บทที่ 4

การสรางชิ้นงานในสวนของ Part

การสรางชิ้นงานในสวน ในโปรแกรม จะแบงออกเปน 2 สวนคือสวนแรก การสรางรูปสเกทช ใน

หมวดคําสั่ง Sketch Tools และสวนที่ 2 จะเปนคําสั่งในการสราง Feature ทําใหรูปสเกทชมีความหนา

ชิ้นงาน 3 มิติ การเลือกพ้ืนผิวในการสราง Profile Sketch น้ัน จะเปนขั้นตอนที่ตอเน่ืองจากขั้นตอนแรก

คือ การเลือกระนาบในการ Profile Sketch จะตองทําการขึ้นรูปชิ้นงานเปน 3D เสียกอน โดยเมื่อเราขึ้น

รูปเปน 3D แลว เราสามารถพิจารณาเลือกพ้ืนผิวสวนไหนไดในการสราง Sketch โดยจะตองเปนพ้ืนผิว

ที่เรียบ อยางเชน กลองสี่เหลี่ยมหนึ่งกลอง จะมีดานจํานวน 6 ดาน โดยเราสามารถที่จะเลือกดานใดดาน

หน่ึงเพื่อที่จะสราง Sketch 2D ก็ได แตพ้ืนผิดที่เปนสวนโคงเราไมสามารถเลือกพ้ืนผิวในการสราง

Profile Sketch ไดซ่ึงการที่จะ Sketch บนพื้นผิวที่เปนสวนโคงจะตองเลือกระนาบในการสราง Profile

Sketch เทาน้ัน

ขั้นตอนการพิจารณาเลือกพื้นผิวในการสราง Profile Sketch

1. ทําการสรางชิ้นงานที่เราจะออกแบบ

2. นําเมาสไปคลิกที่พ้ืนผิวที่เราตองการสราง Profile Sketch โดยใหเราพิจารณาทิศทางของดาน

ที่ตองการสราง Profile Sketch ตาม Reference Triad

3. นําเมาสไปคลิกที่ Sketch Command เพ่ือทําการเปดคําสั่งที่ใชในการสราง Profile Sketch

4.1 การสรางเอกสารตนแบบ Part Template

การสรางเอกสารแบบ Part Template คือการกําหนดรายละเอียดตาง ๆ เชน หนวยที่จะใชใน

การสรางชิ้นงาน, Font และขนาดของตวัเลขบอกขนาด, ขนาดหัวลูกศรของเสนบอกขนาดตาง ๆ เหลาน้ี

เพ่ือใหเปนเอกสารตนแบบไวสําหรับการออกแบบ Model ในชิ้นตอไป โดยเราไมตองสรางเอกสารนี้อีกครั้ง

เม่ือเราทําการกําหนดรายละเอียดของเอกสารเรียบรอยแลว ก็จะมาเรียนรูถึงวิธีการบันทึกเอกสารที่เปน Part

Template (*.prtdot) โดยขั้นตอนการกําหนดรายละเอียดในเอกสารมีดังตอไปนี้

1. เขาสูโปรแกรมโดยการคลิกที่ Start > All Program > SolidWorks 2005

2. คลิก New ก็จะปรากฏ Dialog Box New SolidWorks Document ขึ้นมาเลือก [Tab]

Tutorial คลิก Part คลกิ OK

39

3. นําเมาสไปที่ Menu Bar > Tools > Options จะปรากฏ Dialog Box Document

Properties ขึ้นมาคลิก [Tab] Document Properties กําหนดตาง ๆ ดังน้ี

การเลือกรูปแบบ Dimensions

- เลอืกคลิก Dimension - คลิกใหมีเครื่องหมายถูกหนา Center between extersion lines

- เลอืกรูปแบบหัวลูกศรเปนแบบทึบดังรูป

- คลิกปุม Leaders จะปรากฏ Dialog Box Dimension Leaders/Text ขึ้นมาเพื่อให

เรากําหนดรูปแบบการกําหนดขนาดดังรูป

.

ภาพที่ 4.1 หนาตาง Dialog Box Document Properties

การเลือกรูปแบบ Arrow

- เลอืกคลิก Arrow

- กําหนดขนาด Height = 2 mm

- กําหนดขนาด Width = 2 mm

- กําหนดขนาด Length = 9 mm

40

ภาพที่ 4.2 การเลือกรูปแบบ Arrow

การเลือกรูปแบบ Annotations Font

- เลอืกคลิก Annotations Font

- นําเมาสไปที่ Annotations Type เลือกคลิก Dimension จะปรากฏ Dialog Box

Choose Font เพ่ือใหเลือกรูปแบบ Font, Font Style, Height

- เลอืกคลิกที่ Point กําหนดขนาดตัวหนังสือเปน 12

- คลิก OK

41

ภาพที่ 4.3 การเลือกรูปแบบ Annotations Font

การเลือกรูปแบบ Unit

- เลอืกคลิก Unit

- นําเมาสไปคลิกที่ Custom

- นําเมาสไปคลิกที่ Linear Unit เลือก Unit เปน Millimeters

- กําหนดตําแหนงทศนิยมของการบอกขนาดที่ Decimal Places

- เลอืก Angular Unit’s เปน Degrees

42

ภาพที่ 4.4 การเลือกระบบหนวยการวัด

การเลือกรูปแบบ Image Quality

- เลอืกคลิก Image Quality

- นําเมาสไปที่ Shaded and draft quality กําหนดเปน High [shower]

- เลอืกคลิก OK

43

ภาพที่ 4.5 การเลือกรูปแบบ Image Quality

4. การบันทึกไฟลเปน Part Template

1. นําเมาสไปที่ File เลือกคลกิ Save As

2. นําเมาสไปคลิกที่ Save As Type เพ่ือเปลี่ยนนามสกุลใหเปน Part Template (*,prtdot)

3. ตั้งชื่อในสวน File Name เปน Metric (สังเกต File ที่บันทึกใหอยูใน Directory ของ

Tutorial)

4. คลิกที่ปุม Save

5. นําเมาสไปที่ Menu Bar > File เลือกคลิก Exit

ภาพที่ 4.6 หนาตางการเลือกรูปแบบการจัดเก็บ

44

5. การเปดไฟล Part Template ออกมาใชงาน

1. นําเมาสไปที่ File เลือกคลกิ New จะปรากฏ Dialog Box New SolidWorks Document

2. นําเมาสไปคลิกที่ [Tab] Tutorial จะปรากฏ Part Template ที่เราไดสรางไว Metric

3. คลิกปุม OK เพ่ือเขาสูการสรางเอกสารใหมในสวนของ Part

ภาพที่ 4.7 การเปดไฟล Part Template

45

4.2 การสรางชิ้นสวนงานในสวนของ Part

การสรางรูปสเกทช( Proflie Sketch) สามารถทําไดดังน้ี

ภาพที่ 4.8 การพิจารณาเลือกพ้ืนผิวในการสราง Profile Sketch

1. การสรางรูปสเกทซ ควรสรางบนระนาบที่สมบรูณที่สุด เพราะหากเขียนรูปสเกทช

สมบรูณแลว การแกไขชิ้นงานก็จะงายขึ้น

- จากรูป Top Viwe จะขึ้นรูปเปนรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผา

- จากรูป Front View จะขึ้นรูปเปนรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผาเชนเดียวกัน

- จากรูป Right View จะขึ้นรูปเปนรูปทรงเลขาคณิตที่มีรายละเอียดมากกวา

มุมมองระนาบอื่น และเมื่อขึ้นรูปแลวจะประหยัดเวลาในการเขียน

ภาพที่ 4.9 การสเกทชรูปหนาตัดของชิ้นงาน

46

2. ใช Smart Dimensions กําหนดขนาดของรูปสเกทช

- Fully Defined Sketch คือแบบบอกขนาดและความสัมพันธครบ แสดง

ตัวหนังสือเปนสีดํา

- Under Defined Sketch จําเปนตองมีการบอกขนาดหรือกําหนด

ความสัมพันธใหครบ แสดงตัวหนังสือเปนสีนํ้าเงิน

- Over Defined Sketch การกําหนดขนาดเกินหรือขัดแยงกัน จะแสดงเปน

ตัวหนังสือเปนสีแดง

ภาพที่ 4.10 การแสดงขนาดของชิ้นงานโดยคําสั่ง Smart Dimensions

47

4.3 การใชคําสั่ง Extrude Boss/Base คําสั่ง Extrude Boss/Base อยูในคําสั่งหมวด Feature Commands ซ่ึงทําให

เสนสเกทช 2 มิติ มีความหนาเปนชิ้นสวน 3 มิติ โดยมีขั้นตอนการสรางดังน้ี

การใชคําสั่ง Extrude Boss/Base ชิ้นงานใหหนาขึ้น 50 mm.รูปแบบการยืด Blind

ภาพที่ 4.11 การใชคําสั่ง Extrude Boss/Base

4.4 การใชคําสั่ง Extrude Cut

คําสั่ง Extrude Cut เปนอีกคําสั่งหนึ่งอยูในหมวด Featrude Comanad ลักษณะจะทํางานตรงขามกับคําสั่ง Extrude Boss/Base คือจะตัดเฉือนชิ้นงานออกไปตามรูปรางที่สเกทชโดยมีขั้นตอนกรสรางดังน้ี

48

1. เลือกระนาบบนของ Extrude 1 สเกทชเสน Centerline จากน้ันเขียนรูปสี่เหลียมดังรูป

ภาพที่ 4.12 การสเกทชรูปสี่เหลี่ยมในใชคําสั่ง Extrude Cut

2. เลอืกรูปสเกทชรูปสี่เหลีย่ม 2 รูปจากนั้นใชคําสั่ง Extrude Cut ตัดชิ้นงานออก

28 mm.

3. พ้ืนผิวของรูปสเกทช Extrude 1 ดานบนโดยเมาสจะเปลี่ยนสัญลักษณ จากน้ันเขียน

รูปวงกลมรัศมี 20 mm ลงผิวของรูปสเกทช Extrude 1

49

4. เลอืกรูปสเกทชวงกลม จากน้ันใชคําสั่ง Extrude Boss/Base เพ่ิมความหนาวงกลม

เปน 30 mm.

ภาพที่ 4.13 ใชคําสั่ง Extrude Boss/Base เพ่ิมความหนาวงกลม

6. สเกทชรูปสี่เหลียมลงบนพื้นผิวดานบน Extrude 2 ขนาดความกวาง 16 mm ดังรูป

7. เลือกรูปสเกทชสี่เหลี่ยม จากน้ันใชคําสั่ง Extrude Cut ตัดชิ้นงานออก 20 mm.

ภาพที่ 4.14 การสเกทชรูปสีเหลี่ยมในใชคําสั่ง Extrude Cut

8. จัดเก็บชิ้นงานชื่อวาไฟล Ex1

50

4.5 การแกไขและปรับเปลี่ยนขนาด การแกไขหรือปรับเปลี่ยนขนาดของชิ้นงานที่สรางขึ้น ทําไดโดยนําเมาสไปวางที่ Featured

Manager Design Tree จากน้ันคลิกเมาสขวาที่ตองการแกไขรายละเอียด ทําใหสะดวกในการออกแบบเปน

รูปจําลองหลายแบบได มีขั้นตอนการใชงานดังน้ี

1. นําเมาสไปวาง Featured Manager Design Tree และเลือก Extrude 2 คลิกเมาส

ดานขวาเลือก Edit Sketch

ภาพที่ 4.15 การแกไขขนาดวงกลม

51

2. ดับเบิ้ลคลิกที่เสนบอกขนาดเปลี่ยนขนาดเสนผานศูนยกลางเปน 30 mm แลวกด Enter

ภาพที่ 4.16 การแกไขขนาดในคําสั่ง Edit Featured

3. เลือก Extrude 2 คลิกเมาสดานขวาเลือก Edit Featured

4. เปลี่ยนระยะการยืดเปน 50 mm. แลวกด Enter

ภาพที่ 4.17 การเปลี่ยนระยะการยืดในคําสั่ง Edit Featured

52

4.6 การใชคําสั่ง Fillet ในสวนน้ีจะเปนการลบมุมของขอบชิ้นงานใหมีสวนโคง โดยเราสามารถกําหนดคารัศมีสวนโคงได

และในการลบขอบสามารถทําไดมากกวา 1 ขอบของชิ้นงานที่อยูใน Feature เดียวกัน

ภาพที่ 4.18 ภาพแสดงรายละเอียดของชิน้งาน

1. สเกทชรูปสี่เหลี่ยม ขนาด 200x200 mm. เพ่ิมความหนา เปน _60 mm

ภาพที่ 4.19 การขึ้นรูปสี่เหลี่ยมโดยคําสั่ง Extrude Boss/Base

53

2. ใชคําสั่ง Fillet ลบมุมทั้งสี่ดาน รัศมี 30 mm

ภาพที่ 4.20 การลบมุมโดยคําสั่ง คําสั่ง Fillet

4.7 การใชคําสั่ง Linear Pattern การใชคําสั่ง Linear Pattern เปนการสรางสําเนาเปนชุดของFeature ในแนวแกนนอนและตั้ง

ซ่ึงเราสามารถกําหนดจํานวน ระยะหาง ของ Feature โดยมีขั้นตอนดังน้ี

1. สเกทชรปู วงกลมรัศมี 30 mm.จากน้ันใชคําสัง่ Extrude Cut เลือกรูปแบบเปน Through All

ภาพที่ 4.21 การสเกทชรูปวงกลมรัศมี 30 mm

54

2. Linear Pattern ทําสําเนา เจาะรูเพ่ิม 4 ร ู D1= 140 mm. direction 1 เปน edge 1

D2= 140 mm. direction 1 เปน edge 2

ภาพที่ 4.22 การทําสําเนาโดยคําสั่ง Linear Pattern

3. รูปสเกทช วงกลมรัศมี 100 mm. เพ่ิมความหนา เปน 50 mm

ภาพที่ 4.23 การสรางรูปทรงกระบอก

55

4. ลบมุม บริเวณรอยตอของ Extrude 1 กับ Extrude 2 คําสั่ง Fillet รัศมี 10 mm

ภาพที่ 4.24 การลบมุม โดยคําสั่ง Fillet

5. สเกทชรูป วงกลม รัศมี สเกทชรูป วงกลม รัศมี 35 mm บนผิวหนาระนาบของทรงกระบอก

เจาะทะลุ Extrude Cut เลอืกเปน Through All

ภาพที่ 4.25 การเจาะทะลุ โดยคําสั่ง Extrude Cut

56

4.8 การใชคําสั่ง Shell

เปนอีกคําสั่งหนึ่งที่ทํางานคลายกับ คําสั่ง Extrude Cut โดยการตัดชิ้นงานออกใหมีความหนา

ของขอบตามที่เราตองการโดยมีขั้นตอนดังน้ี

1. เลอืกระนาบฐานลาง Extrude 1 ลบเนื้อชิ้นงานออกดวยคําสั่ง Shell ความหนาของขอบ 10 mm

ภาพที่ 4.26 การใชคําสั่ง Shell

57

2. ลบมุมรอยตอ ดวยใชคําสั่ง Fillet ลบมุมทั้งสี่ดาน รัศมี 10 mm

ภาพที่ 4.27 การลบมุมของชิ้นงาน

3. จัดเก็บชิ้นงานชื่อวาไฟล Ex1