะเกิดการเคลื่อนที่ปกเงย (Pitching motion) ขึ้นดวย คําตอบ 3 : แรงยกจะลดลง คําตอบ 4 : ตําแหนงจุดศูนยถวงจะเปลี่ยนไป

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

107 of 145

Page 108: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 316 สมการเคลื่อนที่ของอากาศยานใชทฤษฎีใดเปนพื้นฐาน

คําตอบ 1 : ทฤษฎีสัมพันธภาพ คําตอบ 2 : ทฤษฎีของเบอรนูลี่ คําตอบ 3 : กฏการเคลื่อนที่ขอที่ 1 ของนิวตัน คําตอบ 4 : กฏการเคลื่อนที่ขอที่ 2 ของนิวตัน

ขอที่ : 317 กรอบอางอิง(Reference Frame) ที่ใชเมื่อไมมีการหมุนจะสงผลกระทบใดตอการพิจารณาการเคลื่อนที่ของอากาศยาน

คําตอบ 1 : อากาศยานจะไมมีการเคลื่อนที่ คําตอบ 2 : โมเมนตเฉื่อย (Moment of Inertia) ของอากาศยานไมมีการเปลี่ยนแปลง คําตอบ 3 : โมเมนตเฉื่อย (Moment of Inertia) และผลคูณโมเมนตเฉื่อย (Product of Inertia) จะมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลา คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ

ขอที่ : 318 ขอใดไมใชสวนประกอบของแรงและโมเมนตที่กระทําตอเครื่องบิน

คําตอบ 1 : แรงอากาศพลศาสตร คําตอบ 2 : แรงโนมถวง คําตอบ 3 : แรงขับ คําตอบ 4 : แรงเฉื่อย

ขอที่ : 319 จากระบบแกนลําตัว (Body Axis System) เราตองการใหคา ผลคูณของโมเมนตเฉื่อย (Product Of Inertia) เทากับศูนยเราสามารถทําไดอยางไร

คําตอบ 1 : กําหนดใหระนาบ XZ ของอากาศยานเปนระนาบสมมาตรของอากาศยาน คําตอบ 2 : กําหนดใหอากาศยานอยูในกรอบอางอิงเฉื่อย (Inertial Frame) คําตอบ 3 : กําหนดใหอากาศยานอยูในแนวแกนลม (Wind Axis) คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ

ขอที่ : 320 สิ่งที่ตองใหความสําคัญเสมอในการใชการหมุนดวยวิธีมุมของออยเลอร (Euler Angle Method) คืออะไร

คําตอบ 1 : อัตราเร็วสูงสุดของอากาศยาน คําตอบ 2 : คาของมุมตางๆ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

108 of 145

Page 109: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : ระบบแกนอางอิง คําตอบ 4 : ลําดับการหมุนของมุม

ขอที่ : 321 เหตุผลใดที่กําหนดใหระบบแกนลําตัว (Body Axis System) มีจุดกําเนิดอยูที่จุดศูนยถวง (Center of Gravity) ของอากาศยาน

คําตอบ 1 : งายตอการคํานวณ คําตอบ 2 : จะไมเกิดโมเมนตเนื่องจากแรงโนมถวง คําตอบ 3 : ทําใหโมเมนตความเฉื่อยมีคาเปนศูนย คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ

ขอที่ : 322 สภาวะการบินใดที่ไมสามารถใช ทฤษฏีสมอลลดิสเทอรบแบนซ (Small-Disturbance Theory) ในการพิจารณาสมการการเคลื่อนที่ของอากาศยานได

คําตอบ 1 : การบินตรงระดับ (Level Flight) คําตอบ 2 : การบินเลี้ยว (Turning Flight) คําตอบ 3 : การบินเขาสูสภาวะควงสวาน (Spin) คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ

ขอที่ : 323 ขอใดไมมีผลกระทบตอโมเมนตปกเงย (Pitching Moment)

คําตอบ 1 : มุมปะทะ คําตอบ 2 : ความเร็วของการปกเงย (Pitch Rate) คําตอบ 3 : มุมของหางเสือขึ้นลง (Elevator Angle) คําตอบ 4 : มุมของปกเล็กเอียง (Ailerons Angle)

ขอที่ : 324

ถาอัตราการหมุน ( roll rate = p) สําหรับเครื่องบินมีกางปก (wing span = b) ขณะที่บินที่ความเร็ว u จงประมาณมุมปะทะที่เปลี่ยนแปลงไปที่ตําแหนงปลายปกเนื่องจากอัตราการหมุน (roll rate) นี้คําตอบ 1 : pb/2u คําตอบ 2 : pu คําตอบ 3 : b/2pu คําตอบ 4 : 0

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

109 of 145

Page 110: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 325 อัตราการเปลี่ยนแปลงของมุมออยเลอร (Euler Angle Rate) จะเทากับความเร็วเชิงมุมในแกนอางอิงลําดัว (p,q,r) เมื่อใด

คําตอบ 1 : เครื่องบินอยูในสภาวะการบินทริม (trim) คําตอบ 2 : มุมปกเงย (pitch angle) = มุมสาย (yaw angle) = มุมหมุน (roll angle) = 0 องศา คําตอบ 3 : มุมปกเงย (pitch angle) = มุมสาย (yaw angle) = มุมหมุน (roll angle) คําตอบ 4 : มุมปกเงย (pitch angle) + มุมสาย (yaw angle) = มุมหมุน (roll angle)

ขอที่ : 326 ขอใดถูกตองเกี่ยวกับมุมออยเลอร (Euler Angle)

คําตอบ 1 : ถูกกําหนดบนกรอบอางอิงลําตัว (body frame) คําตอบ 2 : ถูกกําหนดบนกรอบอางอิงโลก (earth fixed frame) คําตอบ 3 : ลําดับของการหมุนแกนมีความสําคัญ คําตอบ 4 : เปนวิธีการที่ใชบอกถึงตําแหนงของเครื่องบินเทียบกับพื้นโลก

ขอที่ : 327 ถา มุมปกเงย (pitch angle) = มุมสาย (yaw angle) = 0 องศา และมุมหมุน (roll angle) = 30 องศา แลวแรง mg ในทิศทาง z ของ กรอบอางอิงลําตัว (body frame) จะเทากับ

คําตอบ 1 : mg sin(30) คําตอบ 2 : mg cos(30) คําตอบ 3 : -mg sin(30) คําตอบ 4 : -mg cos(30)

ขอที่ : 328 ขอใดถูกตองเกี่ยวกับแรงเนื่องจากแรงโนมถวง (gravitational force) mg เมื่อพิจารณาแรงนี้กระทําในกรอบอางอิงลําตัว (body frame)

คําตอบ 1 : ไมขึ้นอยูกับมุมสาย (yaw angle) คําตอบ 2 : ไมขึ้นอยูกับมุมหมุน (roll angle) คําตอบ 3 : ไมขึ้นอยูกับมุมปกเงย (pitch angle) คําตอบ 4 : ไมขึ้นอยูกับมุมหมุน (roll angle) มุมปกเงย (pitch angle) และมุมสาย (yaw angle) แรง mg คงที่ตลอดเวลา

ขอที่ : 329 ขอใดกลาวถึงคําจํากัดความของอนุพันธทางเสถียรภาพ (stability derivatives) ไดดีที่สุด

คําตอบ 1 : การตอบสนองทางพลวัตของเครื่องบิน คําตอบ 2 : การเปลี่ยนแปลงของแรงและโมเมนตทางอากาศพลศาสตร เนื่องจากพลวัตของเครื่องบิน

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

110 of 145

Page 111: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : การเปลี่ยนแปลงทางเสถียรภาพของเครื่องบินเนื่องจากแรงทางอากาศพลศาสตร คําตอบ 4 : การเปลี่ยนแปลงทางเสถียรภาพของเครื่องบินเนื่องจากพลวัต

ขอที่ : 330 สวนใดของเครื่องบินที่สงผลตอ การเปลี่ยนแปลงของแรงทางขาง (Side Force (Y)) เทียบกับมุมแฉลบ (side slip angle ( )) มากที่สุด

คําตอบ 1 : แพนหางดิ่ง (vertical tail) คําตอบ 2 : ลําตัว (fuselage) คําตอบ 3 : ปก (wing) คําตอบ 4 : แพนหางระดับ (horizontal tail)

ขอที่ : 331 สวนใดของเครื่องบินที่สงผลตอ การเปลี่ยนแปลงของแรงทางขาง (Side Force (Y)) เทียบกับอัตราการหมุน (roll rate (p)) นอยที่สุด

คําตอบ 1 : แพนหางดิ่ง (vertical tail) คําตอบ 2 : ลําตัว (fuselage) คําตอบ 3 : ปก (wing) คําตอบ 4 : แพนหางระดับ (horizontal tail)

ขอที่ : 332 การปรับเปลี่ยนปกเล็กเอียง (ailerons) สงผลกระทบตอตัวแปรใดนอยที่สุด

คําตอบ 1 : อัตราการปกเงย (Pitch rate) คําตอบ 2 : อัตราการสาย (Yaw rate) คําตอบ 3 : แรงทางขาง (Side force) คําตอบ 4 : โมเมนตสาย (Yaw moment)

ขอที่ : 333

ถาทราบคากราฟของอัตราการหมุน (roll rate) เทียบกับเวลา (p(t)) ในกรณีของการเคลื่อนที่แบบหมุนรอบแกน x (pure rolling motion) ที่ไดจากการทดลองในอุโมงคลม ขอมูลนี้จะสามารถนําไปหาตัวแปรทางเสถียรภาพตัวใดได

คําตอบ 1 : โมเมนตหมุน (roll moment) เทียบกับอัตราการหมุน (roll rate) คําตอบ 2 : โมเมนตสาย (yaw moment) เทียบกับอัตราการหมุน (roll rate) คําตอบ 3 : โมเมนตหมุน (roll moment)เทียบกับมุมแฉลบ (sideslip angle) คําตอบ 4 : โมเมนตสาย (yaw moment)เทียบกับมุมแฉลบ (sideslip angle)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

111 of 145

Page 112: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 334

ถาโพล (poles) ของพลวัตแนวแกนทางขวาง (lateral dynamics) คําตอบของสมการคุณลักษณะ (characteristics equation) มีดังนี้ -0.01, -10, -2+3j, -2-3j คาเวลาคงตัว (time constant) ของการเคลื่อนที่แบบหมุนรอบแกน x (pure rolling motion) เทากับคําตอบ 1 : 100 seconds คําตอบ 2 : 0.1 second คําตอบ 3 : 10 seconds คําตอบ 4 : 0.01 seconds

ขอที่ : 335

ถาโพล (poles) ของพลวัตแนวแกนทางขวาง (lateral dynamics) คําตอบของสมการคุณลักษณะ (characteristics equation) มีดังนี้ -0.01, -10, -2+3j, -2-3j คาเวลาคงตัว (time constant) ของการเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (spiral mode) เทากับคําตอบ 1 : 100 seconds คําตอบ 2 : 0.1 second คําตอบ 3 : 10 seconds คําตอบ 4 : 0.01 seconds

ขอที่ : 336 ตัวแปรในขอใดไมสงผลตอพลวัตแนวแกนทางขวาง (lateral dynamics)

คําตอบ 1 : อัตราการหมุน (roll rate) คําตอบ 2 : ความเร็วในแนวแกน z คําตอบ 3 : มุมสาย (yaw angle) คําตอบ 4 : การกระดกปกเล็กเอียง (ailerons deflection)

ขอที่ : 337 ตัวแปรขอใดไมเกี่ยวของการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตหมุน (roll moment) เทียบกับอัตราการหมุน (roll rate (Lp))

คําตอบ 1 : ระยะทางจากแพนหางมายังปกตามแนวลําตัว คําตอบ 2 : ขนาดของปก คําตอบ 3 : รูปรางของปก คําตอบ 4 : แพนอากาศ (airfoil)

ขอที่ : 338 คํากลาวตอไปนี้พูดถึงการเคลื่อนที่แบบไหน “อาจจะลูเขา หรือลูออก อยางชา ๆ”

คําตอบ 1 : ดัทชโรลล (Dutch roll)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

112 of 145

Page 113: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : สไปรอลล (Spiral) คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่แบบสายรอบแกน z (Pure Yawing) คําตอบ 4 : การเคลื่อนที่แบบฟูกอยด (Phugoid Mode)

ขอที่ : 339 คํากลาวตอไปนี้พูดถึงการเคลื่อนที่แบบไหน “เปนการเคลื่อนที่ที่รวมการหมุน (roll) การสาย (yaw) และ มุมแฉลบ (sideslip) เขาดวยกัน”

คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่แบบสายรอบแกน z (Pure Yawing) คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่แบบฟูกอยด (Phugoid Mode) คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (Spiral) คําตอบ 4 : การเคลื่อนที่แบบดัทชโรลล (Dutch roll)

ขอที่ : 340

รากสมการคุณลักษณะ (Characteristics roots (poles)) ของ พลวัตแนวแกนทางขวาง (lateral dynamics) เทากับ -0.1, -20, -1+5j, -1-5j จงหาเวลาคงตัว (time constant) ของการเคลื่อนที่แบบหมุนรอบแกน x (rolling motion)คําตอบ 1 : 0.2 วินาท ีคําตอบ 2 : 50 วินาที คําตอบ 3 : 10 วินาที คําตอบ 4 : 5 วินาที

ขอที่ : 341

กราฟขอใดตอไปนี้มีความเปนไปไดที่จะเปนการเคลื่อนที่ในการเคลื่อนที่แบบหมุนรอบแกน x (pure rolling mode) สูงสุด เมื่อแกน x คือเวลา และแกน y คือ อัตราการหมุน (roll rate, p(t))

คําตอบ 1 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

113 of 145

Page 114: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

114 of 145

Page 115: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 342 ติดตั้งแบบจําลองในอุโมงคลม โดยยึดทุกแกน และอนุญาตใหเครื่องบินเคลื่อนที่แบบหมุน (pure rolling) ไดเทานั้น การทดลองนี้จะ ไมสามารถนํามาใชเพื่อจุดประสงคในขอใด

คําตอบ 1 : หาคุณภาพการบิน (flying qualities) ของการเคลื่อนที่ทางขวาง (lateral motion) คําตอบ 2 : หาความถี่ธรรมชาติ (natural frequency) ของการเคลื่อนที่แบบหมุน (rolling motion) คําตอบ 3 : หาคา Lp คําตอบ 4 : หาคาเวลาคงตัว (time constant) ของการเคลื่อนที่แบบหมุน (rolling motion)

ขอที่ : 343 สําหรับระบบอันดับหนึ่ง (first order system) ถารากสมการคุณลักษณะ (characteristics roots (poles)) มีคาเปนบวกมากแสดงวา

คําตอบ 1 : ระบบจะลูออกเร็วมาก คําตอบ 2 : ระบบจะลูเขาเร็วมาก คําตอบ 3 : ระบบจะลูเขาชามาก คําตอบ 4 : ระบบจะลูออกชามาก

ขอที่ : 344 พิจารณาการทดลองในอุโมงคลม การเคลื่อนที่แบบใดจําลองในอุโมงคลมไมได หรือไดยากที่สุด

คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่แบบสาย (Yawing Motion) คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่แบบหมุน (Rolling Motion) คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่แบบดัทชโรลล (Dutch Roll Motion) คําตอบ 4 : การเคลื่อนที่แบบชอรตพีเรียด (Short Period Motion)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

115 of 145

Page 116: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 345

ขอใดกลาวถูกตองที่สุดสําหรับเครื่องบินที่มีเวลาของขนาดการรบกวนการเคลื่อนที่เพิ่มเปนสองเทา (time to double amplitude) ของการเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (spiral) เทากับ 1 วินาที

คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (spiral mode) ไรเสถียรภาพ คําตอบ 2 : ไรเสถียรภาพสถิตแนวแกนทิศทาง (directional static stability) คําตอบ 3 : คุณภาพการบินที่ระดับ 1 (Level 1) คําตอบ 4 : คุณภาพการบินที่ระดับ 2 (Level 2)

ขอที่ : 346 ตัวตรวจวัด (sensor) ขอใดสําคัญที่สุดสําหรับตัวควบคุมอัตโนมัติ (autopilot controller) ที่ใชในการควบคุมทาทางการหมุนของเครื่องบิน

คําตอบ 1 : อัลติมิเตอร (altimeter) คําตอบ 2 : ปโตตทิวบ (pitot tube) คําตอบ 3 : ไจโรสโคป (gyroscope) คําตอบ 4 : หางเสือขึ้นลง (elevator)

ขอที่ : 347 ขอใดตอไปนี้แสดงใหเห็นวาผูพูดไมมีความรูที่ถูกตองทางพลวัตของอากาศยาน (aircraft dynamics) มากที่สุด

คําตอบ 1 : อัตราสวนความหนวง (damping ratio) ของการเคลื่อนที่แบบหมุน (rolling motion) ตองมากกวา 0.5 เครื่องบินถึงปลอดภัยพอที่จะบินได คําตอบ 2 : อัตราสวนความหนวง (damping ratio) ของการเคลื่อนที่แบบฟูกอยด (phugoid mode) มีผลกระทบตอคุณภาพการบิน (flying qualities) คําตอบ 3 : ถา อัตราสวนความหนวง (damping ratio)ของการเคลื่อนที่แบบดัทชโรลล (dutch roll mode) เทากับ 0.7 จะถือวาดีมาก

คําตอบ 4 : อัตราสวนความหนวง (damping ratio) ของการเคลื่อนที่แบบสาย (yawing motion )ขึ้นอยูกับ Nr

ขอที่ : 348 การกระทําในขอใดตอไปนี้ไมไดชวยปรับปรุงคุณภาพการบิน (flying qualities)

คําตอบ 1 : เพิ่มขนาดของ Mq

คําตอบ 2 : เพิ่มขนาดของ Lp

คําตอบ 3 : ลดความถี่ธรรมชาติ (natural frequency) ของการเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (spiral mode) คําตอบ 4 : เพิ่มอัตราสวนความหนวง (damping ratio) ของการเคลื่อนที่แบบชอรตพีเรียด (short period mode)

ขอที่ : 349 เครื่องบินขอใดตอไปนี้มีโอกาสที่จะมีเสถียรภาพสถิต(static stable) แตไมมีเสถียรภาพพลวัต (dynamic stable) ในแนวแกนตามยาว (Longitudinal axis) สูงที่สุด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

116 of 145

Page 117: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : คําตอบ 2 : คําตอบ 3 : คําตอบ 4 :

ขอที่ : 350 คาอัตราสวนแรงยกตอแรงตาน (Lift Drag ratio) สงผลโดยตรงตอตัวแปรในขอใด

คําตอบ 1 : คาเวลาคงตัว (Time constant) ของการเคลื่อนที่แบบหมุน (rolling motion) คําตอบ 2 : อัตราสวนความหนวง (Damping ratio) ของการเคลื่อนที่แบบฟูกอยด (phugoid mode) คําตอบ 3 : อัตราสวนความหนวง (Damping ratio) ของการเคลื่อนที่แบบสายรอบแกน z (pure Yawing Motion) คําตอบ 4 : การลูเขาของการเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (spiral mode)

ขอที่ : 351 อนุพันธทางเสถียรภาพ (Stability derivatives) ในขอใดมีความเปนไปไดวาจะมีขนาดมากที่สุด

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 352 อนุพันธทางเสถียรภาพ (Stability derivatives) ในขอใดมักมีคาเปนบวกสําหรับเครื่องบินโดยทั่วไป

คําตอบ 1 : Lpคําตอบ 2 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

117 of 145

Page 118: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 353 ตัวแปรขอใดไมสงผลกระทบกับเสถียรภาพสําหรับการประมาณรูปแบบการเคลื่อนที่แบบดัทชโรลล (dutch roll mode approximation)

คําตอบ 1 : เสถียรภาพสถิตแนวแกนทิศทาง (static directional stability) คําตอบ 2 : ขนาดของหางเสือเลี้ยว (rudder) คําตอบ 3 : โมเมนตเฉื่อยรอบแกน z (Iz)

คําตอบ 4 : เสถียรภาพสถิตแนวแกนทางขวาง (static roll stability)

ขอที่ : 354

การทดลองในอุโมงคลมเพื่อจําลองการเคลื่อนที่แบหมุน (pure rolling motion) ครั้งแรกปกเล็กเอียง (ailerons) ถูกปรับไป 5 องศา ครั้งที่ 2 ปกเล็กเอียง (ailerons) ถูกปรับไป 10 องศา ขอใดคือความแตกตางระหวางครั้งแรกและครั้งที่ 2คําตอบ 1 : เวลาคงตัว (Time constant) ตางไป ครั้งที่ 2 จะเร็วกวาครั้งที่ 1 คําตอบ 2 : เวลาคงตัว (Time constant) ตางไป ครั้งที่ 1 จะชากวาครั้งที่ 2 คําตอบ 3 : ขนาดของอัตราการหมุนสภาวะคงที ่(steady state roll rate) จะสูงขึ้น คําตอบ 4 : ขนาดของอัตราการหมุนสภาวะคงที่ (steady state roll rate)และ เวลาคงตัว (Time constant) ของครั้งที่ 2 จะสูงกวาและเร็วกวาครั้งที่ 1

ขอที่ : 355

ในการเคลื่อนที่แบบหมุนรอบแกน x (pure rolling motion) ซึ่งพิจารณาการเปลี่ยนแปลงของอัตราการหมุน (roll rate, p) เมื่อมีการกระดกปกเล็กเอียง (ailerons) ถาเครื่องบินที่มี อนุพันธทางเสถียรภาพ (stability derivatives Lp) ต่ําแลวเราสรุปไดวาคําตอบ 1 : คาเวลาคงตัว (time constant) สูง คําตอบ 2 : คาเวลาคงตัว (time constant) ต่ํา คําตอบ 3 : คาความถี่ธรรมชาติ (natural frequency) ต่ํา คําตอบ 4 : คาความถี่ธรรมชาติ (natural frequency) สูง

ขอที่ : 356 ขอใดสงผลตอเวลาคงตัว (time constant) ของการเคลื่อนที่แบบหมุนรอบแกน x (pure rolling)

คําตอบ 1 : อนุพันธของโมเมนตหมุน (roll moment) เทียบกับอัตราการหมุน (roll rate) คําตอบ 2 : อนุพันธของโมเมนตหมุน (roll moment) เทียบกับมุมปดปกเล็กเอียง (ailerons angle)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

118 of 145

Page 119: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : มุมปดปกเล็กเอียง (ailerons angle) คําตอบ 4 : มุมแฉลบ (sideslip angle)

ขอที่ : 357 วิงร็อค (Wing rock) จะมีโอกาสเกิดขึ้นกับเครื่องบินชนิดใดมากที่สุด

คําตอบ 1 : Cessna 172 คําตอบ 2 : UAV (Unmanned Aerial Vehicle) คําตอบ 3 : Boeing 727 คําตอบ 4 : Concord

ขอที่ : 358 ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (spiral mode)

คําตอบ 1 : สามารถจําลองโดยใชแบบจําลองอันดับหนึ่ง (first order model) คําตอบ 2 : ชาที่สุดเมื่อเทียบกับรูปแบบการเคลื่อนที่อื่น ๆ สําหรับพลวัตแนวแกนทางขวาง (lateral dynamics) คําตอบ 3 : ตองพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงของความเร็วในแนวแกน z ของ กรอบอางอิงลําตัว (body frame) คําตอบ 4 : ตองพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราการสาย (yaw rate)

ขอที่ : 359 ตัวแปรในขอใดไมสงผลกระทบตอรูปแบบการเคลื่อนที่แบบโรลล (roll mode)

คําตอบ 1 : Lp

คําตอบ 2 : Iz

คําตอบ 3 : แปลนปก (Wing platform) คําตอบ 4 : Ix

ขอที่ : 360

การเคลื่อนที่แบบใดตอไปนี้ ที่ไมไดรับผลกระทบเนื่องจากตัวหนวงการสาย (yaw damper, Nr)

คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่ดัทชโรลล (dutch roll) คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่แบบหมุน (pure rolling) คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (spiral) คําตอบ 4 : การเคลื่อนที่แบบสาย (pure yawing)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

119 of 145

Page 120: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 361

รากสมการคุณลักษณะ (Characteristics roots (poles)) ของ พลวัตแนวแกนทางขวาง (lateral dynamics) เทากับ -0.01, -10, -1+5j, -1-5j จงหาความถี่ของการสั่นของการเคลื่อนที่แบบดัทชโรลล (dutch roll mode)คําตอบ 1 : 100 rad/s คําตอบ 2 : 10 rad/s คําตอบ 3 : 1 rad/s คําตอบ 4 : 5 rad/s

ขอที่ : 362 ถาเครื่องบินมีเวลาคงตัว (time constant) ของการเคลื่อนที่แบบหมุน (rolling mode) สูงมากแสดงวา

คําตอบ 1 : เครื่องบินจะใชเวลานานในการกลับคืนสูสภาวะเดิมหลังจากถูกรบกวนทางการหมุน (roll) คําตอบ 2 : เครื่องบินไรเสถียรภาพทางการหมุน (roll) คําตอบ 3 : เครื่องบินสามารถคงสภาวะของการเคลื่อนที่แบบหมุน (pure rolling)ไดเปนเวลานานโดยไมมีผลทางการสาย (yaw) คําตอบ 4 : เครื่องบินสามารถอยูในสภาวะสมดุลไดเปนเวลานาน

ขอที่ : 363 ระบบตัวหนวงการสาย (Yaw damper system) ถูกใชในเครื่องบินเพื่ออะไร

คําตอบ 1 : เพิ่มขนาดของ เพื่อเพิ่มเสถียรภาพสถิตแนวแกนทิศทาง (directional static stability) คําตอบ 2 : ลดขนาดของ เพื่อเพิ่มเสถียรภาพสถิตแนวแกนทิศทาง (directional static stability) คําตอบ 3 : เพิ่มขนาดของ เพื่อเพิ่มอัตราสวนความหนวง (damping ratio) ในการเคลื่อนที่แบบดัทชโรลล (dutch roll mode) คําตอบ 4 : เพิ่มขนาดของ เพื่อเพิ่มอัตราสวนความหนวง (damping ratio)ในการเคลื่อนที่แบบดัทชโรลล (dutch roll mode)

ขอที่ : 364 พิจารณาอัตราหนวงการสาย (Yaw rate damping, Nr) ซึ่งมักจะมีคาเปนลบสําหรับเครื่องบินทั่วไป ถาขนาดของ Nr สูงขึ้นแลว

คําตอบ 1 : จะสงผลเสียตอเสถียรภาพของการเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (spiral mode) คําตอบ 2 : จะเพิ่มอัตราสวนความหนวง (damping ratio) ของการเคลื่อนที่แบบสาย (pure yawing motion) คําตอบ 3 : เครื่องบินจะมีเสถียรภาพสถิตแนวแกนทางขวาง (lateral staic stable) คําตอบ 4 : เครื่องบินจะมีเสถียรภาพพลวัตแนวแกนทางขวาง (lateral dynamically stable)

ขอที่ : 365 ถาคาของอนุพันธของโมเมนตสาย (yaw moment) เทียบกับ มุมแฉลบ (sideslip angle) มีคาเปนบวกมากขึ้นแลว

คําตอบ 1 : เครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตแนวแกนทิศทาง (directional static stability) นอยลง คําตอบ 2 : สงผลทางลบกับเสถียรภาพของการเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (Spiral mode)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

120 of 145

Page 121: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : สงผลทางลบกับเสถียรภาพของการเคลื่อนที่แบบโรลล (roll mode) คําตอบ 4 : สงผลทางบวกกับเสถียรภาพของการเคลื่อนที่แบบสไปรอลล (Spiral mode)

ขอที่ : 366 ถาเครื่องบินมีเสถียรภาพสถิตแนวแกนทางขวาง (Static Lateral stability) ที่ดีมาก ๆ แลว ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง

คําตอบ 1 : คาอนุพันธทางเสถียรภาพ (Stability Derivative) ของโมเมนตหมุน (Roll moment) เทียบรตอมุมแฉลบ (Sideslip Angle) มีคาเปนลบมาก คําตอบ 2 : เสถียรภาพพลวัต (Dynamic stability) ทางการหมุน (Rolling mode) จะดีขึ้น คําตอบ 3 : เสถียรภาพพลวัต (Dynamic stability)ทางดัทชโรลล (Dutch roll) จะดีขึ้น คําตอบ 4 : เสถียรภาพพลวัต (Dynamic stability)ทางสไปรอลล (Spiral mode) จะดีขึ้น

ขอที่ : 367 ขอใดตอไปนี้กลาวถูกตองเกี่ยวกับพลวัตของอากาศยานแนวแกนตามยาว (longitudinal dynamics)

คําตอบ 1 : สามารถประมาณดวยสมการอันดับหนึ่ง (first order) และอันดับสอง (second order) คําตอบ 2 : แบงออกเปน 3 รูปแบบการตอบสนอง คือ ฟูกอยด (mode phugoid) , ลองพีเรียด (long period) และ ชอรตพีเรียด (short period mode) คําตอบ 3 : เกี่ยวของกับอัตราการปกเงย (Pitching rate), ความเร็วในแกน x , ความเร็วแกน y และมุมปกเงย (Pitch angle) คําตอบ 4 : มี 2 องศาอิสระในการเคลื่อนที่ (degree of freedom)

ขอที่ : 368 ระบบสมการอันดับสอง (second order)ในขอใดตอไปนี้ มีเสถียรภาพแบบพลวัต (dynamically stable)

คําตอบ 1 : อัตราสวนความหนวง (damping ratio = -0.7) และความถี่ธรรมชาติ (natural frequency = 15 rad/s) คําตอบ 2 : อัตราสวนความหนวง (damping ratio = 0.7) คําตอบ 3 : อัตราสวนความหนวง (damping ratio = 0) คําตอบ 4 : อัตราสวนความหนวง (damping ratio = -0.7) และความถี่ธรรมชาติ (natural frequency = 6 rad/s)

ขอที่ : 369

พิจารณาระบบสมการอันดับสอง (second order system) กําหนดให ความถี่ธรรมชาติ (natural frequency = 2 rad/s)และอัตราสวนความหนวง (damping ratio = 1) จงหาความถี่ของการตอบสนอง (damped natural frequency)คําตอบ 1 : 0 rad/s คําตอบ 2 : 1 rad/s คําตอบ 3 : 2 rad/s คําตอบ 4 : 4 rad/s

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

121 of 145

Page 122: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 370 เวลาที่ขนาดการรบกวนการเคลื่อนที่ลดลงครึ่งหนึ่ง (Time to half) คืออะไรและสําคัญอยางไร

คําตอบ 1 : เวลาครึ่งหนึ่งของคาบ บอกถึงความถี่ในการสั่น คําตอบ 2 : เวลาที่แอมปลิจูด (amplitude) ของขอบเขตการตอบสนอง (envelope) ลดลงครึ่งหนึ่ง บอกวาระบบลูเขาเร็วแคไหน คําตอบ 3 : เวลาที่แอมปลิจูด (amplitude) ของครึ่งหนึ่งของแอมปลิจูด (amplitude) ของอินพุท (input) บอกถึงระบบลูเขาเร็วแคไหน คําตอบ 4 : เวลาครึ่งหนึ่งของคาบ บอกถึงระบบลูเขาเร็วแคไหน

ขอที่ : 371

ไอเก็นแวยู (Eigenvalues) ของเมตริกซ A ในปริภูมิสเตท (state space form (xdot = Ax+Bu) ) ของพลวัตอากาศยานแนวแกนตามยาว (longitudinal dynamics) ไมไดบงชี้ถึงอะไร

คําตอบ 1 : คาบ (period) ของการตอบสนองแบบชอรตพีเรียด (short period mode) คําตอบ 2 : คาบ (period) ของการตอบสนองแบบฟูกอยด (phugiod mode) คําตอบ 3 : เวลาครึ่งหนึ่ง (time to half) ของการตอบสนองแบบฟูกอยด (phugoid) และการตอบสนองแบบชอรตพีเรียด (short period mode) คําตอบ 4 : ความไวของการตอบสนอง (sensitivity) ตอมุมปดหางเสือขึ้นลง (elevator deflection)

ขอที่ : 372 ขอใดมีผลตออัตราสวนความหนวง (Damping Ratio) ของอากาศยาน

คําตอบ 1 : เสถียรภาพพลวัต (Dynamic Stability) คําตอบ 2 : เสถียรภาพสถิต (Static Stability) คําตอบ 3 : ความหนวงทางอากาศพลศาสตร (Aerodynamic Damping) คําตอบ 4 : ถูกเฉพาะขอ ข และ ค

ขอที่ : 373 การประมาณคาการตอบสนองแบบลองพีเรียด (Long-Period Mode) กระทําไดโดยจะตองตั้งสมมุติฐานอะไร

คําตอบ 1 : คาทั้งหมดขึ้นอยูกับหางเสือขึ้นลง (Elevator) คําตอบ 2 : ไมตองคิดคาโมเมนตปกเงย (Pitching Moment) คําตอบ 3 : การเปลี่ยนแปลงของมุมปะทะเทากับศูนย คําตอบ 4 : ถูกเฉพาะขอ ข และ ค

ขอที่ : 374 การประมาณคาการตอบสนองแบบชอรทพีเรียด (Short-Period Mode) กระทําไดโดยจะตองตั้งสมมุติฐานอะไร

คําตอบ 1 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

122 of 145

Page 123: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : ตัดคาแรงในแนวแกน X ทิ้ง

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 375 การเคลื่อนที่แบบฟูกอยด (Phugoid) มีชื่อเรียกอีกอยางหนึ่งวาอะไร

คําตอบ 1 : ชอรตพีเรียด (Short-Period) คําตอบ 2 : ลองพีเรียด (Long-Period) คําตอบ 3 : วิงร็อค (Wing Rock) คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ

ขอที่ : 376

คาไอเก็นเวยู (Eigenvalue) ของอากาศยานลําหนึ่งในการเคลื่อนที่ในแนวแกนยาวเทากับ

และ

จากคําตอบคาใดแสดงคุณลักษณะการเคลื่อนที่แบบชอรตพีเรียต (short-Period)

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 377

คาไอเก็นเวยู (Eigenvalue) ของอากาศยานลําหนึ่งในการเคลื่อนที่ในแนวแกนยาวเทากับ

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

123 of 145

Page 124: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

และ

จากคําตอบคาใดแสดงคุณลักษณะการเคลื่อนที่แบบฟูกอยด (Long-Period)

คําตอบ 1 :

คําตอบ 2 :

คําตอบ 3 :

คําตอบ 4 :

ขอที่ : 378

คาไอเก็นเวยู (Eigenvalue) ของอากาศยานลําหนึ่งในการเคลื่อนที่ในแนวแกนยาวเทากับ

และ

จากคําตอบคาบเวลาในการเคลื่อนที่แบบฟูกอยด (Phugiod) มีคาเทาใด คําตอบ 1 : 25.3 วินาที คําตอบ 2 : 27.4 วินาที คําตอบ 3 : 29.5 วินาท ีคําตอบ 4 : 35.7 วินาที

ขอที่ : 379

คาไอเก็นเวยู (Eigenvalue) ของอากาศยานลําหนึ่งในการเคลื่อนที่ในแนวแกนยาวเทากับ

และ

จากคําตอบคาบเวลาในการเคลื่อนที่แบบชอรตพีเรียต (short-Period) มีคาเทาใด คําตอบ 1 : 1.73 วินาที คําตอบ 2 : 2.42 วินาท ีคําตอบ 3 : 3.13 วินาที คําตอบ 4 : 4.27 วินาที

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

124 of 145

Page 125: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 380 ขอใดตอไปนี้ที่สามารถแสดงใหอยูในรูปของสัมประสิทธิ์ทางเสถียรภาพ (Stability Coefficient) ได

คําตอบ 1 : ความเร็วในการเคลื่อนที่ คําตอบ 2 : ความเร็วเชิงมุม คําตอบ 3 : มุมที่พื้นบังคับขยับไป คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 381 อนุพันธทางเสถียรภาพ (Stability Derivative) กับสัมประสิทธิ์ทางเสถียรภาพ (Stability Coefficient) แตกตางกันอยางไร

คําตอบ 1 : อนุพันธทางเสถียรภาพ (Stability Derivative) เปรียบเทียบกับเวลา คําตอบ 2 : สัมประสิทธิ์ทางเสถียรภาพ (Stability Coefficient) เปรียบเทียบกับคาเริ่มตน คําตอบ 3 : อนุพันธทางเสถียรภาพ (Stability Derivative) มีหนวย คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 382 ขอใดตอไปนี้ที่ไมแปรผันตามความเร็วในการเคลื่อนที่ไปขางหนาของอากาศยาน

คําตอบ 1 : โมเมนตปกเงย (Pitching Moment) คําตอบ 2 : โมเมนตสาย (Yawing Moment) คําตอบ 3 : แรงตาน (Drag) คําตอบ 4 : แรงยก (Lift)

ขอที่ : 383 แรงในขอใดตอไปนี้ที่กระทําตามแนวแกนตามยาว (Longitudinal Axis) ของอากาศยาน

คําตอบ 1 : น้ําหนัก คําตอบ 2 : แรงยก (Lift) คําตอบ 3 : ไมมีขอถูก คําตอบ 4 : แรงตาน (Drag)

ขอที่ : 384 สัมประสิทธิ์โมเมนตจะไดรับผลกระทบจากคุณสมบัติความยืดหยุนของโครงสรางอากาศยาน (Air Frame) เมื่อใด

คําตอบ 1 : อากาศยานลงจอดดวยแรงกระแทก

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

125 of 145

Page 126: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : อากาศยานไตดวยมุมปะทะมากๆ คําตอบ 3 : อากาศยานบินดวยความเร็วสูง คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 385 ขอใดตอไปนี้ไมใชชนิดการเคลื่อนที่ของระบบพลวัต

คําตอบ 1 : โอเวอรแดมป (Overdamped) คําตอบ 2 : อันเดอรแดมป (Underdamped) คําตอบ 3 : คริติคอลลิแดมป (Critically Damped) คําตอบ 4 : นิวทอรลแดมป (Neutral Damped)

ขอที่ : 386 ขอใดถูกตองเกี่ยวกับ เสถียรภาพพลวัตแนวแกนตามขวาง (lateral dynamics) ของเครื่องบิน

คําตอบ 1 : มี 3 รูปแบบ โรลล (roll), สาย (yaw), ดัทชโรลล (dutch roll) คําตอบ 2 : มี 3 รูปแบบ โรลล (roll), สไปรอลล (spiral), ดัทชโรลล (dutch roll) คําตอบ 3 : มี 2 รูปแบบ โรลล (roll), สาย (yaw) คําตอบ 4 : มี 2 รูปแบบ โรลล (roll), ดัทชโรลล (dutch roll)

ขอที่ : 387 ขอใดถูกตองเกี่ยวกับรูปแบบการเคลื่อนที่แบบดัทชโรลล (dutch roll mode)

คําตอบ 1 : เวลาคงตัว (time constant) ต่ํามาก คําตอบ 2 : เปนรูปแบบการเคลื่อนที่ซึ่งมีการคาบเกี่ยวระหวางแนวแกนทางขวาง (lateral) และแนวแกนตามยาว (longitudinal) คําตอบ 3 : เปนรูปแบบการเคลื่อนที่ซึ่งประกอบดวยการหมุน (roll) และการสาย (yaw) คําตอบ 4 : พิจารณาเฉพาะการหมุน (yaw motion) ของอากาศยาน

ขอที่ : 388 ในการเคลื่อนที่แบบสายรอบแกน z (pure yawing motion) ขอใดถูกตอง

คําตอบ 1 : เปนระบบอันดับหนึ่ง (first order system) คําตอบ 2 : เทียบเทากับการตอบสนองแบบสไปรอลล (spiral mode) คําตอบ 3 : มุมสาย (Yaw angle) เทากับมุมแฉลบ (sideslip angle) คําตอบ 4 : พิจารณาทั้งปกเล็กเอียง (ailerons) และหางเสือเลี้ยว (rudder) เปนพื้นผิวควบคุม

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

126 of 145

Page 127: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 389 ตัวแปรในขอใดไมสงผลตอพลวัตของอากาศยานแนวแกนทางขวาง (lateral dynamics)

คําตอบ 1 : อัตราการหมุน (roll rate) คําตอบ 2 : ความเร็วในแนวแกน z คําตอบ 3 : มุมสาย (yaw angle) คําตอบ 4 : มุมกระดกปกเล็กเอียง (ailerons deflection)

ขอที่ : 390 ตัวแปรขอใดไมเกี่ยวของการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตหมุน (roll moment) เทียบกับอัตราการหมุน (roll rate (Lp))

คําตอบ 1 : ระยะทางจากแพนหางระดับมายังปกในแนวแกนลําตัว คําตอบ 2 : ขนาดของปก คําตอบ 3 : รูปรางของปก คําตอบ 4 : แพนอากาศ (Airfoil)

ขอที่ : 391 ผลกระทบรวม (Coupled Effects) ในขอใดที่อันตรายมากที่สุด

คําตอบ 1 : สไปรอลลไดเวอรเจนซ (Spiral Divergence) คําตอบ 2 : ไดเรคชั่นนอลไดเวอรเจนซ (Directional Divergence) คําตอบ 3 : ดัทชโรลล (Dutch Roll) คําตอบ 4 : รวงหลน (Stall)

ขอที่ : 392 การวางเครื่องยนตมากกวาหนึ่งเครื่องไวขางหลังจุดศูนยถวงของอากาศยานมีผลกระทบตอเสถียรภาพในขอใด

คําตอบ 1 : เสถียรภาพสถิตในการปกเงย (Static Pitch Stability) คําตอบ 2 : เสถียรภาพสถิตในการหมุน (Static Roll Stability) คําตอบ 3 : เสถียรภาพสถิตในการสาย (Static Yaw Stability) คําตอบ 4 : เสถียรภาพสถิตในการปกเงย (Pitch) และการสาย (Yaw)

ขอที่ : 393 แอดเวอรสยอว (Adverse Yaw) เปนปญหาที่เกี่ยวของกับเสถียรภาพของอากาศยานในขอใด

คําตอบ 1 : เสถียรภาพแนวแกนทิศทาง (Directional Stability) คําตอบ 2 : เสถียรภาพแนวแกนทางขวาง (Roll Stability)

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

127 of 145

Page 128: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : เสถียรภาพการปกเงย (Pitch Stability) คําตอบ 4 : เสถียรภาพแนวแกนทิศทาง (Directional) และทางขวาง (Roll)

ขอที่ : 394 กระแสอากาศวน (Slipstream Rotation) เกิดขึ้นกับอากาศยานชนิดใด

คําตอบ 1 : เครื่องบินรบซึ่งขับเคลื่อนดวยเครื่องยนตกังหันใบพัด (Turbofan Fighter Aircraft) คําตอบ 2 : เครื่องบินรบซึ่งขับเคลื่อนดวยเครื่องยนตไอพน (Turbojet Fighter Aircraft) คําตอบ 3 : เครื่องบินซึ่งขับเคลื่อนดวยเครื่องยนตลูกสูบใบพัดหนึ่งเครื่องยนต(Single-engine Propeller Aircraft) คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก

ขอที่ : 395 สภาวะการบินในขอใดที่ไมเกี่ยวของกับการบังคับควบคุมอากาศยานแนวแกนทิศทาง (Directional Control)

คําตอบ 1 : การวิ่งขึ้นและลงจอดสวนลม (Head Wind Take Off And Landing) คําตอบ 2 : การแกอาการควงสวาน (Spin Recovery) คําตอบ 3 : แอดเวอรสยอว (Adverse Yaw) คําตอบ 4 : การไมสมดุลของแรงขับ (Asymmetrical Thrust)

ขอที่ : 396 ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับการสาย (Yawing) ของอากาศยาน

คําตอบ 1 : การสาย (Yawing) ทางขวา ปกขวามีแรงยกมากกวาปกซาย คําตอบ 2 : การสาย (Yawing) ทางซาย ปกซายมีแรงยกนอยกวาปกขวา คําตอบ 3 : การสาย (Yawing) ปกทั้งสองขางมีแรงยกเทากัน คําตอบ 4 : การสาย (Yawing) ทางซายและขวา ทําใหแรงยกของปกทั้งสองขางลดลง

ขอที่ : 397 ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับมุมยกของปกกับเสถียรภาพสถิถแนวแกนทางขวาง (Static Lateral Stability)

คําตอบ 1 : การหมุน (Rolling) ทางขวา มุมปะทะที่ปกขวามากกวาปกซาย คําตอบ 2 : การหมุน (Rolling) ทางซาย มุมปะทะที่ปกซายมากกวาปกขวา คําตอบ 3 : การหมุน (Rolling) ทางขวา แรงยกที่ปกขวานอยกวาปกซาย คําตอบ 4 : การหมุน (Rolling) ทางซาย แรงยกที่ปกซายมากกวาปกขวา

ขอที่ : 398

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

128 of 145

Page 129: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอใดตอไปนี้มีผลกระทบตอเสถียรภาพสถิตแนวแกนทางขวาง (Static Lateral Stability) คําตอบ 1 : มุมยกปก (Wing Dihedral) คําตอบ 2 : มุมลูปก (Wing Sweepback) คําตอบ 3 : แพนหางดิ่ง (Vertical Tail) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 399 ขอใดตอไปนี้กลาวไดถูกตองเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบดัทชโรลล (Dutch Roll)

คําตอบ 1 : เกิดขึ้นเมื่อมุมยกของปกมีผลกระทบตออากาศยานมากเมื่อเปรียบเทียบกับเสถียรภาพแนวแกนทิศทาง (Directional Stability) คําตอบ 2 : เกิดขึ้นเมื่อเสถียรภาพแนวแกนทิศทาง (Directional Stability) มีผลกระทบตออากาศยานมากเมื่อเปรียบเทียบกับเสถียรภาพแนวแกนทางขวาง (Lateral Stability) คําตอบ 3 : เกิดขึ้นจากอากาศยานไรเสถียรภาพแนวแกนทิศทาง (Negative Directional Stability) คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 400 ขอใดไมเกี่ยวของกับการตอบสนองแบบไดเรคชั่นนอลไดเวอรเจนซ (Directional Divergence)

คําตอบ 1 : เปนผลจากอากาศยานไรเสถียรภาพทางทิศทาง (Negative Directional Stability) คําตอบ 2 : อากาศยานเกิดการแฉลบ (Sideslip) หลังจากถูกรบกวน คําตอบ 3 : อากาศยานเกิดการปกเงย (Pitch) พรอมกับการสาย (Yaw) คําตอบ 4 : อากาศยานเกิดการหมุน (Roll) หรือการสาย (Yaw)

ขอที่ : 401 ขอใดตอไปนี้ไมเกี่ยวของกับการบังคับควบคุมอากาศยานในแนวแกนทางขวาง (Lateral Control)

คําตอบ 1 : ความแตกตางของแรงยกบนปกแตละขาง คําตอบ 2 : ปกเล็กเอียง (Ailerons) หรือสปอยเลอรส (Spoilers) คําตอบ 3 : เอเลวอน (Elevon) หรือ ไอเลอรเวเตอร (Ailevator) คําตอบ 4 : เฮดวินด (Headwind) หรือเทลวินด (Tailwind)

ขอที่ : 402 ในการบินตรงระดับดวยความเร็วคงที่ 100 เมตร/วินาที โดยมีแรงขับ 50 กิโลนิวตัน จงหาวาอากาศยานลํานี้ใชกําลังขับเทาไร

คําตอบ 1 : 50 กิโลวัตต คําตอบ 2 : 5,000 กิโลวัตต คําตอบ 3 : 50 วัตต

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

129 of 145

Page 130: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : 5,000 วัตต

ขอที่ : 403 อากาศยานลําหนึ่งกําลังบินตรงระดับ หากวาน้ําหนักของอากาศานลดลง ความเร็วของอากาศยานจะเปนอยางไร โดยความสูงในการบินคงที่ และมุมปะทะเทาเดิม

คําตอบ 1 : ลดลง คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : เทาเดิม คําตอบ 4 : เพิ่มขึ้นสักพักแลวลดลง

ขอที่ : 404 อากาศยานลําหนึ่งกําลังบินตรงระดับ จากนั้นทําการลดพื้นที่ปกลง ความเร็วของอากศยานจะเปนอยางไร หากวาความสูงในการบิน นําหนัก และมุมปะทะคงที่

คําตอบ 1 : ลดลง คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : คงที่ คําตอบ 4 : เพิ่มขึ้นสักพักแลวลดลง

ขอที่ : 405 ในการบินตรงระดับหากวาความสูงในการบินเพิ่มขึ้น โดยใหพื้นที่ปก มุมปะทะ และน้ําหนักของอากาศยานคงที่ จะสงผลตอความเร็วอยางไร

คําตอบ 1 : ลดลง คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : เทาเดิม คําตอบ 4 : ลดลงสักพักแลวเพิ่มขึ้น

ขอที่ : 406 อากาศยานลําหนึ่งกําลังรอนดวยอัตรา L/D = 10 โดยเริ่มรอนลงที่ความสูง 2 กิโลเมตร จงหาวาอากาศยานลํานี้จะรอนไดระยะทางเทาไร

คําตอบ 1 : 2 กิโลเมตร คําตอบ 2 : 5 กิโลเมตร คําตอบ 3 : 10 กิโลเมตร คําตอบ 4 : 20 กิโลเมตร

ขอที่ : 407 อากาศยานลําหนึ่งกําลังบินไตระดับดวยแรงขับ 12 กิโลนิวตัน โดยในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนัก 5,500 กิโลกรัม และแรงตาน 5 กิโลนิวตัน

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

130 of 145

Page 131: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : 7.45 องศา คําตอบ 2 : 1.22 องศา คําตอบ 3 : 0.129 องศา คําตอบ 4 : 1.27 องศา

ขอที่ : 408

อากาศยานลําหนึ่งกําลังบินไตระดับดวยแรงขับ 12 กิโลนิวตัน โดยในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนัก 5,500 กิโลกรัม และแรงตาน 5 กิโลนิวตัน จงหาวาอากาศยานจะบินไตดวยมุมไตเทาไร

คําตอบ 1 : 7.45 องศา คําตอบ 2 : 0.745 องศา คําตอบ 3 : 0.129 องศา คําตอบ 4 : 1.27 องศา

ขอที่ : 409

อากาศยานลําหนึ่งกําลังบินไตระดับดวยแรงขับ 12 กิโลนิวตัน และมีความเร็ว 10 เมตร/วินาที โดยในขณะนั้นอากาศยานมีน้ําหนัก 5,500 กิโลกรัม และแรงตาน 5 กิโลนิวตัน จงหาวาอากาศยานจะมีอัตราไตเทาไรคําตอบ 1 : 74.5 เมตร/วินาที คําตอบ 2 : 7.45 เมตร/วินาที คําตอบ 3 : 1.29 เมตร/วินาที คําตอบ 4 : 12.7 เมตร/วินาที

ขอที่ : 410

อากาศยานประเภทลูกสูบใบพัดลําหนึ่งกําลังบินเดินทางใหไดเวลาการบินนานที่สุด จงหาวานักบินตองบินดวยความเร็วเทาไร โดยมีขอมูลประกอบดังนี ้

m = 3,500 kg S = 18 m2 = 1.15 kg/m3

คําตอบ 1 : 24.6 เมตร/วินาที คําตอบ 2 : 42.6 เมตร/วินาที คําตอบ 3 : 7.85 เมตร/วินาที คําตอบ 4 : 13.6 เมตร/วินาที

ขอที่ : 411

อากาศยานประเภทเครื่องยนตเจ็ตลําหนึ่งกําลังบินเดินทางใหไดเวลาการบินนานที่สุด จงหาวานักบินตองบินดวยความเร็วเทาไร โดยมีขอมูลประกอบดังนี้

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

131 of 145

Page 132: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

m = 3,500 kg S = 18 m2 = 1.15 kg/m3 คําตอบ 1 : 24.6 เมตร/วินาที คําตอบ 2 : 32.38 เมตร/วินาที คําตอบ 3 : 7.85 เมตร/วินาที คําตอบ 4 : 10.34 เมตร/วินาที

ขอที่ : 412 ความเร็วรวงหลนในการบินเลี้ยวจะมีคา.............เมื่อเทียบกับความเร็วรวงหลนในการบินตรงระดับ

คําตอบ 1 : มากกวา คําตอบ 2 : นอยกวา คําตอบ 3 : เทากัน คําตอบ 4 : มากกวาหรือนอยกวาก็ได

ขอที่ : 413 ในการบินทาทางใหเปนวงตามแนวดิ่ง (vertical loop) ตําแหนงใดในวงที่จะมีคาโหลดแฟกเตอร (load factor) สูงสุด

คําตอบ 1 : ตําแหนงสูงสุดของวง (top) คําตอบ 2 : ตําแหนงดานลางสุดของวง (bottom) คําตอบ 3 : มีคาเทากันทุกตําแหนง คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก

ขอที่ : 414 ความดันพลวัต (dynamic pressure) เปนฟงกชันที่ขึ้นอยูกับ

คําตอบ 1 : ความหนาแนนของอากาศ คําตอบ 2 : ความเร็วของอากาศ คําตอบ 3 : ความหนาแนนและความเร็วของอากาศ คําตอบ 4 : เปนคาคงที่

ขอที่ : 415 หากความสูงในการบินเพิ่มมากขึ้น แรงขับที่สามารถมีได (available thrust) จากเครื่องยนตจะมีคา

คําตอบ 1 : ลดลง คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : คงที่

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

132 of 145

Page 133: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : ลดลงสักพักแลวจะเพิ่มขึ้น

ขอที่ : 416 หากวาอากาศยานมีความสูงในการบินเพิ่มมากขึ้น จะสงผลอยางไรตอคาแรงตานที่นอยที่สุด (minimum drag)

คําตอบ 1 : ลดลง คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : เทาเดิม คําตอบ 4 : ลดลงสักพักแลวเพิ่มขึ้น

ขอที่ : 417 หากวาอากาศยานมีความสูงในการบินเพิ่มมากขึ้น จะสงผลอยางไรตอความเร็วที่ทําใหมีคาแรงตานที่นอยที่สุด (velocity at minimum drag)

คําตอบ 1 : ลดลง คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : เทาเดิม คําตอบ 4 : เพิ่มขึ้นสักพักแลวลดลง

ขอที่ : 418 ขอใดกลาวถึงมุมปะทะ (angle of attack) ไดถูกตอง

คําตอบ 1 : เปนมุมที่กระทําระหวางคอรด (chord) กับความเร็วสัมพัทธ (relative wind) คําตอบ 2 : เปนมุมระหวางความเร็วสัมพัทธ (relative wind) กับแนวเสนขอบฟา (horizon) คําตอบ 3 : เปนมุมระหวางความเร็วสัมพัทธ (relative wind) กับแนวทางเคลื่อนที่ (flight path) คําตอบ 4 : เปนมุมระหวางเสนความโคง (camber line) กับแนวทางการเคลื่อนที่ (flight path)

ขอที่ : 419 ขอใดกลาวถึงมุมไต (climb angle) ไดถูกตอง

คําตอบ 1 : เปนมุมระหวางเสนคอรด (chord) กับแนวทางการเคลื่อนที่ (flight path) คําตอบ 2 : เปนมุมระหวางความเร็วสัมพัทธ (relative wind) กับแนวเสนขอบฟา (horizon) คําตอบ 3 : เปนมุมระหวางความเร็วสัมพัทธ (relative wind) กับแนวทางการเคลื่อนที่ (flight path) คําตอบ 4 : เปนมุมระหวางเสนคอรด (chord) กับแนวเสนขอบฟา (horizon)

ขอที่ : 420 ขอใดถูกตองที่สุดเ มื่อกลาวถึงอากาศยานประเภทลูกสูบใบพัด

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

133 of 145

Page 134: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : แรงขับของอากาศยานจะมีคาคงที่ (ไมขึ้นตรงตอความเร็ว) คําตอบ 2 : แรงขับของอากาศยานแปรผกผันกับความเร็ว คําตอบ 3 : แรงขับของอากาศยานแปรผันตามความเร็ว คําตอบ 4 : แรงขับของอากาศยานแปรผันตามความเร็วกําลังสอง

ขอที่ : 421 ขอใดกลาวไดถูกตองที่สุด สําหรับอากาศยานประเภทเครื่องยนตไอพน (jet engine)

คําตอบ 1 : กําลังขับของอากาศยานมีคาคงที่ (ไมขึ้นตรงกับความเร็ว) คําตอบ 2 : กําลังขับของอากาศยานแปรผกผันกับความเร็ว คําตอบ 3 : กําลังขับของอากาศยานแปรผันตามความเร็ว คําตอบ 4 : กําลังขับของอากาศยานแปรผกผันกับความเร็วกําลังสอง

ขอที่ : 422 ขอใดกลาวไดถูกตองที่สุดเกี่ยวกับการเกิดดัชโรลว (dutch roll)

คําตอบ 1 : อากาศยานมีเสถียรภาพทางขวาง (lateral) มากกวาเสถียรภาพดานทิศทาง (directional) คําตอบ 2 : อากาศยานมีเสถียรภาพทางขวาง (lateral) นอยกวาเสถียรภาพดานทิศทาง (directional) คําตอบ 3 : อากาศยานมีเสถียรภาพทางขวาง (lateral) เทากับเสถียรภาพดานทิศทาง (directional) คําตอบ 4 : อากาศยานไมมีเสถียรภาพทางขวาง (lateral) เลย

ขอที่ : 423 ในการเกิดการเลื่อนที่แบบสไปราลว (spiral) คารากของสมการคุณลักษณะ (root of characteristic equation) ควรมีคาเปนเชนไร

คําตอบ 1 : จํานวนเชิงซอน (complex number) ที่มีเลขจํานวนจริงเปนบวก คําตอบ 2 : จํานวนเชิงซอน (complex number) ที่มีเลขจํานวนจริงเปนลบ คําตอบ 3 : จํานวนจริง (real number) ที่มีคาเปนลบ คําตอบ 4 : จํานวนจริง (real number) ที่มีคาเปนบวก

ขอที่ : 424

หากตองการใหอากาสยานสามารถเคลื่อนที่แบบสปราลว (spiral) มีความเสถียร (stable) จะตองกําหนดใหคา มีคาเปนเทาไร โดยอากาศยานมีขอมูลพื้นฐานดังนี้

คําตอบ 1 : -0.148 คําตอบ 2 : 0.129

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

134 of 145

Page 135: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : 0.148 คําตอบ 4 : -0.129

ขอที่ : 425

หากตองการใหอากาศยานเคลื่อนที่แบบหมุน (roll) โดยมีคาคงของเวลาในการหมุน ( , roll time constant) มีคาเทากับ 0.119 s-1 จะตองแผนแบบใหมีคา เปนเทาไร โดยมีขอมูลประกอบดังนี ้

คําตอบ 1 : 0.363 คําตอบ 2 : -0.363 คําตอบ 3 : 0.186 คําตอบ 4 : -0.186

ขอที่ : 426

จงหาคาความถี่ธรรมชาติที่ไมหนวง (undamped natural frequency, ) ของการเคลื่อนที่แบบฟูกอยด (Phugoid) โดยมีขอมูลประกอบดังนี ้

คําตอบ 1 : 0.1517 s-1 คําตอบ 2 : 0.0484 s-1 คําตอบ 3 : 0.1072 s-1 คําตอบ 4 : 0.00342 s-1

ขอที่ : 427 ในการบินเลี้ยวตรงระดับดวยความเร็วคงที่ ดวยมุมเอียงปก 25 องศา จะเกิดโหลดแฟกเตอร (load factor) เทาใด

คําตอบ 1 : 1.1033 คําตอบ 2 : 0.9063 คําตอบ 3 : 0.4226 คําตอบ 4 : 2.366

ขอที่ : 428

ตัวแปรใดตอไปนี้ไมใชตัวแปรใน Horizontal tail volume ratio

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

135 of 145

Page 136: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : พื้นที่ปก

คําตอบ 2 : พื้นที่หาง

คําตอบ 3 : ระยะระหวางหางกับจุด CG

คําตอบ 4 : Chord ของหาง

ขอที่ : 429

พิจารณาความสัมพันธระหวาง Pitching moment coefficient (Cm

) กับมุมปะทะ (α) สําหรับเครื่องบินลําหนึ่งที่แสดงในรูป ขอใดตอไปนี้กลาวไดถูก

ตอง

คําตอบ 1 : มุม Elevator สําหรับเสนที่ 1 เปนคาเปนบวกมากกวา มุม Elevator สําหรับเสนที่ 2

คําตอบ 2 : มุม Elevator สําหรับเสนที่ 2 เปนคาเปนบวกมากกวา มุม Elevator สําหรับเสนที ่1

คําตอบ 3 : จุด CG สําหรับเสนที่ 1 อยูทางดานหลังมากกวา จุด CG สําหรับเสนที่ 2

คําตอบ 4 : จุด CG สําหรับเสนที่ 2 อยูทางดานหลังมากกวา จุด CG สําหรับเสนที่ 1

ขอที่ : 430

พิจารณาความสัมพันธระหวาง Pitching moment coefficient (Cm

) กับมุมปะทะ (α) สําหรับเครื่องบินลําหนึ่งที่แสดงในรูป ขอใดตอไปนี้กลาวไดถูกตอง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

136 of 145

Page 137: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : ถา a = 0 แลว b > a

คําตอบ 2 : ถา b = 0 แลว a > b

คําตอบ 3 : ถา a < 0 แลว b < a

คําตอบ 4 : ถา a > 0 แลว a > b

ขอที่ : 431

พิจารณาความสัมพันธระหวาง Pitching moment coefficient (Cm

) กับมุมปะทะ (α) สําหรับเครื่องบินลําหนึ่งที่แสดงในรูป ขอใดตอไปนี้กลาวไดถูกตอง

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

137 of 145

Page 138: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 1 : มุม Elevator สําหรับเสนที่ 1 เปนคาเปนบวกมากกวา มุม Elevator สําหรับเสนที่ 2

คําตอบ 2 : มุม Elevator สําหรับเสนที่ 2 เปนคาเปนบวกมากกวา มุม Elevator สําหรับเสนที่ 1

คําตอบ 3 : จุด CG สําหรับเสนที่ 1 อยูทางดานหนามากกวา จุด CG สําหรับเสนที่ 2

คําตอบ 4 : จุด CG สําหรับเสนที่ 2 อยูทางดานหนามากกวา จุด CG สําหรับเสนที่ 1

ขอที่ : 432

พิจารณาความสัมพันธระหวาง Pitching moment coefficient (Cm

) กับมุมปะทะ (α) สําหรับเครื่องบินลําหนึ่งที่แสดงในรูป ขอใดตอไปนี้กลาวไดไมถูกตอง

คําตอบ 1 : มุม αtrim สําหรับเสนที่ 1 มีคามากกวา มุม αtrim สําหรับเสนที่ 2

คําตอบ 2 : เสนที่ 1 มีความสมดุลและเสถียรภาพแบบ longitudinal นอยกวาเสนที่ 2

คําตอบ 3 : มุม Elevator สําหรับเสนที่ 2 เปนคามากกวา มุม Elevator สําหรับเสนที่ 1

คําตอบ 4 : จุด CG สําหรับเสนที่ 1 อยูทางดานหลังมากกวา จุด CG สําหรับเสนที่ 2

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

138 of 145

Page 139: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 433

โดยปกติแลว ประสิทธิภาพของหาง (Tail efficiency) จะมีคาเทาใด

คําตอบ 1 : เทากับ 1

คําตอบ 2 : มากกวา 1

คําตอบ 3 : นอยกวา 1

คําตอบ 4 : นอยมาก (ใกลเคียงกับ 0)

ขอที่ : 434

สําหรับปกอยางเดียว คา โดยปกติจะมีคาเทาใด

คําตอบ 1 : เทากับ 0

คําตอบ 2 : มากกวา 0

คําตอบ 3 : นอยกวา 0

คําตอบ 4 : นอยกวา 0 แตมากกวา -1

ขอที่ : 435

โดยปกติแลว Elevator control power

จะมีคาเทาใด

คําตอบ 1 : เทากับ 0

คําตอบ 2 : มากกวา 0

คําตอบ 3 : นอยกวา 0

คําตอบ 4 : มากกวา 0 แตนอยกวา 1

ขอที่ : 436

มุมปะทะของแพนหางแนวนอนจะมีคาเทากับมุมปะทะของปกก็ตอเมื่อ

คําตอบ 1 : มุมติดตั้ง (Incidence angle) ของปกเทากับ 0

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

139 of 145

Page 140: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 2 : มุมติดตั้ง (Incidence angle) ของแพนหางแนวนอนเทากับ 0

คําตอบ 3 : ไมคิดผลกระทบของ downwash

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 437

เครื่องบินลําหนึ่งมีตําแหนงของจุด CG ที่ 40% chord วัดจาก Trailing edge ไปทางดานหนา และมีคา Static margin เทากับ 0.15 ตําแหนง Neutral point ของเครื่องบินลํานี้จะอยูที่ใด

คําตอบ 1 : 25% chord วัดจาก Trailing edge ไปทางดานหนา

คําตอบ 2 : 25% chord วัดจาก Leading edge ไปทางดานหลัง

คําตอบ 3 : 55% chord วัดจาก Leading edge ไปทางดานหลัง

คําตอบ 4 : 55% chord วัดจาก Trailing edge ไปทางดานหนา

ขอที่ : 438

ความหมายของ Elevator effectiveness คือขอใด

คําตอบ 1 : การเปลี่ยนแปลงคาสัมประสิทธิ์แรงยกของเครื่องบินตอการปรับเปลี่ยนมุม Elevator

คําตอบ 2 : การเปลี่ยนแปลงคาสัมประสิทธิ์แรงยกของปกตอการปรับเปลี่ยนมุม Elevator

คําตอบ 3 : การเปลี่ยนแปลงคาสัมประสิทธิ์แรงยกของแพนหางแนวนอนตอการปรับเปลี่ยนมุม Elevator

คําตอบ 4 : การเปลี่ยนแปลงคาสัมประสิทธิ์แรงยกของแพนหางแนวดิ่งตอการปรับเปลี่ยนมุม Elevator

ขอที่ : 439

การเพิ่มคา Horizontal tail volume ratio จะทําใหตําแหนงของ Neutral point เปลี่ยนแปลงอยางไร

คําตอบ 1 : Neutral point เลื่อนไปทางดานหนา

คําตอบ 2 : Neutral point เลื่อนไปทางดานหลัง

คําตอบ 3 : Neutral point อยูที่ตําแหนงเดิม

คําตอบ 4 : Neutral point เลื่อนไปทางดานขวา

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

140 of 145

Page 141: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอที่ : 440

การเพิ่มคา Elevator control power

ของเครื่องบินจะสงผลอยางไร

คําตอบ 1 : เพิ่มขนาดของมุม Elevator ที่ตองการสําหรับ trim condition

คําตอบ 2 : ลดขนาดของมุม Elevator ที่ตองการสําหรับ trim condition

คําตอบ 3 : ทําใหเครื่องบินมีระดับเสถียรภาพเพิ่มขึ้น

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ

ขอที่ : 441

ขอใดตอไปนี้คือคุณลักษณะที่ตองการของเครื่องบินสําหรับ Longitudinal static stability

คําตอบ 1 : มีคาเปนลบ และ มีคาเปนบวก

คําตอบ 2 : มีคาเปนบวก และ มีคาเปนบวก

คําตอบ 3 : มีคาเปนบวก และ มีคาเปนลบ

คําตอบ 4 : มีคาเปนลบ และ

มีคาเปนลบ

ขอที่ : 442

ขอใดตอไปนี้คือคุณลักษณะที่ตองการของเครื่องบินสําหรับ Directional static stability

คําตอบ 1 : มีคาเปนบวก

คําตอบ 2 : มีคาเปนลบ

คําตอบ 3 : มีคาเทากับ 0

คําตอบ 4 : มีคาเทากับ 1

ขอที่ : 443

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

141 of 145

Page 142: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ขอใดตอไปนี้คือคุณลักษณะที่ตองการของเครื่องบินสําหรับ Lateral static stability

คําตอบ 1 : มีคาเปนบวก

คําตอบ 2 : มีคาเปนลบ

คําตอบ 3 : มีคาเทากับ 0

คําตอบ 4 : มีคาเทากับ 1

ขอที่ : 444

เครื่องบินลําหนึ่งมีคา lift curve slope เทากับ 0.1/deg และ Cm

α = -0.04/deg เครื่องบินลํานี้จะมีคา static margin เทาใด

คําตอบ 1 : 0.14

คําตอบ 2 : 0.40

คําตอบ 3 : 2.5

คําตอบ 4 : -2.5

ขอที่ : 445

ถาเครื่องบินลําหนึ่งมีเสถียรภาพแบบ longitudinal แลว คํากลาวขอใดตอไปนี้เปนจริง

คําตอบ 1 : Static margin เปนคาลบ

คําตอบ 2 : เปนคาลบ

คําตอบ 3 : เปนคาบวก

คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ

ขอที่ : 446

สวนประกอบของเครื่องบินสวนใดมีผลกระทบตอคา

มากที่สุด

คําตอบ 1 :

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

142 of 145

Page 143: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

ปก

คําตอบ 2 : หางแนวระดับ

คําตอบ 3 : หางแนวดิ่ง

คําตอบ 4 : ลําตัว

ขอที่ : 447

สวนประกอบของเครื่องบินสวนใดมีผลกระทบตอคา

มากที่สุด

คําตอบ 1 : ปก

คําตอบ 2 : หางแนวระดับ

คําตอบ 3 : หางแนวดิ่ง

คําตอบ 4 : ลําตัว

ขอที่ : 448

โดยทั่วไป ระหวางเครื่องรอน (Glider) กับเครื่องบินรบ (Fighter) เครื่องบินแบบไหนจะมีคา

มากกวากัน

คําตอบ 1 : เครื่องบินรบ

คําตอบ 2 : เครื่องรอน

คําตอบ 3 : ทั้งสองแบบมีคา เทากัน

คําตอบ 4 : ขอมูลไมเพียงพอที่จะตอบได

ขอที่ : 449

เมื่อเราตองการทําให lateral-directional stability derivatives เปนคาที่ไรหนวย เราจะใชตัวแปรในขอใดเปน characteristic length

คําตอบ 1 : Xcg

คําตอบ 2 : Fuselage length

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

143 of 145

Page 144: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 3 : Wing chord

คําตอบ 4 : Wing span

ขอที่ : 450

ถาเครื่องบินมีมุม sideslip ขนาดเทากับคา β องศา และ sidewash ที่เปนผลเนื่องมาจาก wing tip vortices มีขนาดเทากับ σ องศาแลว แพนหางแนวดิ่งของเครื่องบินจะมีมุมปะทะกับ

ความเร็วสัมพัทธขนาดเทาใด

คําตอบ 1 : β คําตอบ 2 : σ−β คําตอบ 3 : β−σ คําตอบ 4 : β+σ

ขอที่ : 451

สําหรับเครื่องบินมีแตลําตัวและปก ไมมีแพนหางแนวดิ่ง คา ของเครื่องบินจะมีคาเทาใด

คําตอบ 1 : เทากับ 0

คําตอบ 2 : มากกวา 0

คําตอบ 3 : นอยกวา 0

คําตอบ 4 : เทากับ 1

ขอที่ : 452

ถาเครื่องบินลําหนึ่งมีคุณลักษณะของคา และ เปนไปตามสมการขางลางนี้แลว ขอใดตอไปนี้กลาวไดถูกตองเกี่ยวกับเครื่องบินลํานี ้

คําตอบ 1 : มีเสถียรภาพทั้งทาง Longitudinal และทาง Directional

คําตอบ 2 : ไมมีเสถียรภาพทั้งทาง Longitudinal และทาง Directional

คําตอบ 3 : ไมมีเสถียรภาพทาง Longitudinal แตมีเสถียรภาพทาง Directional

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

144 of 145

Page 145: Council of Engineer (Thailand)  2215 Mechanics of Flight

คําตอบ 4 : มีเสถียรภาพทาง Longitudinal แตไมมีเสถียรภาพทาง Directional

สภาวิศวกรขอสงวน

สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย

145 of 145